xs
xsm
sm
md
lg

“เด็จพี่” จวกกลุ่ม 40 ส.ว.ขวางแก้ รธน.เสพติดอำนาจ “อนุสรณ์” ซัด “อภิสิทธิ์” ความจำสั้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย (ภาพจากแฟ้ม)
โฆษกเพื่อไทย ซัดกลุ่ม 40 ส.ว.ออกโรงยื่นศาลตีความชำเรา รธน. บอกตกยุค เสพติดอำนาจ สงสัยทำไมรัฐบาล ปชป.เคยแก้ไขใน 2 มาตราไม่ออกมาค้าน อ้างที่ลงมือเพราะไม่เป็นประชาธิปไตย ด้านรองโฆษกพรรคฯ ใหม่ถอดด้าม เหน็บ “อภิสิทธิ์” ความจำสั้น เคยแก้รายมาตราให้ตัวเองได้ประโยชน์ หวังชนะเลือกตั้ง

วันนี้ (21 มี.ค.) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ ส.ว.สรรหาบางคนออกมาคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา โดยจะยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้เป็นการแก้เพื่อให้เป็นประชาธิปไตย เป็นที่ยอมรับของสากล และเท่าที่ทราบประชาชนส่วนใหญ่ก็เห็นด้วย อีกทั้งการแก้รายมาตรายังเป็นการเดินตามคำแนะนำของศาลรัฐธรรรมนูญ ตนสงสัยว่าสมัยรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ก็เคยแก้ไขใน 2 มาตรา ทำไมวันนั้น ส.ว.กลุ่มนี้จึงไม่ออกมาค้าน ไปมุดหัวอยู่ที่ไหน แต่พอเป็นรัฐบาลชุดนี้ก็ค้านทุกเรื่อง ทำตัวเป็น ส.ว.ฝ่ายค้าน

“ส.ว.สรรหาบางคนยังตกยุค เสพติดในอำนาจ และน่าจะเป็นทายาทของเผด็จการ คนเหล่านี้คือพวกที่ขัดขวางประชาธิปไตย ขอให้ประชาชนใช้มาตรการทางสังคมตรวจสอบคนพวกนี้ด้วย ผมเห็นว่าสาเหตุที่ ส.ว.สรรหาออกมาคัดค้านน่าจะเป็นเพราะกำลังจะจมน้ำตาย จะไม่มี ส.ว.สรรหาอีกแล้วมากกว่า รู้ตัวว่าถ้าไปลงเลือกตั้งแล้วประชาชนจะไม่เลือกใช่หรือไม่ ขอร้องให้คิดถึงหัวอกประชาชนและระบอบประชาธิปไตยบ้าง อย่าคิดถึงแต่เรื่องตัวเอง” นายพร้อมพงศ์กล่าว

นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า สำหรับการแก้ไขในมาตรา 68 และ 237 ที่เกี่ยวข้องกับการยุบพรรค ตัดสิทธิ์นักการเมืองนั้น เนื่องจากเนื้อหาไม่เป็นประชาธิปไตย ทำให้พรรคการเมืองและนักการเมืองอ่อนแอ ไม่มีประเทศไหนในโลกที่คนเดียวทำผิดแต่ยุบทั้งพรรค อยากเรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์มาร่วมแก้ไขในเรื่องนี้ แม้ที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยถูกยุบ แต่ก็เคยถูกร้องมาแล้ว อย่ามองว่าพรรคตัวเองมีภูมิคุ้มกัน หรือพกพระรอดไว้ตลอด ควรเห็นแก่หลักประชาธิปไตยที่เป็นหลักสากลบ้าง

ส่วนกรณีสมาชิกบ้านเลขที่ 109 จะพ้นโทษถูกตัดสิทธิทางการเมืองเร็วกว่าเดิม หากแก้ไขรัฐธรรมนูญสำเร็จนั้น การแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้วเกิดประโยชน์ต่อใครโดยไม่เลือกปฏิบัติ ถือเป็นเรื่องปกติ สมาชิกบ้านเลขที่ 109 ก็ไม่ได้มีแค่พรรคเพื่อไทยพรรคเดียว และเหลือเวลาไม่กี่เดือนก็จะพ้นโทษอยู่แล้ว การหลุดออกมาเร็วขึ้นไม่กี่เดือน ไม่ได้มีนัยทางการเมืองอะไร อย่าไปมองการเมืองด้วยจิตใจคับแคบ ตนคิดว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้น่าจะผ่านไปด้วยดี ไม่มีการเผชิญหน้าใดๆ เพราะชัดเจนว่าเป็นการแก้เพื่อประชาธิปไตย ไม่มีมาตราไหนที่โยงว่าช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ดังนั้นขอให้ฝ่ายที่มีวาระซ่อนเร้นอย่าพยายามออกมาบิดเบือน ว่าแก้เพื่อใครคนใดคนหนึ่งอีก

ด้านนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ซึ่งวันนี้ได้ร่วมแถลงข่าวเป็นครั้งแรก กล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า รัฐบาลติดหล่มอยู่กับเรื่องผลประโยชน์ ในการเดินหน้านิรโทษกรรม และแก้รัฐธรรมนูญตามแนวทางที่ต้องการว่า ไม่แน่ใจว่านายอภิสิทธิ์แกล้งจำไม่ได้ หรือความจำสั้นจริงๆ ถึงจำไม่ได้ว่าตอนเป็นรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ก็แก้รัฐธรรมนูญแบบรายมาตรามาแล้ว ถึงขั้นให้นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ เป็นประธานคณะกรรมการศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เสนอแก้ 6 มาตรา แต่นายอภิสิทธิ์ก็เลือกแก้เอาเฉพาะที่ตัวเองได้ประโยชน์ คิดว่าจะทำให้ชนะการเลือกตั้ง แล้วก็หวังจะนอนกอดรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไว้ตลอด

ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ไม่คิดจะกลับมาเป็นนายกฯ อีกหรือ ถึงไม่เห็นความสำคัญในการแก้มาตรา 190 ที่ทุกวันนี้การแข่งขันสูง แต่ทุกการทำสัญญาต้องผ่านสภา ราวกับทำการบริหารผ่านกระบวนการรัฐสภา หรือมาตรา 237 ที่ทำให้พรรคการเมืองถูกยุบง่ายเหลือเกิน แล้วค่อยมาเฉลยตอนหลังว่าเพียงเพราะบ้านเมืองวุ่นวาย หรือเสียดายเครื่องมือที่จะเอาไว้ใช้ทำลายคู่แข่งทางการเมือง วันนี้ เราควรหันมาคุยกันด้วยเหตุด้วยผล อย่าติเรือทั้งโกลน ตัวเองทำอะไรได้หมด พอคนอื่นทำบ้างเหมือนกันเป๊ะ ผิดหมด แบบนี้ใช้ได้ที่ไหน นี่ไงจึงเป็นที่มาของหล่อหลักลอย ที่ไม่ใช่ได้มาเพราะโชคช่วย คุณภาพสมฉายา เสมอต้นเสมอปลายจริงๆ


กำลังโหลดความคิดเห็น