“สนธิ”ชี้ราคาทองอยู่ในช่วงไม่แน่นอน ใครจะเล่นต้องเสี่ยง แม้รัสเซีย-เกาหลี-คาซัคฯ ซื้อเก็บ แต่ประเทศที่เทขายออกมีมากกว่า ยังมีสิทธิดิ่งลงได้อีก เชื่อมีคนปั่นราคาทองเหมือนปั่นหุ้น เผยดอลลาร์น่าเล่นกว่า เหตุค่าบาทแข็งผิดปกติ สะท้อนฟองสบู่ใกล้แตก อีกไม่นานจะกลับไปที่ 30-31 บาทอีกครั้ง แนะวิธีเอา ปตท.คืน ให้รัฐบาลประกาศงดจ่ายเงินปันผล จนราคาร่วง แล้วช้อนซื้อคืน พร้อมทำลายการผูกขาดทุกอย่างของ ปตท.
วันที่ 28 เม.ย.นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ดำเนินรายการ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ-ที่นี่ไม่มีการเมือง” ทางเอเอสทีวี ซึ่งเป็นการตอบคำถามจากรายการ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” โดยมีคำถามที่น่าสนใจตอนหนึ่ง กรณีประเทศเกาหลีใต้ รัสเซีย และคาซัคสถาน ซื้อทองคำตุนเก็บไว้ในปริมาณมากจะเป็นสัญญาณอะไรหรือไม่
นายสนธิ กล่าวว่า ขณะนี้มีทั้งการซื้อทองตุนไว้และขายทองออก เพราะประเทศทางยุโรปหลายประเทศต้องขายทองออกเพื่อนำเงินมาใช้ ตนเคยบอกตอนที่ทองยังไม่ขึ้นว่าให้รีบซื้อแล้วเก็บ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเก็บไปตลอดชีวิต เมื่อใดก็ตามที่คิดว่าได้กำไรพอสมควร ก็ขายทิ้งไป ที่ราคาทองร่วงลงมา เหตุผลเพราะว่าตอนนี้ประเทศต่างๆ เริ่มเอาทุนสำรองทองคำออกมาขายเพื่อเอาเงินไปใช้หนี้ ส่วนคาซัคสถาน รัสเซีย เกาหลีใต้ซื้อเก็บ แต่ปริมาณที่เก็บสู้ปริมาณขายออกไม่ได้ ในขณะเดียวกันก็มีคนซึ่งเล่นทอง ก็มองว่าทองมันราคาร่วงแล้ว ก็ทำให้ร่วงต่อไปเรื่อยๆ เพื่อให้คนเข้ามาช้อนซื้อ จนราคาทองขึ้นก็จะเทขายอีกทีหนึ่ง ทองจึงกลายเป็นหุ้นไปแล้ว
ส่วนจะใช้เวลาอีกนานแค่ไหนราคาทองจึงจะดีดตัวกลับนั้น นายสนธิกล่าวว่า แม้ราคาทองจะตกลงมามากจนเหลือบาทละ 18,000-19,000 จาก 20,000 กว่า หรือตกมา 30-40 เปอร์เซ็นต์แล้ว แต่ก็ยังมีโอกาสตกอีก ขึ้นอยู่กับภาวะการณ์ของโลก ช่วงนี้เป็นช่วงแห่งความไม่แน่นอนสูง ถ้าจะเล่นก็ต้องเสี่ยง
เช่นเดียวกับเงินดอลลาร์ ทุกวันนี้ เงินบาทแข็งมาก จากดอลลาร์ละ 30 กว่าบาท ขึ้นมาเป็น 28 บาทกว่า หรือเกือบ 10 เปอร์เซ็นต์ในระยะเวลาไม่ถึง 6 เดือน และมีโอกาสถึง 27 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งถ้าถึง 27 บาท ต้องซื้อดอลลาร์เก็บไว้ เพราะโอกาสจะกลับเป็น 30-31 บาทมีสูง เหตุผลเพราะว่าเงินบาทมันแข็งผิดปกติ มันไม่ได้แข็งเพราะเศรษฐกิจเราดี หรือเพราะว่าของเราอนาคตดี แต่มันแข็งเพราะว่าเงินดอลลาร์เข้ามามากเพื่อเล่นหุ้น และแข็งเพราะฟองสบู่กำลังจะแตก ซึ่งถ้ามันแตกเมื่อไร จะมีคนถอนดอลลาร์ออกไป เงินบาทจะอ่อนยวบยาบ จาก 27-28 บาทต่อดอลลาร์ ไปถึง 30 บาทต่อดอลลาร์ ภายในไม่เกิน 2-3 เดือน โดยไม่ต้องทุบ ถ้ามีการทุบอีกก็จะยิ่งอ่อนเร็วกว่านั้น และจะยิ่งลงแรงด้วย อาจจะไปถึง 32-33 บาท เพราะฉะนั้น ตอนนี้น่าจะเล่นดอลลาร์มากกว่าทอง เพราะดอลลาร์ปล่อยได้ง่ายกว่า
ต่อมา นายสนธิได้ตอบคำถาม ถึงการนำสัมปทานทรัพยากรกลับมาเป็นของชาติเหมือนที่นายฮูโก ชาเบซ อดีตประธานาธิบดีเวเนซูเอลาได้ทำไว้ โดยนายสนธิกล่าวว่า ทำได้หลายวิธี ปตท. เอาเปรียบประชาชนมากจนเกินไป โดยเอาเปรียบ 3 เด้ง คือ เอากำไรเด้งแรกจากการผูกขาดการสั่งน้ำมันเข้า อันที่ 2 เอาเปรียบจากการเป็นเจ้าของโครงการทั้งหมด คิดราคาโรงกลั่น อันที่ 3 เอาเปรียบโดยการฮั้วราคาจำหน่ายน้ำมัน ถ้าให้คนไทย ใครก็ได้สั่งน้ำมันเข้าเอง โดยที่ไม่ให้ ปตท.ผูกขาด ก็จะมีคนสั่งน้ำมันเข้ามาแข่งขัน นอกจากนี้ ปตท.สั่งน้ำมัน กลั่นน้ำมัน ขายน้ำมัน ต้องถือว่าผูกขาดหมด ต้องทำลายส่วนที่ผูกขาด
ก่อนหน้านี้ค่ากลั่นน้ำมัน ปตท.ในอดีต สมมุติว่าลิตรหนึ่งกำไร 1 บาท พอ ปตท.เข้าตลาดหลักทรัพย์ มันกลายเป็นลิตรหนึ่งโรงกลั่นกำไร 5 บาท เพิ่มขึ้น 500 เปอร์เซ็นต์ ทั้งที่เป็นโรงเก่า พื้นดินก็ที่เก่า เครื่องมืออันเดิม ตอนนี้ ปตท.ไม่เอากำไรมาก แต่เอาไปพักที่โรงกลั่นย่อย เพราะกลัวว่าผลประกอบการออกมาสิ้นปี กำไรแสนกว่าล้านคนจะด่า ดังนั้น แม้กำไรของ ปตท.จะเหลือ 4-5 หมื่นล้านก็เพราะเอาไปซ่อนไว้ และ 12 ปีที่ ปตท. แปรรูปกำไรสะสมเบ็ดเสร็จรวมทุกปี 9 แสนกว่าล้าน เกือบ 50 เปอร์เซ็นของเงินกู้ 2 ล้านล้านที่รัฐบาลจะกู้
นายสนธิกล่าวอีกว่า ถ้ารัฐบาลมีความจริงใจ ในการแก้ปัญหา รัฐบาลพูดชัดเจนได้เลย เพราะเป็นเจ้าของ ปตท. โดยใช้เสียงข้างมากที่อยู่ในที่ประชุม บอกว่ากำไร ปตท.จะไม่ปันผล จะเอากำไรนั้นแบ่งออกมา ครึ่งหนึ่งมาเป็นสาธารณะประโยชน์ เพื่อช่วยราคาน้ำมันเท่านั้น ถ้าหุ้น ปตท.ตก ก็ให้ตกไป รัฐบาลก็ซื้อคืนมา
“คือปรัชญา และตรรกะ และความถูกต้อง ของคำว่าต้องแปรรูป ปตท. จนวันนี้ผมยังหาไม่เจอเลย อยู่ตรงไหน ปตท.แปรหรือไม่แปร ก็อีกคนทำงานชุดเดิม ใช่ไหม เพราะกิจการ ปตท. ไม่มีอะไรเลย นอกจากสั่งน้ำมันเข้า กลั่นน้ำมันเสร็จเรียบร้อยแล้ว เอารถน้ำมันไปจ่ายตามปั๊มต่างๆ มีอยู่แค่นี้เอง และทำไมจะต้องแบ่งกำไรปีละแสนกว่าล้าน ให้กับเอกชนเหลืออีก 49 เปอร์เซ็นต์เพื่ออะไร”นายสนธิกล่าวและว่า การแปรรูป ปตท. คือการปล้นทรัพยากรธรรมชาติของประเทศที่บีบคอคนไทยอยู่ ที่คนไทยไม่มีทางเลือกต้องใช้น้ำมัน และเอาไปให้พวกเอกชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกนักการเมืองที่จะมาในรูปแบบของนอมินีจากเมืองนอก
คำต่อคำ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ-ที่นี่ไม่มีการเมือง ” อาทิตย์ที่ 28 เม.ย. 2556
รายการ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ-ที่นี่ไม่มีการเมือง” ออกอากาศทางเอเอสทีวี ทุกวันอาทิตย์ที่ 4 ของเดือน เวลา 18.30 - 20.00 น. วันอาทิตย์ที่ 28 เมษายน 2556 ดำเนินรายการโดย นายสนธิ ลิ้มทองกุล นางจินดารัตน์ เจริญชัยชนะ และ นางสาวกมลพร วรกุลร่วมดำเนินรายการ
กมลพร - สวัสดีค่ะ
จินดารัตน์ - สวัสดีค่ะ คุณผู้ชมคะ ขอต้อนรับคุณผู้ชมเข้าสู่รายการคุยทุกเรื่องกับสนธิที่นี่ไม่มีการเมือง เราจะออกอากาศกันทุกวันอาทิตย์นะน้องเก๋
กมลพร- เดือนนึง 1 ครั้ง
จินดารัตน์- ทุกวันอาทิตย์ที่ 4 ของเดือน
กมลพร- ก็ประมาณเดือนละ 1 ครั้ง ในการที่เราจะมานั่งตอบคำถาม ตอบจดหมาย ตอบกระทู้ ตอบข้อข้องใจ ตอบทุกเรื่องจริงๆ นะคะ ซื้อทีวีเราก็ตอบได้
จินดารัตน์- ที่น้องเก๋เขาบอกซื้อทีวีก็ตอบได้ คือมีคนถามเข้ามาในเฟซบุ๊กส่งจดหมายมา เรารวบรวมมามีคำถามหลากหลายเรื่องชีวิตส่วนตัว การศึกษา ครอบครัว อะไรก็แล้วแต่เศรษฐกิจคุณสนธิจะตอบให้หมดเลยแม้กระทั่ง ซื้อทีวียี่ห้ออะไรดียังไม่มั่นใจเลยนะ ถามคุณสนธิ
กมลพร- สุขภาพทางกาย ทางใจ และทางความสัมพันธ์กับภรรยาก็ตอบได้นะคะ ก็มีคำถามเหมือนกัน ทีนี้เรามีช่องทางในการที่จะให้ถามหลายช่องทาง แต่ถ้าเกิดใครไม่ถนัดอยู่ในเฟซบุ๊ก ซึ่งเป็นเฟซบุ๊กคุยทุกเรื่องกับสนธิอยู่แล้ว ก็สามารถที่จะเขียนจดหมายมาได้นะคะ เพราะว่าผู้ชมของเราส่วนใหญ่สูงวัย ถนัดเขียนจดหมายก็สามารถเขียนจดหมายมาได้นะคะ ที่รายการที่นี่ไม่มีการเมือง คุยทุกเรื่องกับสนธิ 102/1 อาคารบ้านเจ้าพระยา ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
จินดารัตน์- เพราะฉะนั้นทุกศุกร์ที่เราตอบคำถามกันช่วงท้ายรายการคุยทุกเรื่องกับสนธิ ยกยอดมาทั้งหมดเลยแต่ละเดือนเราจะเอามาตอบกันวันอาทิตย์แบบนี้ สบายๆ ทำไมบอกว่า เอ๊ะทำไมคุยทุกเรื่องกับสนธิที่นี่ไม่มีการเมือง ก็มีแบบภาพใหญ่ๆ แต่แบบไปเจาะลึกว่า อย่างนั้นอย่างนี้พรรคโน้นจะชนะพรรคนี้ โหวตแล้วจะเป็นอย่างไร เราจะไม่ตอบกันเพราะวันศุกร์เราตอบกันเยอะแล้วนะคะ
กมลพร- ไม่ใช่กลัวของขึ้นหรอคะ
จินดารัตน์- อันนั้นอีกเรื่องนึง งั้นพบกับเจ้าของรายการเลยนะคะ คุณสนธิคะ สวัสดีค่ะ
สนธิ- สวัสดีครับ
จินดารัตน์- ยิ้มๆ ที่นี่ไม่มีการเมือง แต่ว่าการเมืองภาพรวมใหญ่ๆคุณสนธิยังอยากจะตอบให้อยู่
สนธิ- ถ้าโดยหลักแล้ว ถ้าอย่างเช่นถามว่า ผมคิดยังไงว่า เมืองไทยควรมีเลือกตั้งไหม อย่างนี้เป็นภาพรวมใหญ่ อธิบายได้ เพราะว่ามีรากเหง้าไปทางประวัติศาสตร์ รากเหง้าทางวัฒนธรรม เศรษฐกิจ สังคม อย่างนี้อธิบายได้ แต่ถ้าถามผมบอกว่า พรรคประชาธิปัตย์ควรจะทำยังไงให้ดีขึ้นอย่างนี้นะครับ อันนี้ผมไม่ขอตอบ ที่ไม่ขอตอบเพราะว่า 2 เหตุผลคือว่า ประการแรกมันเป็นเรื่องเล็กเกินไป ประการที่ 2.ทำยังไงก็ไม่ดีขึ้น
จินดารัตน์- ใช่ค่ะ เพราะว่าคุณสนธิพูดมาตลอดว่า ไอ้พรรคการเมืองที่มีอยู่ในบ้านเรามันห่วยแตก มันใช้การไม่ได้
สนธิ- มันไม่ใช่ห่วยแตกอย่างเดียว พรรคการเมืองทุกพรรค ในทุกพรรคขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นในประเทศไทย แม้กระทั่งประเทศในตะวันตกเองก็มีปัญหา เพราะว่าการเมืองในที่สุดแล้ว มันกลายเป็นเครื่องมือหนึ่งของทุน ทุนมันพัฒนาไปถึงจุดที่เรียกว่า มันต้องการก้าวเข้าไปสู่กระบวนการในการมีอำนาจสั่งการ เพราะฉะนั้นแล้ว พรรคการเมืองเลยกลายเป็นภาพสะท้อนของทุนใครทุนมัน ทุนบางทุนมันครอบงำทั้งสองพรรค สมมุติว่าตีซะว่า ประเทศนั้นมีสองพรรคมันครอบงำไปหมด เพราะฉะนั้นแล้วพรรคใดพรรคหนึ่งได้มันก็ได้ ไอ้คนที่จะโชคร้ายคือ ประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทางตะวันตกในทางอเมริกา ชนชั้นกลางกำลังลำบากมากๆ แล้วทุกอย่างทำๆ เพื่อทุนอย่างเดียวเลย
เพราะฉะนั้นแล้วผมคิดว่า พรรคการเมืองทั่วโลกต้องมาพิจารณากันใหม่นะครับ ประเทศอื่นช่างหัวเขา แต่ผมคิดว่าประเทศไทย โดยลักษณะพื้นฐานวัฒนธรรม พื้นฐานทางประวัติศาสตร์เราต้องพิจารณาก่อนว่า ประเทศเราเกิดขึ้นมาได้อย่างไร ประเทศเราเกิดขึ้นได้จากการต่อสู้ เรารบกับพม่ามาตลอดตั้งแต่สมัยก่อนโน้นนมนานมาแล้ว มาจนถึงยุคกรุงศรีอยุธยาแล้วต่อมาเรื่อยๆ แล้วทุกวันนี้การที่เรายังมีความขัดแย้งกับประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะรากเหง้าทางประวัติศาสตร์ที่มันมีอยู่ เหตุผลที่เรายังกระทบกระทั่งกับเขมร ส่วนหนึ่งเพราะว่าเขมรเคยเป็นประเทศราชของเรา แล้ววันนี้เขมรมาทรยศหักหลัง ทั้งๆ ที่เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร แต่ช่วงหลังช่วงนั้นยุคนั้นเขมรทรยศต่อเราเหตุผลเพราะว่า ไปพึ่งเวียดนามนะครับ แต่วันนี้เขมรทรยศต่อเรา หรือ แกล้งเราหาเรื่องเราก็เพราะว่า มีมหาอำนาจเบื้องหลัง ซึ่งก็ไม่ได้ต่างจากสมัยก่อน เพียงแต่เปลี่ยนจากเวียดนามมาเป็นอเมริกา เปลี่ยนจากเวียดนามมาเป็นจีนบ้าง เป็นอังกฤษบ้าง เป็นฝรั่งเศสบ้าง โดยมีผลประโยชน์อยู่ตรงกลาง
เพราะฉะนั้นแล้วผมเลยมองว่า เนื่องจากว่าสังคมไทยเป็นสังคม ก็คืออันนี้เป็นคำถามหนึ่งก็แล้วกันนะถือว่า ผมรู้สึกจะมีคำถามอันนี้อยู่ด้วย คือผมมีความรู้สึกว่า แอนกับเก๋รู้ไหมว่า ตอนที่ไทยสมัยก่อนโบร่ำโบราณทานข้าวด้วยมือ
จินดารัตน์- ใช่ค่ะ
สนธิ- แม้กระทั่งกษัตริย์ก็ทานข้าวด้วยมือ ไม่มีช้อนไม่มีส้อม มีช้อนส้อมเกิดขึ้นเพราะว่า พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เสด็จเยือนยุโรป และไปศึกษาเห็นว่าควรจะใช้อย่างไร เลยตัดสินใจแทนที่จะเอามีด ก็เอาแค่ช้อนส้อม ของฝรั่งมันมีครบ มันมีมีด มันมีช้อนซุป มันมีช้อนส้อมมันมีทุกอย่าง เลยใช้ช้อนส้อนแทน เพราะฉะนั้นช้อนส้อมที่คือเป็นการวิวัฒนาการและประยุกต์เอาของฝรั่งมาใช้ ซึ่งช้อนส้อมในเมืองฝรั่งเขาก็ไม่ใช่กัน เขาใช้แค่ส้อม ช้อนเขาใช้สำหรับตักซุปอย่างเดียว หลังจากนั้นเขาใช้ส้อมกับมีด เพราะฉะนั้นด้วยเหตุนี้ช้อนส้อมถ้าสะท้อนคือสะท้อน ถ้าจะการเมืองบ้านเราน่าจะเป็นการเมืองแบบช้อนส้อม
จินดารัตน์- ยังไงคะ
สนธิ- อ้าวก็คือ เราเลือกของเรามาเองว่า จะใช้ช้อนส้อมถ้าเราไปเลียนแบบฝรั่งใช้ทั้งมีด มีทั้งมีดตัดสเต็ก มีทั้งมีดตักสลัด ตักเนยขึ้นมาเพื่อทาขนมปัง เราก็ต้องยกเขามาทั้งแผง ซึ่งทุกวันนี้เรายกเขามาทั้งแผง ตอนนี้เข้าใจแล้วใช่ไหม ถ้าเราย้อนกลับไปเลือกเฉพาะส่วนที่ดีของเขาเอามามันก็จะมีประโยชน์ เหมือนกับที่คนเขาพูดบอกมาอย่างนี้ เขาบอกว่าคนไทยไปเรียนเมืองนอกเยอะ ไปเรียนให้ฝรั่งสอนเยอะๆ แต่ไม่เคยรู้จักฝรั่ง ฝรั่งตัวตนที่แท้จริงไม่ใช่คนดีนะ ของเราดีกว่าฝรั่งเยอะ แต่ความซึ่งเราไปสอนเมืองนอก เราเลยถูกฝรั่งครอบงำ ครอบงำทางความคิด ครอบงำในการใช้ชีวิต ครอบงำในเรื่องวัตถุ จนกระทั่งเราไม่เคยพิจารณาเลยว่า ฝรั่งมันดีตรงไหน ถ้าฝรั่งมันดีจริงๆ วันนี้คนจนที่ฝรั่งมีเยอะมากเลย ทำไมฝรั่งถึงลำบากมากทุกวันนี้ ทำไมปัญหาอาชญากรรมถึงสูงมากทุกวันนี้ ฝรั่งยาเสพติดถึงสูงมากทุกวันนี้ เพราะฝรั่งคือตัวการซึ่งก่อให้เกิดเหตุต่างๆ พวกนี้ เหตุผลทั้งหมดเพราะว่าทุนเป็นคนเริ่มต้น
วันนี้ค่ารักษาพยาบาลในอเมริกาแพงมาก เราเลยไปเรียนแบบฝรั่ง 30 บาทรักษาทุกโรค พอ 30 บาทรักษาทุกโรค เพื่ออะไรรู้ไหม เพื่อในที่สุดแล้วให้คนที่ไม่ต้องการรักษา 30 บาท กระโดดไปที่โรงพยาบาลเอกชน แต่ถึงที่สุดแล้วอีก 30 บาทรักษาทุกโรค มันจะรักษาไม่ได้ เพราะค่ารักษาต่อหัวที่ใช้ในขณะนี้คือ 3,000 บาท เพราะฉะนั้นแล้วด้วยนโยบายอันนี้ เขามีแนวโน้มให้คนไทยทุกคนซื้อประกันสุขภาพ เข้าใจไหมครับ วันนี้ฝรั่งคนที่ทำงานในเมืองนอก เวลาจะเกษียณอายุกลัวที่สุดในชีวิตกลัวอยู่ 2 เรื่อง ก็คือว่า ค่าภาษีบ้านที่ต้องเสียทุกปี ที่ภาษาอังกฤษเขาเรียกว่า Property Tax เก๋แม่อยู่อเมริกา คนอเมริการู้เลยว่า ที่น่ากลัวคือ Property Tax ทุกปีต้องจ่ายแล้วจ่ายแพงด้วย
อันที่ 2.คือเมื่อออกจากบริษัทแล้ว ไม่ได้เป็นลูกจ้างเขาแล้ว ประกันสุขภาพหมดไปเลย เมื่อประกันสุขภาพหมดไปแล้วตายเลยนะ ลำบากเลย คือพูดง่ายๆ ว่าสามารถจะตายบนท้องถนนได้ เพราะว่าที่อเมริกาไม่มีความเอื้ออาทร ไม่มีจิตใจ ไม่เหมือนเมืองไทย (ในอดีต) ตอนนี้เริ่มไม่มีแล้ว ในอดีตก่อนที่จะมี 30 บาทรักษาทุกโรค ผมจำได้ไม่เคยมีคนไข้คนไหนที่โรงพยาบาลปฏิเสธ
จินดารัตน์- ใช่ค่ะ
สนธิ- ถ้าไม่มีเงิน มีแต่ช่วงหลังนี้ที่โรงพยาบาลเอกชนเจริญเติบโตมามาก จนกระทั่งถ้าไปรักษาแล้ว บางรายเขาไม่ไว้วางใจเขาบอกต้องจ่ายเงินก่อน บางคนจำเป็นต้องผ่าตัดไส้ติ่งปวดมาก หมอ พยาบาล ประชาสัมพันธ์บอกว่า ยังรับไม่ได้ค่ะ มีประกันสุขภาพหรือเปล่าคะ มีเงินไหมประมาณ 20,000 บาท ถ้ามีโอนเงินมาเดี๋ยวนี้เลยได้ไหม สมัยก่อนเมืองไทยไม่ได้เป็นอย่างนี้ไง เลียนแบบฝรั่งมา โดยที่เราไปเลียนแบบความเลวของฝรั่ง เราเลียนแบบหมดทุกอย่างเลย การเมืองเราก็เลียนแบบฝรั่ง และมันบอกว่า one man one vote ของฝรั่งแท้จริงที่สุดของมันวันนี้คือ one dollar one vote เพราะอะไร เพราะการเมืองของมันถูกทุนครอบงำหมดเลย เมืองไทยก็ถูกทุนครอบงำ ผมเพิ่งเมื่อเช้านี้ มีพรรคพวกมาพวก staff เขาพูดถึงคนๆ นึงวิ่งไปหา เขาบอกตอนนี้คนๆ นี้พยาบาลจะมาหาผม บอกตอนนี้ตัวทางเลือกที่ดีที่สุดคือ ก็น่าจะเป็นคุณสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ผมว่าทำไมไปคิดอย่างนั้น เขาบอกเพราะคุณสมคิดเขามีซีพีหนุนหลัง เขามีสหพัฒน์หนุนหลัง เขามีเสี่ยเจริญหนุนหลัง เขามีโอสถสภาหนุนหลัง ผมบอกว่า มันต่างอะไรกันระหว่างซีพี สหพัฒน์ เสี่ยเจริญ โอสถสภากับ ทักษิณ ชินวัตร มันไม่ต่างเป็นเพียงแต่ต่างอย่างเดียวก็คือว่า ทักษิณกินรวบ แต่พวกนี้เอามาแบ่งกัน เอามาแบ่งในนโยบายของเศรษฐกิจ นโยบายของพ่อค้า แต่มันก็จบด้วยทุน ประชาชนไม่ได้อะไรเลย
เพราะฉะนั้นสมคิดก็คือ ตัวแทนของทุนนั้นเอง เป็นเพียงแต่ว่า คนเบื่อทักษิณก็เลยหนีมา คิดว่าสมคิดน่าจะเป็นทางออก เพราะฉะนั้นแล้วปัญญาเลยเป็นปัญหาใหญ่ของสังคมไทย เอาอย่างนี้เวลาคุณจะขับรถคุณต้องมีใบขับขี่ไหม จู่ๆ ใครจะไปขับได้ไหม
จินดารัตน์- ไม่ได้
สนธิ- เวลาคุณจะเป็นหมอ คุณต้องเรียนหมอใช่ไหม ใครจะเป็นหมอไม่ได้นะ นอกจากเป็นหมอลามกใช่ไหม ทีนี้คำถามคำนึงคนที่จะมาเล่นการเมือง หรือจะมาลงเลือกตั้งทางการเมืองควร หรือไม่ควรที่จะต้องรู้เรื่องการเมือง ควรหรือไม่ควรที่จะต้องรู้ว่าขั้นตอนของชาติบ้านเมืองเป็นอย่างไร ทุนมีอำนาจอย่างไรกับสังคมไทย สังคมไทยวันนี้เราจ่ายค่าน้ำมัน 100 บาท 2 ลิตร ไม่มีใครพูดสักคำ นั่งกินข้าวนั่งด่ากันแต่ไม่แสดงออกอะไรทั้งสิ้น ถามว่าทำไมน้ำมันแพง พูดไม่ออก โง่ไม่รู้ วันดีคืนดี ปตท.มาโฆษณาในหนังสือพิมพ์และเริ่มมาลงและ แล้วมาลงในผู้จัดการด้วย ซึ่งผมดีใจเพราะอะไรรู้ไหม เพราะว่าเมื่อลงแล้วเราก็ด่าเขากลับเหมือนเดิม เพราะเรารู้ว่าเขาโกหก ปตท.เริ่มพูดโฆษณาอะไรรู้ไหม โฆษณาบอกว่า พลังงานในประเทศไทยจะเริ่มหมดในอีก 8 ปีแปลว่าอะไร เข้าใจยัง นั่นคือการทำประชาสัมพันธ์เพื่อเดินหน้าต่อไป ด้วยเหตุนี้การเมืองของแต่ละสังคมแต่ละชาตินั้น จำเป็นต้องคำนึงถึงความอยู่รอดของชาติบ้านเมือง จำเป็นต้องคำนึงว่า สังคมไทยเป็นสังคมอะไร สังคมไทยเป็นสังคมอำนาจนิยม ไม่ใช่สังคมปัจเจกนิยม
อเมริกาเหตุผลนึงซึ่งเขายังอยู่ต่อได้ เพราะเขาเป็นสังคมปัจเจกนิยม สื่อมวลชนต้องกล้าออกมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงจะมีสื่อมวลชนที่ถูกรวบไปโดยนายทุนเยอะพอสมควร แต่ประชาชนคนอเมริกันเขาสู้ เขามีสื่อทางเลือกออกมาทางโน้นทางนี้ แต่เมืองไทยมันไม่ใช่ เมืองไทยมันถูกนายทุนยึดไปหมดเลย ปัจเจกนิยมอย่างน้อยที่สุด ถ้าน้ำมัน 2 ลิตร 1 ลิตร 100 บาท 100 บาทซื้อได้ 2 ลิตร แล้ว ปตท.โขกกำไรเยอะจากประชาชนเยอะขนาดนี้ วันนี้ที่อเมริกามันจลาจลและ เพราะอะไรเพราะความเป็นปัจเจกนิยมมันไม่ยอมกัน มันจะต้องเดินขบวน มันจะต้องมีทนายฟ้องคนโน้นฟ้องคนนี้องค์กรอิสระต้องทำ แต่เมืองไทยไม่มีเพราะเมืองไทยเป็นเมืองอำนาจนิยม แล้วด้วยความเป็นอำนาจนิยมไอ้พวกที่เล่นการเมืองมันเลยฉกฉวยตรงนี้ มาสวม one man one vote เพื่อเข้าไปมีอำนาจ เมื่อมีอำนาจแล้วคนไทยจะทำอะไรมันได้แต่ใบ้ๆ
นั้นคือที่มาที่ผมเคยพูดตลอดเวลา และผมเป็นคนคิดคนแรกว่า ประชาธิปัตย์ 4 วินาที ก็คือว่า พอเรากรอกเสร็จเราเข้าคูหาปั๊บ เราดูชื่อเรากาเสร็จ แล้วเราหยอดนับเสร็จเบ็ดเสร็จ 4 วินาที พอหมดตรงนั้นสิทธิเราหมดแล้ว เพราะว่ามันซื้อเราไปเพื่อที่จะให้เราไปเลือกมันเข้าไป เมื่อเลือกมันเข้าไปมันก้าวเข้าไปสู่ระบบอำนาจนิยมทำให้พวกมันทำอะไรก็ได้ และคนไทยมีความโง่ตรงที่ว่า เมื่อมันเป็นอำนาจนิยมแล้วมันบอกอ้าวคุณเลือกผมมา ผมมีสิทธิผมเป็นตัวแทนประชาชน ทีนี้ตัวแทนประชาชนอย่างที่ผมเคยพูดในรายการ 2-3 อาทิตย์ที่แล้วว่า เมืองไทยคือรายการสไกป์ธิปไตย เมืองไทยทุกวันนี้คือเผด็จการที่นำโดยทักษิณ ชินวัตร เพราะทักษิณ ชินวัตรอยู่เมืองนอกโทรมาสั่งว่า จะเอาอย่างนี้ วันนี้ให้ลงคะแนนเสียงอย่างนี้ ผมก็เลยถามว่า คนไทยยังมองไม่เห็นหรอ สื่อมวลชนไทยยังมองไม่เห็นหรอ คนไทยไม่มีปัญญาหรอ คำตอบก็คือว่า ใช่ๆ ด้วยเหตุนี้คนไทยจะอยู่ในระบอบประชาธิปไตยจอมปลอมแบบนี้ต่อไปไม่ได้ one man one vote จะไม่มีทางเลือก คนที่มีความสามารถ คนที่มีอาชีพ คนที่มีกิจการ คนที่มีความคิดดี คนที่เป็นครู คนที่เป็นทนาย คนที่เป็นหมอ เขาไม่มีตัวแทนเข้ามาในสภาฯ เลย เพราะว่าเราไปจบด้วยคำว่า แน่จริงสมัครรับเลือกตั้งสิ คือพูดง่ายๆ ทั้งๆ ที่ทุกคนก็รู้ว่า การเลือกตั้งครั้งนึงมันใช้เงินเท่าไร ใครจะให้หมอเอาเงินไปลงเลือกตั้ง ไม่มี
เพราะฉะนั้นด้วยเหตุนี้ ปีศาจร้ายทางการเลือกตั้ง นักการเมืองวันนี้มันมาผิดรูปผิดรอย พี่ลองพูด พล.ต.จำลองพูดตลอดเวลา นักการเมืองคือคนที่ต้องเสียสละเข้ามารับใช้ประชาชน แต่วันนี้นักการเมืองเป็นอาชีพ
จินดารัตน์- เข้ามากอบโกยอย่างเดียว
สนธิ- ใช่ เข้ามาเพื่อทำให้ตัวรวย เพราะฉะนั้นด้วยเหตุนี้จะเห็นได้ชัดว่า ด้วยเหตุนี้ด้วยช่องโหว่ที่มีอย่างนี้ การโฆษณาชวนเชื่อแบบนี้ก็เลยทำให้คนอย่างทักษิณ ชินวัตร คนอย่างเพื่อไทย หรือแม้กระทั่งคนอย่างประชาธิปัตย์ คนอย่างอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่เป็นนักการเมือง คนอย่างบรรหาร ศิลปอาชา คนอย่างสุวัจน์ ลิปตพัลลภ เอ๋ยชื่อได้หมดเลย มองเห็นช่องทางว่า นี่มันอาชีพนี่หว่า และเป็นอาชีพที่ทำให้ตัวรวยได้เร็วที่สุด และมีอำนาจ เพราะว่าเมื่อมีอำนาจแล้ว คนไทยจะฟังผู้มีอำนาจ จะไม่ตั้งคำถามๆ พวกเราต่อสู้มาหลายครั้ง ได้ยินคำพูดแบบนี้มาตลอดเวลาไม่ใช่หรอ ประท้วงไปทำไมรถติดเปล่าๆ วุ่นวาย นี่คือลักษณะคนที่ยอมสยบต่ออำนาจนิยม แต่พอถึงเวลาแล้วทุกคนก็จะบอกว่า ถ้างั้นต้องรีบเลือกตั้ง มีพรรคไหนดีไหม คือวนอยู่ในอ่างแค่นี้ คนไทยชอบวนอยู่ในอ่างน้ำเน่า
ผมถึงพูดอยู่ตลอดเวลาแล้วคนก็เริ่มมาว่าผมตอนนั้น แต่ตอนหลังเริ่มมีคนมาเห็นด้วยกับผม ผมบอกเมืองไทยต้องปล่อยให้มันล่มสลาย โทษนะต้องปล่อยให้มันฉิบหายไปเลย เรื่องเขมรดินแดนต้องให้มันเสีย เราทำไปแล้วมันจะได้รู้สึก แล้วพนันกับผมไหม เสียดินแดนไปมันก็ไม่รู้สึก
จินดารัตน์- มันก็ยังเฉยกันอยู่
สนธิ- มันก็ยังไม่รู้สึก เพราะฉะนั้นแล้วเมืองไทยจะอย่างไรก็ตาม ถ้ามันเป็นลักษณะอำนาจนิยม ลักษณะเอาคนเข้ามาต้องเอาคนที่เป็นตัวแทนเข้ามาจริง โดยไม่จำเป็นต้องเลือกตั้ง 100 เปอร์เซ็นต์ เลือกตั้งบางส่วน ในขณะเดียวกันแต่งตั้งและคัดสรรบางส่วน มันก็เป็นประชาธิปไตย ไม่เป็นประชาธิปไตยตรงไหน คุณบอกว่าเนื่องจากว่าไม่ได้มีการเลือกตั้ง ไม่ใช่ one man one vote และผมถามว่าไอ้ที่ไปลงคะแนนเสียง มันรู้เรื่องการเมืองอุปมาอุปมัยเหมือนคนที่ขับรถไม่เป็นแล้วไปขับรถ โดยที่ไม่มีใบขับขี่ มันก็อีหรอบเดียวกัน ผมเห็นเสื้อแดงมันสู้เพื่อประชาธิปไตย ประชาธิปไตยอะไรของมัน ทุกอย่างที่รัฐบาลชุดนี้ทำมันเผด็จการทั้งนั้น แต่ไอ้พวกนี้บอกสู้เพื่อประชาธิปไตย
น้ำมันที่แพงลิตรละ 100 บาท 2 ลิตร มันเคยไปต่อว่าเขาไหมว่า ทำไมมันแพง ทำไมต้องกินกำไรหัวต้น ตรงกลางแถว และตรงปลายแถว มันไม่เคยพูดมันพูดอยู่อย่างเดียว ต้องเป็นประชาธิปไตย เพราะว่ามันโง่ เวลาเราอยู่ในสังคมที่โง่ และด้อยปัญญาเราจะใช้วิธีให้คนโง่ลงคะแนนเสียงด้วยกันทั้งหมดไม่ได้หรอก เพราะว่าเมื่อมันลงคะแนนเสียงด้วยความโง่ ไอ้คนฉลาดมันจะหลอกให้คนโง่ลงคะแนนเสียงให้มัน และมันใช้ความฉลาดของมันไปครอบงำ และปกครองคนโง่ต่อไป และไอ้คนโง่มันก็ยังโง่ๆ ต่อไป
จินดารัตน์- เหมือนอย่างที่คุณ ส ธนวัฒน์ เขาบอกว่า คนไทยเหมาะสมที่จะปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยหรือเปล่า หรือว่าเราต้องมีการปกครองในแบบของเราเอง
สนธิ- คือผมคิดว่า คำว่าประชาธิปไตยไม่ได้แปลว่า one man one vote นะ ประชาธิปไตยคือว่า ประชาชนส่วนใหญ่ได้ประโยชน์อะไร เพราะฉะนั้นแล้วคนที่จะมีสภาฯ 1 สภาฯ 2 ไม่ได้มีความหมาย อย่างเช่นถ้าจะแก้รัฐธรรมนูญเอาวุฒิทุกคนมาจากการเลือกตั้ง ก็สรุปจบลงตรงที่ว่า ในที่สุดญาติพี่น้องนักการเมืองก็เข้ามานั่งสภาฯ 1 สภาฯ 2 ซึ่งจะมีประโยชน์อะไร ก็ไม่มีประโยชน์อะไร เพราะฉะนั้นวันนี้เป็นวันที่คนที่เลือกอาชีพการเมืองเห็นว่าอาชีพนี้ดีที่สุดพยายามแก้กฎหมาย เพื่อผูกขาดให้ตัวเองได้เข้ามามีอาชีพนี้ตราบชั่วนิจนิรันดร์ เพราะว่างบประมาณแผ่นดินมา คนจนจะจนอย่างไรคุณจะผ่อนบ้านไปอีก 30 ปีก็เรื่องของคุณ คุณจะซื้อน้ำมันร้อยบาท 2 ลิตรก็เรื่องของคุณ แต่ขอให้คุณเลือกผมมา แล้วผมก็จะกินจากงบประมาณต่อไป ต่อไป ต่อไป ทั้งหมดมันเริ่มทยอยมามีผลกับประชาชน แต่ประชาชนได้แต่บ่นแต่ไม่ทำอะไรกับมัน เพราะประชาชนมีความโง่บนพื้นฐาน เหตุผล ผมเคยพูดเรื่องนี้มานานแล้ว แอนจำได้ไหมผมบอกว่า ทำไมสมัยก่อนเขาผ่อนบ้าน 15 ปี เขาผ่อนหมด ทำไมสมัยนี้ต้อง 30 ปี เพราะข้อที่ 1 บ้านแพงขึ้น ทำไมบ้านแพงขึ้นเพราะว่ารัฐบาลพรรคการเมืองทำให้บ้านแพงขึ้น เพื่อให้เจ้าสัว นายทุน อสังหาริมทรัพย์ได้กำไรมากขึ้น เมื่อได้กำไรมากขึ้นจะขายบ้านขายได้อย่างไร เพราะบ้านมันแพงก็ต้องลดดาวน์ลงมา จากสมัยก่อนเคยดาวน์ 30% ให้เหลือ 5% 10% เดี๋ยวนี้บางแห่งไม่ต้องดาวน์ เข้าไปอยู่ฟรีก่อนแล้วค่อยผ่อน ผ่อนก็เลยยืดจาก 15 ปี เป็น 30 ปี เพื่อให้ผ่อนยาวๆ ผ่อนถูกๆ ให้มีความรู้สึกว่ามันถูกลง ผมถามคุณคำหนึ่ง คนบางคนอยากได้บ้านใจจะขาด บ้านคือสวรรค์ ในที่สุดไปหาบ้านหลังหนึ่งประมาณ 2 ล้านกว่าบาท เป็นทาวน์เฮาส์เล็กๆ แต่อยู่โน้นเลยบางบัวทองไปอีก ประมาณ 20 กว่าโล บ้านเป็นสวรรค์จริง คุณตื่นมาตอนเช้าคุณต้องรีบมานั่งรถตู้ไปกับเมีย 2 คน รถตู้กว่าคุณจะเข้าถึงที่ทำงานได้คุณใช้เวลาเกือบ 3 ชั่วโมง แล้วเย็นคุณเลิกงาน 5 โมงเย็น กว่าจะขึ้นรถตู้ได้ 6 โมงเย็น กลับถึงบ้าน 3 ทุ่ม ผมถามว่า คุณมีบ้านเพื่อสวรรค์หรือในที่สุดมีบ้านเพื่อเป็นนรก
เพราะฉะนั้นแล้วจะเห็นได้ชัดว่า การเมืองถ้ามีนักการเมืองแบบนี้ ทุกคนเอาเข้าตัวเอง นายทุนก็มาจับมือกับนักการเมืองก็เอาเข้าตัวเองตลอดเวลา รถยนต์แต่ก่อนผมจำได้ หนุ่มๆ ผมผ่อน 3 ปีหมด เขาตั้งไว้ 36 เดือน เดี๋ยวนี้ 5 ปี 7 ปี เพื่อผ่อนยาวๆไง สรุปคือให้คนไทยเป็นหนี้ตลอดชีวิต ตายห่าแล้วยังเป็นหนี้ต่อ อีกหน่อยการผ่อนบ้านให้จำไว้เลยนะจะไม่ใช่ 30 ปีอีกต่อไปแล้ว หมายความว่าผ่อนไปเรื่อยๆ ผ่อนไปจนตาย พอตายแล้วบ้านก็ยึดคืนไป นี่คือการเมืองที่อ้างว่า ระบอบประชาธิปไตย one man one vote ไง
เพราะฉะนั้นแล้วเมื่อมันเป็น one man one vote เขาเข้ามามีอำนาจอยู่บนความโง่ของคน และเขาจงใจจะทำให้คนโง่ต่อไปด้วยการมอมเมาสื่อมวลชน ด้วยการให้ผลประโยชน์สื่อมวลชนพูดในเฉพาะ แหมถ้ามีแสนสิริโฆษณาในช่อง 3 เอย แลนด์แอนด์เฮ้าส์ โฆษณาในช่อง 5 ช่อง 9 ใครจะกล้าพูดในเรื่องที่ผมพูดบ้าง ไม่มีใครกล้าพูดเพราะว่า เก๋รับเงินเดือนกับช่อง 3 แอนรับเงินเดือนจากช่อง 9 แต่คนที่รวยคือ เจ้าของช่องคือมาลีนนท์ ได้โฆษณาเยอะๆ เฮ้ยอย่าไปพูดๆ อย่าว่าแต่ช่องของเอกชนเลย แม้กระทั่งช่อง 5 ก็เช่นกัน เพราะว่านายมีสัมพันธ์ นายนี่มีสัมพันธ์กับคนซึ่งมีผลประโยชน์ นายทุน เลี้ยงดูปูเสื่อให้ผลประโยชน์กับนาย นายบอกอย่าไปพูดถึงเขา ท่านครับ ผอ.ช่อง ท่านจะซื้อบ้านใช่ไหมครับ เดี๋ยวผมลดให้ครึ่งหนึ่ง ท่านเอาไปเลย นี่คือวิธีการไง คนที่เจ็บตัวคือประชาชนเคลียร์ไหมการเมืองเมืองไทย
กมลพร- พอฟังคุณสนธิมาขนาดนี้ จะมองว่าเหมือนต้องมีคณะผู้บริหาร 1 ชุดในการเป็นผู้เลือก พอเป็นอย่างนั้นคนก็จะถามว่า มันจะลักษณะคล้ายๆ สังคมนิยมหรือเปล่า เราจะถอยหลังเปล่า
สนธิ- ถอยหลัง หรือก้าวหน้าประเด็นไม่ได้อยู่ตรงนั้น คำถามคือ ทำไงที่ให้ประชาชนส่วนใหญ่ได้ คุณจะทำอย่างไรก็ตาม แต่ถ้าประชาชนส่วนใหญ่ได้ นั่นคือประชาธิปไตย นั่นคือประเด็นแอน ถูกไม่ถูก
จินดารัตน์- นี่ไม่มีเรื่องการเมืองนะ มีแต่เรื่องปากท้อง ชีวิต และสังคม
สนธิ- ทำไมเราถึงตกอยู่ในสังคมสภาพแบบนี้ เราต้องเข้าใจ เราไม่เข้าใจไม่ได้ เมื่อเช้านี้ยังเพิ่งคุยกับคุณชัชวาลย์ไป เขาบอกพี่ บ้านเราพูดเรื่องการศึกษา สมัยก่อนวิทยาลัยครูมีชื่อ ไม่ว่าจะเป็นวิทยาลัยครูประสานมิตร สวนดุสิต สวนสุนันทา จุฬาฯ คณะครุศาสตร์ แต่พอมาตอนหลังทุนมันเริ่มเข้ามาครอบงำ ประชาชนเริ่มเรียนหนังสือมากขึ้น มหาวิทยาลัยมีความรู้สึกว่า ต้องมีบริหารธุรกิจ ต้องมีการท่องเที่ยว การโรงแรม ต้องมีธุรกิจการบิน ต้องมีภัตตาคาร เบสิกของมหาวิทยาลัยที่ผมเอ่ยชื่อมานี่ที่เคยเก่งเรื่องครูด้อยไปหมดเลย ถึงจะมีอยู่คณะครุศาสตร์ สวนสุนันทา มีสวนดุสิต ครูพวกนี้เรียน 5 ปีนะ เขาไม่ได้เรียน 4 ปีนะเรียน 5 ปี แต่มันกลายเป็นคณะหนึ่งในส่วนหนึ่งของทั้งมหาวิทยาลัย ต้องไปแย่งทรัพยากรกัน ครูเป็นบุคลากรที่สำคัญที่สุดรองจากพ่อแม่ ที่จะดูแลลูกเด็กให้เจริญเติบโต ครูที่ดี ครูที่เก่ง ไม่ได้วัดกันที่ครูคนนั้นทำงานวิจัยมาแล้วส่งไปสอบผ่านแล้วได้เลื่อนชั้น ไม่ใช่ นั่นคือ นักวิทยาศาสตร์ นั่นคืออาจารย์มหาวิทยาลัยที่ต้องการเลื่อนจากผู้ช่วยศาสตราจารย์ เป็นรองศาสตราจารย์ เพื่อมีผลงานไปยืนยันว่าตัวเองนั้นได้ทำวิจัยเรื่องนี้ แต่ครูจะเก่งหรือไม่เก่งต้องวัดจากผลงานของนักเรียน วัดจากการเรียนหนังสือ วัดจากภาษาอังกฤษของชั้นนั้น สอบผ่านมาตรฐานไหม วัดจากคณิตศาสตร์ สังคม ศีลธรรมเป็นอย่างไร วัดจากภาษาไทยเป็นอย่างไร และในที่สุดวัดจากพฤติกรรมของเด็กในชั้นนั้นนิสัยเป็นอย่างไร มีสัมมาคารวะไหม ตรงต่อเวลาไหม วัดตรงนี้ ไม่ได้วัดว่าทำงานวิจัยมาแล้วได้เลื่อนชั้น
ฉะนั้นมันผิดมาตั้งแต่ต้นไง ครูได้ทิ้งเรื่องพวกนี้ไป อาชีพครูก็เลยกลายเป็นอาชีพเสริม ฉะนั้นคณะต่างๆ ในที่สุดแล้วคุณจะขยายการศึกษาไปให้เยอะขนาดไหนก็ตาม ไม่มีประโยชน์เพราะว่า ครูมันห่วยแตก เมื่อครูห่วยแตกนักเรียนที่ผลิตออกมาก็ห่วยแตก เข้าสู่มหาวิทยาลัยก็ห่วยแตก จบออกมาก็เลยกลายเป็นประชาชนที่ห่วยแตก ผมเลยบอกว่าถ้าผมมีอำนาจผมจะเอามหาวิทยาลัยสวนสุนันทาเป็นมหาวิทยาลัยหลักนี่เน้นเรื่องครู มีคณะบริหารธุรกิจมี แต่เป็นการเรียนไปสอนวิชาธุรกิจ เข้าใจหรือยัง จะมีในเรื่องของภาษาอังกฤษไม่เป็นไร เอกอังกฤษ แต่เรียนไปเพื่อสอนภาษาอังกฤษ ก็คือเป็นวิชาชีพครูของทุกสาขาอาชีพ จะมี college นี้ไม่เป็นไร แล้วรัฐบาลต้องทุ่มเทกับมหาวิทยาลัยนี้ เพื่อเป็นเสาหลักในการผลิตครูที่มีคุณภาพออกมา
จินดารัตน์- เพราะทุกวันนี้ครูคุณภาพหายากเหลือเกิน
สนธิ- ไม่มี เป็นเรื่องที่น่าห่วง แอนมีลูก แอนรู้ ทำไมแอนจะต้องดิ้นรนอยากเอาลูกเปลี่ยนโรงเรียน เพราะแอนมีความรู้สึกว่า แอนต้องการให้ลูกได้รับสิ่งที่ดีที่สุด แล้วลูกจะได้รับสิ่งที่ดีที่สุดมันมีอยู่เพียงไม่กี่แห่งในประเทศไทย แล้วลูกชาวบ้านคนอื่นล่ะ เขาก็เป็นพ่อแม่เขาก็อยากให้ลูกได้ดีเหมือนกัน แล้วจะให้เขาทำอย่างไรล่ะ เขาทำอะไรไม่ออกเขาถึงเจอระบบห่วยๆ ที่สร้างครูห่วยๆ ขึ้นมา สมัยก่อนสวนดุสิตมีชื่อมากเรื่องผลิตครู วันนี้ก็ยังมีชื่ออยู่ แต่ควรเป็นศูนย์การผลิตครูมากกว่า เป็นศูนย์กลางทำโพลล์
กมลพร- ต้องให้เขาภูมิใจในวิชาชีพด้วยแหล่ะ พอออกมาจากสวนดุสิตแต่เป็นครูสวนสุนันฯ เขาก็ไม่อยากเป็น
สนธิ- นี่ไง ยังไม่ทันคำถามแรกเลยนะเนี้ย
กมลพร- ใช่ค่ะ งั้นเดี๋ยวเราพักกันก่อน ช่วงหน้ากลับมาเรื่องปากท้อง เรื่องเศรษฐกิจสังคม การศึกษา สักครู่ค่ะ
จินดารัตน์- กลับมาอีกช่วงหนึ่งนะคะ ที่นี่ไม่มีการเมือง แต่ว่าคุยการเมืองไปครึ่งชั่วโมง
กมลพร- โดยหลักการ กรุยทางก่อน เดี๋ยวจะเสียคอนเซ็ปต์ แต่มีหลายคำถามที่เกี่ยวกับพวกชีวิต การศึกษา เรื่องความรักก็มีนะ เก๋ว่าโปรดิวเซอร์ฝากถาม แต่อันนี้น่าสนใจค่ะนาย น่าจะคุณรีนบอกอย่างนี้ค่ะ ทำงานมา 4 ปี กู้เงินมา 2 แสน มาเรียนปริญญาโท 3 ปีแล้ว เหลือวิทยานิพนธ์ที่ค้างอยู่ไม่ค่อยมีเวลาทำ ไม่ได้คิดให้ดีก่อนเรียน ตอนนี้อยากเอาเงินไปซื้อบ้านแต่ติดหนี้ต้องผ่อนค่าเรียนปริญญาโทให้หมด (อีก 4 ปี) ต้องสะสมเงินเดือน รายเดือน มาจ่ายค่าเทอมเพื่อรักษาสภาพด้วย กำลังคิดจะเลิกเรียน แต่เสียดายเงินที่เสียไปแล้ว ลุงสนธิว่า เรียนให้จบแต่ใช้เวลาสักพัก หรือเลิกเรียนดีคะ
สนธิ- คือถ้าผมตอบไปอาจจะไม่พอใจ ผมไม่รู้เรียนไปทำไมปริญญาโททุกวันนี้ นี่เรื่องจริง ผมพูดตรงๆ เลยนะ ทั้งจินดารัตน์ เจริญชัยชนะ รวมทั้งกมลพร วรกุล ทั้งคู่คนนี้ก็ปริญญาโท คนนั้นก็ปริญญาโท ถามตรงๆ เถอะ พูดอย่างไม่ต้องอายเลย เปิดอกเลยได้อะไรบ้าง
กมลพร- ตอนรับปริญญาบอกได้กระดาษมาแผ่นหนึ่ง แต่ว่าตอนที่เก๋เรียน ได้เพื่อน อย่างน้อยได้วิชาความรู้ เรื่องการเมือง การปกครอง ตอนที่ไปเรียนได้มาบ้าง
สนธิ- ความรู้ในด้านการเมือง การปกครอง เมื่อมาดูในสภาพข้อเท็จจริงที่เก๋ทำงานในสื่อมวลชนแล้ว ถูกต้องไหมแสดงว่า ไม่มีประโยชน์ใช่ไหมล่ะ แล้วแอนล่ะ
จินดารัตน์- แอนไปเรียนบริหารธุรกิจ เอามาใช้กับงานธุรกิจของตัวเอง
สนธิ- ใช้ได้ไหม
จินดารัตน์- แทบไม่ได้เลยค่ะ
สนธิ- เพราะอะไร
จินดารัตน์- แอนว่าบางทีมันใช้เซ้นส์มากกว่า
สนธิ- การศึกษาบ้านเรามันพังทลายลงหมดแล้ว วันนี้การศึกษากลายเป็นธุรกิจไปแล้ว คือถ้าผมเป็นน้องคนนี้ผมหยุดเรียนดีกว่า เงินทองที่จะไปเรียนถามตรงๆเลย ถ้าจะเรียนจริงๆนะ เรียนภาษาอังกฤษดีกว่า เอาภาษาให้เก่งไปเลย คนที่จบปริญญาตรี ถ้าภาษาเก่งจริงๆ จะดีกว่าคนที่จบปริญญาโทหลายใบ เหมือนคนโบราณสมัยก่อนสังเกตอย่างหนึ่ง ทำไมเขาจบ ม.8 เขาทำงานได้ ภาษาไทยเขาดีมาก ทำไมคนที่จบอัสสัมชัญสมัยก่อนแค่ ม.8 เป็นใหญ่เป็นโตกันทุกคน เพราะภาษาอังกฤษดีมาก ภาษาเป็นกุญแจ และหน้าตาเรา เราพูดภาษาเป็น เราเขียนหนังสือเป็น เราเสนองานเป็น ภาษาเป็นกุญแจในการสะท้อนตัวตนของเราเป็นอย่างไร ในขณะเดียวกันภาษาเป็นกุญแจเปิดประตูไขไปสู่องค์ความรู้ที่มีมากมายมหาศาล คนที่เรียนภาษาอังกฤษเก่งๆ จบแค่ปริญญาตรี แต่ถ้ารู้จักใช้ภาษาอังกฤษเปิดกุญแจเข้ากูเกิ้ล เข้าเว็บไซต์ที่ดีๆ อ่านเรื่องอ่านราวเข้าใจภาษาดีๆ จะมีความรู้มากกว่าคนซึ่งไปเรียนปริญญาโทที่เป็นลักษณะเรียนปริญญาโทเพื่อการค้าอย่างเดียว ผมก็ตอบได้เพียงแค่นี้
จินดารัตน์- ส่วนคุณธนัญถามว่า คนเราจะต้องตั้งตัวมีเงินเก็บสักล้านเดียวพอไหมที่จะใช้ชีวิตในอนาคต ได้ยินมาหลายคนต้องสิบล้านบ้าง อะไรทำนองนี้ค่ะ
สนธิ- แอนตอบดีกว่ามั้งอันนี้
จินดารัตน์- แอนว่ามันอยู่ที่เราจะทำอะไรมากกว่าคุณสนธิ เงินล้านนึงบางทีทำธุรกิจบางอย่างมันก็เริ่มต้นได้ง่ายๆ
สนธิ- เช่น
จินดารัตน์- อาหารการกิน แอนว่าล้านหนึ่งเพียงพอ ไม่ต้องใหญ่โต
สนธิ- ผมว่า คุณอะไรนะ ชื่ออะไรนะ
จินดารัตน์- ชื่อคุณธนัญ
สนธิ- ผมว่าเอาล้านนึง เสียสักแสนห้า ไปซื้อสูตรก๋วยเตี๋ยวดีๆ แล้วไปฝึก เอาอีกสักแสน หรือแสนห้า เอามาทดลองทำ ทำจนกระทั่งพอใจ ทำน้ำเคี่ยวก๋วยเตี๋ยว ทำลูกชิ้น ทำเสร็จเรียบร้อยแล้วให้คนมากินฟรี กินให้คะแนน จนกระทั่งเป็น A A A หมดแล้วที่เหลือไปเช่าร้าน เปิดร้านก๋วยเตี๋ยวขาย มีชีวิตอยู่ดีกว่า และจะได้เงินได้ทองเยอะ เก็บเงินสดทุกวัน จบ อย่าไปทำอย่างอื่น แล้วไม่มีอะไรง่ายกว่าการทำก๋วยเตี๋ยว คุณจะทำข้าวแกงคุณต้องโขลกน้ำพริก คุณต้องมีหลายอย่าง จะขายแต่แกงไก่อย่างเดียวได้ไง คุณต้องมีแกงข่าไก่ แพนงเนื้อ ผัดเผ็ดปลาดุก มันถึงเป็นร้านข้าวแกงสมบูรณ์แบบคุณปวดหัวอีก ก๋วยเตี๋ยวคุณทำเองตื่นขึ้นมา พูดง่ายๆว่า ด้วยหยาดเหงื่อแรงงานของตัวเอง ตื่นมาตี 4 มาเคี่ยวกระดูกหมู เคี่ยวทิ้งไว้ทั้งคืน ตื่นมาตี 4 ออกไปตลาดซื้อกระดูกข้อต่อมา ซื้อปลามา มาขูดปลา เอามาปั้นเป็นลูกชิ้น แต่ผลที่ได้ได้ด้วยตัวคุณเอง แล้วคุณก็รู้ ต้องอดทนหน่อย กินข้าว กินก๋วยเตี๋ยวทุกวัน อาจจะดีสักหน่อย หุงข้าวแล้วเอาลูกชิ้นปลามาผัดเผ็ดกินบ้าง หรือยำก็ว่ากันไป แต่ว่าอาหารการกินไปได้ แต่ต้องอร่อย ขอให้มีเงินเหลือที่จะไปเซ้งร้าน ไปเช่าร้านเขาแล้วขาย ขอให้อร่อยประเดี๋ยวคนเต็มเอง
จินดารัตน์- เขาบอกว่า ทำอะไรต้องอดทน
สนธิ- ต้องอดทนครับ คือเดี๋ยวนี้เด็กสมัยใหม่อยากรวยเร็ว มีความรู้สึกว่าอยากได้เงินล้านเร็ว มีความรู้สึกว่าอยากได้รถราคาแพงๆ นั่นคือที่มาของเด็กผู้หญิงหน้าตาดีๆ เรียนสถาบันสูงๆ แล้วขายเนื้อขายตัวไง เป็นอย่างนี้จริงๆ เพราะาอยากได้ของดี เดี๋ยวนี้ไอโฟน 5 กลายเป็นโทรศัพท์สแตนดาร์ดแล้วนะ 20,000 กว่าบาท แทนที่จะคิดว่าโทรศัพท์จริงๆ แค่ 1,000-2,000 ก็พอแล้ว ไม่มี ทุกคนต้องใช้
จินดารัตน์- เดี๋ยวนี้เด็กมัธยมก็ใช้ แอนก็งง
สนธิ- ไม่ต้อง งง เพราะทุกอย่างโดนโฆษณาชวนเชื่อหมดใส่เข้ามา
จินดารัตน์- ผมอยากเริ่มต้นทำธุรกิจใหม่ๆ แล้วมั่นคงคุณสนธิช่วยแนะนำด้วยครับ
สนธิ- โอ้โฮ ตายละ ขอมากไปหรือเปล่า อยากเริ่มต้นทำธุรกิจใหม่ๆ ที่มั่นคง มันไม่มีอะไรมั่นคงหรอก ทุกอย่างในชีวิตมั่นคง หรือไม่มั่นคงอยู่ที่ตัวเรา เหมือนพ่อแม่ในอดีตชอบบอกว่า ลูกทำงานธนาคารสิ มั่นคง คำถามว่า ชีวิตที่เราผ่านมาในสิบปีที่ผ่านมาเห็นธนาคารเจ๊งมากี่เจ้าแล้ว และไม่ใช่ธนาคารธรรมดาด้วยนะ เลห์แมน บราเธอร์ส ธนาคารที่อเมริกายิ่งใหญ่ รอทไชลด์แบงก์ เจ๊งหมดเลย ไม่มีอะไรจีรังยั่งยืนทุกอย่างเป็นอนิจจังหมด แต่มีอยู่อย่างที่เป็นอนิจจัง เราควบคุมได้คือ จิตเรา ตัวเรา งานมั่นคงหรือไม่มั่นคงอยู่ที่ตัวเรา ถ้าเราอยู่องค์กรไหนองค์กรหนึ่ง เราฝึกอบรมดี ฝึกตัวเองดี เราตั้งใจทำงานดี เราเรียนรู้งานดี เราเชี่ยวชาญในสิ่งที่เราทำดี ถ้าบริษัทมันเจ๊ง คุณสมบัติคุณงามความดีที่เราทำมาไว้ จุดแข็งของเราก็ยังอยู่กับเราใช่ไหม เราไปที่ไหนก็มีแต่คนต้อง ไม่มีอะไรที่มั่นคงนอกจากตัวเราเอง
กมลพร- คุณเมตตา ทิพรัตน์ บอกว่า อยากให้คุณสนธิวิเคราะห์เรื่องเกาหลีใต้ รัสเซีย และคาซัคสถาน ซื้อทองตุนเก็บไว้ในปริมาณมากเป็นสัญญาณอะไรไหมคะ
สนธิ- มันมีทั้งซื้อทองตุนไว้และขายทองตอนนี้ วันนี้ประเทศทางยุโรปหลายประเทศ เริ่มขายทองออก เพื่อเอาเงินมาใช้ ทองถ้าจำไม่ผิด ผมเคยบอกตอนทองยังไม่ขึ้นให้รีบซื้อแล้วเก็บ คำว่ารีบซื้อเก็บ ผมไม่ได้หมายความว่า จะต้องเก็บไปตลอดชีวิต เมื่อใดก็ตามคุณคิดว่าได้กำไรพอสมควร ก็ขายทิ้งมันไป อย่าไปงก กำไรเท่านี้แล้วอยากเอามากกว่านี้ แล้วพอทองมันร่วง ที่ทองมันร่วงเหตุผลเพราะว่าตอนนี้คนมันขายทองกันเยอะ ประเทศต่างๆ มันเริ่มเอาทุนสำรองทองคำออกมาขาย เพื่อเอาเงินไปใช้หนี้ เอาไปใช้หนี้กัน ส่วนคาซัคสถาน รัสเซีย เกาหลีใต้เขาเก็บ ปริมาณที่เก็บสู้ปริมาณขายออกไม่ได้เข้าใจไหมครับ แล้วในขณะเดียวกันก็มีคนซึ่งเล่นทอง เขาก็มองว่าทองมันร่วงแล้ว ทำให้ร่วงต่อไปเรื่อยๆ เพื่อให้คนเข้ามาช้อนซื้อทองมันขึ้น มันจะเทขายอีกทีหนึ่ง มันกลายเป็นหุ้นไปแล้ว
จินดารัตน์- เลยกลายเป็นคนที่ถือหุ้นไว้เยอะๆ ใจเสียนะคะ คุณสนธิ ถือไว้มันตอนแพงๆ
สนธิ- ก็งกไงละ
จินดารัตน์- และมันจะใช้ระยะเวลาไปอีกนานแค่ไหนคะ มันถึงจะดีดตัวกลับ
สนธิ- คือ ทอง ผมเข้าใจว่าตอนนี้ มันเหลืออีกประมาณสักบาทละ 18,000-19,000 ซึ่งมันตกจาก 20,000 กว่า ตกมาเยอะเลยนะ ตกมา 30-40 เปอร์เซ็นต์ละ ถามว่ามีโอกาสตกอีกไหม ก็มี ขึ้นอยู่กับภาวะการณ์ของโลก ช่วงนี้ผมคิดว่าเป็นช่วงแห่งความไม่แน่นอนสูง ถ้าจะเล่นก็ต้องเสี่ยง เหมือนกับเงินดอลลาร์ทุกวันนี้ เงินบาทแข็งมากนะ วันนี้เราออกรายการอัดเทปล่วงหน้า เงินบาทประมาณ 28 บาทกว่า มันจาก 30 กว่าบาท 30.73-30.83 บาท แข็งขึ้นมา 28 บาทกว่า ประมาณ 2 บาทกว่านี่เกือบ 10 เปอร์เซ็นต์นะ ในระยะเวลาไม่ถึง 6 เดือน คำถามว่ามันแข็งไหมบอกแข็งมาก
คำถามว่าจะแข็งต่อไปไหม มีโอกาสถึง 27 มีโอกาส แต่ถ้ามันถึง 27 เนี้ย ในความเห็นส่วนตัวของผมนะต้องซื้อดอลลาร์เก็บไว้ เพราะโอกาสจะกลับเป็น 30-31 มี เหตุผลเพราะว่ามันแข็งผิดปกติ เงินดอลลาร์มันแข็ง เพราะเหตุการณ์มันผิดปกติ มันไม่ใช่แข็งเพราะว่าเศรษฐกิจเราดี มันไม่ได้แข็งเพราะว่าของเราอนาคตดี มันไม่ใช่ มันแข็งเพราะว่าเงินดอลลาร์เข้ามาเยอะ เข้ามาเล่นหุ้น หลายๆ ประการ มันแข็งเพราะฟองสบู่มันกำลังจะแตก ดอลลาร์ก็เลยแข็ง ถ้ามันแตกเมื่อไร ปัง คนมันถอนดอลลาร์ออกไป เราจะเริ่มเห็นดอลลาร์อ่อน ชนิดที่ว่ายวบยาบ จาก 27-28 ไปถึง 30 ภายในไม่เกิน 2-3 เดือน นี่ขนาดไม่ต้องทุบนะ ถ้ามีการทุบอีกก็ยิ่งเร็วกว่านั้น และจะยิ่งลงแรงด้วย อาจจะไปถึง 32-33 บาท เงินบาทแข็ง ดอลลาร์แลกเงินบาทได้ 28 บาท คนที่เดือดร้อนคนไทยอยู่อเมริกา คนที่ส่งเงินมาให้กับที่บ้านใช้สมัยก่อนเคยส่งมาดอลลาร์ 33 บาท นี่เหลือ 28 บาทหายไป 5 บาท เยอะเหมือนกันใช่ไหม
จินดารัตน์- มิน่าละ น้องสาวหนูช่วงนี้ลำบาก
สนธิ- จริงหรือเปล่าครับ โอ้ตายละ มิยักจะรู้
กมลพร- ก็ว่าจะซื้อช้อนตอน 27 บ้าง ตอนนี้น่าจะเล่นดอลลาร์มากกว่าทองใช่ไหมคะ
จินดารัตน์- แค่บ่นๆ
สนธิ- อ่ะจริงๆ ตอนนี้น่าเล่นเงินดอลลาร์มากกว่าทองๆ เพราะดอลลาร์มันปล่อยง่าย ทองมันปล่อยยาก
จินดารัตน์- ช่วงนี้แม่ส่งมาก็เก็บ
สนธิ- ถ้าแม่ส่งมาก็เก็บ ความจริงเงินทองที่แม่ส่งมาให้ มันก็พอใช้นะ ถ้าใช้ให้เป็น เข้าใจไหมคือผมไม่อยากจะพูดอะไรมากกว่านี้ เดี๋ยวบางคนอาจจะต้องหน้าแตก เย็บไม่พอ คือโทษนะแดกไวน์ให้มันน้อยหน่อย ไปเที่ยวให้มันน้อยหน่อย
กมลพร- เลิกแล้วค่ะ
สนธิ- เลิกตะแลดแตดแต๋สักหน่อย เงินทองหัดเก็บสะสม เสื้อผ้าหยุดซื้อสัก 2-3 เดือนได้ไหม อะไรทำนองนี้นึกออกไหม
จินดารัตน์- พี่ไม่ได้ตั้งใจนะ พี่แค่พูดลอยๆเฉยๆ
กมลพร- แล้วคุณสนธิมองว่า ทองไม่น่าจะใช่ มั่นคงแล้วนะคะ บางคนบอกว่าทองไม่ใช่สินทรัพย์ที่จะมั่นคง
สนธิ- ไปเปิดตู้เสื้อผ้าตัวเอง อย่ามาเปลี่ยนเรื่อง ไปเปิดตู้เสื้อผ้าตัวเองแล้วเอาเสื้อผ้าแยกออกมาให้หมด แล้วถามตัวเองด้วยว่า มีตัวไหนบ้างที่ใส่เกิน 3-5 ครั้งน้อยมาก นอกนั้นใส่แค่ 1-2 ครั้ง รวมไปถึงรองเท้า เข็มขัด เสร็จแล้วแยกออกมาเลย แล้วมาบวกเลขสิว่า อีของพวกนี้เสียเงินไปแล้วเท่าไร แล้วเอามือเขกกบาลตัวเอง หรือไม่ผนังแข็งๆ เอาหัวโขกเข้าไป บอกกูจะไม่อย่างนี้อีกแล้ว กูจะไม่โง่แบบนี้อีกแล้ว อีกหน่อยกูจะใช้เงินระวัง ใช้เงินให้เป็น
จินดารัตน์- แต่จริงๆ แล้วแอนทำอย่างที่คุณสนธิบอกมา 3 รอบแล้ว เสื้อผ้าก็ยังเยอะ
สนธิ- แต่มีความรู้สึกไหมว่า เสียเงินไปอย่างไร้เหตุผลมาก
จินดารัตน์- บางตัวป้ายยังไม่ตัดออก
สนธิ- เรื่องจริง นี่ไม่ใช่แค่ใช่ อันนี้คือปัญหาของชาติ ชาติจะไปไม่ได้ถ้าคนไม่รู้จักออม คนจะรู้จักออมได้ต่อเมื่อคุณมีปัญญาในการใช้เงิน คนเราต้องใช้เงินให้เป็น จริงๆ แล้วเสื้อผ้า เมื่อมาวันหลังแอน และเก๋ทำบัญชีดู แล้วอย่าเข้าข้างตัวเอง ต่อเดือนนี่พนันกับผมได้เลยว่า การซื้อเสื้อผ้าต่อเดือน คิดเป็นอัตราส่วนของรายได้เราไม่น้อย รวมทั้งรองเท้าด้วยนะ เข็มขัดด้วยนะ ไอ้สิ่งอันละน้อย ต่างหูมั้ง บางคนมากหน่อยก็ขนตาเป็นแผงนึกออกไหม รวมทาเล็บ ทาเล็บตีนสีน้ำเงิน เล็บมือสีแดงอะไรทำนองนี้ คือบวกๆ พวกนี้ลงไป แล้วอย่าเพิ่งบวกเดือนเดียว ย้อนหลังไปสักปีหนึ่ง
จินดารัตน์- โห่ กระจายๆ ไม่กล้าทำ
สนธิ- เดี๋ยวสิๆ ไม่ต้องกล้าทำ ย้อนหลังไปปีแล้ว เราเห็นตัวเลขแล้วเราจะตกใจ ตกใจจริงๆ เงินก้อนนี้หลับตาวาดภาพสิว่า มันทำอะไรได้บ้าง ที่มันเป็นประโยชน์กับตัวเอง เป็นประโยชน์นะ และเป็นประโยชน์กับสังคมด้วย ดีที่สุด เลวที่สุดคือฝากแบงก์ในดอกเบี้ยที่ต่ำๆ เหลือเกิน ไม่ต้องถ้ามีผู้หลักผู้ใหญ่ ถ้ามีญาติพี่น้องที่เรารู้จัก ถ้ามีที่ดิน คุณป้าหนูไม่มีตังค์ หนูจะซื้อที่ดินป้าผ่อน เอาเงินที่เราซื้อเสื้อผ้าลงไปในที่ดินแทน นี่ยกตัวอย่างให้ฟังง่ายๆ คนไทยไม่เคยคิดเรื่องพวกนี้ ไม่เคยคิด แล้วมันสืบเนื่องต่อมาจากพ่อแม่ถึงลูก มาถึงลูกๆ ไปเรื่อยๆ ประเทศใดตามเหมือนบ้าน ถ้าคนไม่รู้จักอดออมจะอยู่ไม่รอด
จินดารัตน์- แต่จริงๆ นะ วิธีของคุณสนธิ แอนว่าคุณสนธิน่าจะแนะนำพ่อแม่พี่น้องที่ฟังที่บ้าน
สนธิ- ผมประกาศตลอดเวลา ออกทีวีไปไม่รู้กี่ครั้งแล้ว
จินดารัตน์- เสื้อผ้านี่เอาง่ายๆผู้หญิง
สนธิ- ง่ายที่สุด ดูรองเท้าก็ได้
จินดารัตน์- ค่ะ มันล้นตู้แล้ว
สนธิ- มันล้นตู้จริงๆ
จินดารัตน์- แล้วทิ้งไว้เอามาใส่ที พื้นหลุดมั้ง อะไรมั้ง ไม่ค่อยได้ใส่แล้วมันเสีย เสื่อม
สนธิ- ผมนี่ขนาด ผมไม่ได้ซื้อเสื้อผ้ามาเป็นปีแล้ว ไม่ได้ซื้อเลยนะ รองเท้าไม่ได้ซื้อเป็นปีนะ มาดูของเก่านี่ยังเยอะฉิบหายเลย เยอะจริงๆ ผมเดี๋ยวนี้นะ ใครถ้าโปรดิวเซอร์ฟังดีๆ อยู่ใกล้ชิดหน่อย เดี๋ยวได้ของดี เห้ยเอาเสื้อไปๆ เนคไทผมนี่นะ สมัยก่อนผมใส่เนคไทแต่ละเส้นนี่นะ Hermes บ้าง Valentino บ้าง เส้นหนึ่ง 3,000-5,000 บาท ผมมีนี่เป็นกล่องอย่างนี้ เต็มไปหมดเลย ผมยกให้คุณคำนูณ สิทธิสมาน เพราะแกชอบหล่อ แกต้องไปประชุมสภาฯ แกชอบมาก แกบอกโอ้โห้พี่ เนคไทพวกนี่ผมยังไม่กล้าซื้อเลย เอาไปเลยๆ เพราะผมไม่ได้เอาอะไรมาผูกคอเกือบ 10 ปีแล้ว ผมเลิกใช้แล้วตอนนี่ เนคไทตอนนี้ผมไม่มีเลยสักเส้นเดียว ผมพยายามเอาของออกไปเรื่อยๆ
กมลพร- ไหนๆ ก็ถามเรื่องนี้แล้ว ไอ้เรื่องเงินที่จะเก็บ ไปผ่อนซื้อที่ อ้าวจริงๆ นี่พูดจริงๆ เพราะว่าตัวหนูก็เก็บเงินเหมือนกันนะ แต่ไปเปลี่ยนเป็นผ่อนคอนโดแทน นายว่าซื้อที่ดีกว่าไหม
สนธิ- เออ คอนโดนี่มันปล่อยง่ายนะ มันให้เช่าง่ายๆ แต่ที่มันระยะยาว
จินดารัตน์- มันบั้นปลาย เก็บไว้เป็นสมบัติ
สนธิ- มันบั้นปลาย จริงๆ แล้วมนุษย์เรา ที่เป็นมนุษย์เงินเดือน ควรจะมีที่สักผืนหนึ่งไม่ต้องใหญ่ อยู่ในต่างจังหวัด ไปเลือกพื้นที่ต่างจังหวัดด้วยตัวเอง ที่ตัวเองชอบ สิ่งแวดล้อมดี สีแดงไม่ค่อยมีนะ คนพูดจามีเหตุมีผลนะ ไม่ใช่โง่นะ และคนแถวๆ นั้นเอื้ออาทรไปดูได้ คือเวลาเราไปดูบ้าน คนเนี้ยเวลาจะเช่าบ้านสักแห่งหนึ่ง ซื้อบ้านสักหลังหนึ่ง เช่าตึกสักหลังหนึ่งเนี้ย คนโบราณเขาสอน เขาสอนอย่างไรรู้ไหม เขาสอนเราลองไปเดินในบ้านสิ หรือไปเดินที่ๆ อยากจะซื้อบ้าน ถามความรู้สึกตัวเองสิว่าชอบไม่ชอบ ชอบบรรยากาศไหม
จินดารัตน์- บรรยากาศเย็นไหม
สนธิ- รู้สึกเย็นไหม บางคนเข้าไปในซอย รู้สึกหงุดหงิดไปหมด เดินออกเลย อย่าไปซื้อแถวนั้น
จินดารัตน์- ใช่ค่ะ อันนี้เรื่องจริง
สนธิ- ทุกอย่างมันมีจิตวิญญาณ เข้ามาในบ้านบางคนก็อะไรก็ไม่ถูกตาสักอย่าง ตรงนั้นตรงนี้จบ บ้านถ้าจะซื้ออย่าไปซื้อบ้านที่คิดว่า จะต้องเอามาดัดแปลง ถ้าซื้อบ้านโอกาสดัดแปลงไม่ควรเกิน 10 เปอร์เซ็น ถ้าเปลี่ยนห้องน้ำใหม่ตกลงใช้ได้ เปลี่ยนครัวใหม่โอเค ซ่อมประตูโอเค เปลี่ยนตู้เสื้อผ้าใหม่โอเค เปลี่ยนเตียงใหม่โอเค เพราะว่าถ้าเราเข้าแล้วน่าจะเปลี่ยนเตียงซะโอเค แต่ถ้าทุบฝาผนังนี่ออก รื้อฝ้า เพดานตรงนั้น หักมุมออกไปตรงนี้ ขุดบ่อตรงนี้ อย่าไปทำ แสดงว่าบ้านหลังนี่ไม่ใช่บ้านของเรา เข้าใจไหม เหมือนเราไปสร้างบ้านใหม่ แต่บนพื้นฐานของบ้านเก่า คือมันไม่ดีเลยมีความซวย นี่คือคนโบราณที่เขาสอนไว้
จินดารัตน์- เมื่อสักครู่ คุณสนธิพูดถึงฟองสบู่ นายกบน้อยถามว่า ถ้าเกิดฟองสบู่แตกจริงๆ มันจะเกิดเหตุการณ์อะไรที่กระทบคนในสังคมบ้างครับ พอดีตอนปี 40 ผมยังเด็กอยู่เลย พอถามพ่อแม่ เขาบอกว่า ถ้าฟองสบู่แตกมันจะกระทบแต่คนที่ทำธุรกิจใหญ่ๆ หรือองค์กรใหญ่ๆ และผลที่จะกระทบกับตัวประชาชน ทั้งระดับสูง ระดับกลาง และระดับล่าง มีอะไรบ้าง
สนธิ- มันมีหมด ประการแรกผมยังจำได้ สมัยก่อนแบงก์ในเมืองไทยปิด9yh’ไม่รู้ต่อกี่แบงก์ พนักงานที่อยู่ในระดับผู้จัดการ รองผู้จัดการ ผู้จัดการสาขา รองผู้จัดการสาขา ที่มีเงินเดือนประจำ มีโบนัสประจำ จู่ๆ ตกงาน เขามีผลกระทบไหมละ มันมีอยู่แน่นอน ทุกเดือนมีเงินเข้ามา จากโบนัส 13 เดือน จากโบนัสที่ทำ มีเงินเดือนให้ลูกใช้ มีเงินผ่อนรถผ่อนบ้าน ไม่มี บ้านก็ผ่อนไม่ได้ รถก็ผ่อนไม่ได้ แล้วทำอย่างไร เด็กบางคนเรียนหนังสือไปถึงเมืองนอก พ่อแม่มีปัญญาส่ง เงินบาทกลายเป็น 38-40 บาทต่อดอลลาร์ ต้องกลับมาอยู่ที่เมืองไทยหมดเลย เพราะส่งไม่ไหวแล้ว มีผลกระทบหมด ไม่ใช่ไม่มีผลกระทบ
เพราะฉะนั้นถ้าฟองสบู่แตก มันหมายความว่า ธุรกิจมันล่มสลาย ธุรกิจล่มสลายอย่างน้อยที่สุดคือ คนตกงาน ครอบครัวคนตกงานนี่เท่าไร ทำไมเอเอสทีวีต้องกัดฟันสู้ ที่สู้คือมีเหตุผล 2 ประการ ประการแรกเพราะว่า เราเป็นสื่อที่พูดความจริง สังคมไทยจำเป็นต้องมีสื่อที่ดีต่อไป ประการที่ 2 พนักงาน เมื่อเรามองหน้าแอน มองหน้าเก๋ เรามองหน้าไอ้ใหม่ มองหน้าคนโน้นคนนี้ เราไม่ได้มองเฉพาะหน้าเขา เรามองพ่อเขาแม่เขา เรามองน้องเขา เรามองบ้านเขา บางคนถึงแม้จะเงินเดือนแค่กว่า 10,000-20,000 ไม่มาก แต่ 10,000-20,000 เขาเลี้ยงทั้งบ้าน ถึงเงินเดือนออกช้ายังดีกว่าไม่มีเงินเดือน ถูกไม่ถูก เป็นเพียงแต่ว่าปัญหาคือ บางคนมีเงิน เงินเดือนออกแล้วเก็บไม่เป็น พอออกมา 15 วันแรกใช้หมด พอเงินเดือนออกช้าตายละ คือมันต้องแบ่งเงินเป็นก้อนๆ เป็นช่วงๆ สมมุติว่าเราเช่าคอนโดอยู่ หรือว่าเราเช่าห้องอยู่ อย่างน้อยที่สุดเราต้องไปพูดกับป้าเขา ก่อนล่วงหน้าเลยว่า ป้าครับ ที่ทำงานของผมมันชื่อเอเอสทีวี มันมีชื่อในเรื่องเงินเดือนออกช้า เพราะฉะนั้นป้าต้องเข้าใจนะครับว่า บางเดือนค่าเช่าห้องอาจจะช้าหน่อย แต่ได้แน่นอน ขอให้ป้าเข้าใจทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ป้าจะเริ่มชิน ป้าจะไม่ว่าอะไร เข้าใจยัง
จินดารัตน์- มีหลายคนเข้ามาพูดกับแอนว่า ดีเหมือนกันนะพี่ บริษัทเขาสอนให้เราใช้เงินเป็นมากกว่า
สนธิ- ไม่ๆ มันโดนบังคับโดยเหตุการณ์ ที่ต้องรู้จักใช้เงิน
จินดารัตน์- เป็นคนประหยัดกันไปเลย เขาบอกเงินเดือนออกทีเป็นเศรษฐีเลยพี่ เหมือนฝากเงินเอาไว้ก่อน
สนธิ- แล้วเงินที่ให้กู้เนี่ย มันจะมีวงเงินอยู่ 3-4 ล้านบาท ที่ให้กู้ก่อนเงินจะออก ตอนนี้เงินเดือนออกตรงเวลามาหลายเดือนแล้วไม่มีใครคืนสักคน
กมลพร- ใครยังไม่ใช้เงินคืน
จินดารัตน์- อันนี้ต้องถาม ผอ.นะคะ คุณสนธิเคยเล่ามาแล้วว่า คุณมนตรี อยากให้เล่าถึงการนำสัมปทานทรัพยากร คืนสู่อ้อมกอดของชาติของฮูโก ชาเบซ ที่เวเนซุเอลา เขาทำอย่างไร เขาใช้เวลานานไหม
สนธิ- ชาเบซ เขายึดเลยนะๆ ของเราไม่ต้องยึดหรอก
จินดารัตน์- ไม่พูดพร่ำทำเพลง
สนธิ- ของเรามีหลายวิธี ประการแรกคือ ปตท. เอาเปรียบประชาชนมากจนเกินไป เขาเอาเปรียบประมาณ 3 เด้ง เขาเอากำไรเด้งแรกจากการที่ผูกขาดการสั่งน้ำมันเข้า อันที่ 2 เขาเอาเปรียบที่ว่าเขาเป็นเจ้าของโครงการทั้งหมด เขาคิดราคาโรงกลั่น อันที่ 3 เขาเอาเปรียบที่ว่าเขาจำหน่าย ถูกไหมถูก เขาฮั้ว ปตท.มันน่าจะเหมือนธนาคารกรุงไทยกับ ปตท. น่าจะมีบทบาทอันเดียวกัน คือเป็นตัวไม่ให้กลุ่มธนาคาร หรือกลุ่มพลังงานฮั้ว อย่างเช่น สมมุติว่าธนาคารในประเทศไทยกำลังฮั้วที่จะขึ้นดอกเบี้ย เงินกู้ ถ้ากรุงไทยยังไม่ยอมขึ้น พวกนี้ก็ไม่กล้าขึ้น ใช่ไหม แล้วกดราคาดอกเบี้ยเงินฝาก ถ้ากรุงไทยขึ้นดอกเบี้ยฝาก แล้วเอากำไรส่วนต่างน้อยลงมา พวกนี้ต้องขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากตาม
เพราะฉะนั้นเงินฝากจะหนีไป นี่คือวัตถุประสงค์ของการที่มีรัฐวิสาหกิจที่เราเป็นเจ้าของ ปตท.ก็เช่นกัน เมื่อ ปตท.ทำตัวเองเป็นหัวหน้าฮั้ว ทำให้ฝรั่งไม่ว่าจะเป็นเอสโซ่ เชลล์ แฮปปี้ เพราะว่า ปตท.โขกราคาคนไทยมากกว่าที่พวกฝรั่งมันคิดโขกคิดสับ เข้าใจไหม ถ้าให้คนไทย ใครก็ได้สั่งน้ำมันเข้าเอง โดยที่ไม่ให้ ปตท.ผูกขาด ก็จะมีคนสั่งน้ำมันเข้ามาแข่งกัน 2.ปตท.สั่งน้ำมัน กลั่นน้ำมัน ขายน้ำมัน ต้องถือว่าผูกขาดหมดนะ ต้องทำลายส่วนที่ผูกขาด ผมจำได้ว่าสมัยก่อน ตอนที่เราประท้วงอยู่ ขึ้นเวทีผมเป็นคนแรกที่เปิดเผย เห็นว่า ค่ากลั่นน้ำมัน ปตท.ในอดีต สมมุติว่าลิตรหนึ่งกำไรบาทหนึ่ง พอ ปตท.เข้าตลาดหลักทรัพย์ มันกลายเป็นลิตรหนึ่งโรงกลั่นกำไร 5 บาท 500 เปอร์เซ็นต์ ผมตั้งคำถามว่า มันโรงเก่านะ พื้นดินก็ที่เก่า สวนก็สวนอันเดิม ส้วมก็ไม่ได้เปลี่ยน เครื่องมืออันเดิม ตอนนี้ ปตท.ฉลาด ไม่เอากำไรแต่เอาพักไว้ที่ ปตท. เอาไปพักที่โรงกลั่น เอาไปพักที่โรงกลั่นน้ำมันข้าว เอาไปพักที่โรงกลั่นย่อย แต่ ปตท. เป็นเจ้าของไง มันเลยทำให้ ปตท.คือ ปตท.กลัวว่าตัวเองพอ ผลประกอบการออกมาสิ้นปี กำไรแสนกว่าล้านคนจะด่า
เพราะฉะนั้นให้เหลือแค่ 40,000-50,000 ล้านพอ เห็นไหมกำไร ปตท.ลดน้อยลง แต่จริงๆ ไปซ่อนไว้ที่ข้างล่าง 12 ปีที่ ปตท. แปรรูปกำไรสะสมเบ็ดเสร็จ กำไรบวกแล้วทุกปี 9 แสนกว่าล้าน เห็นไหม ชัดเจนไหม 9 แสนกว่าล้าน เกือบ 50 เปอร์เซ็นของเงินกู้ 1 ล้านล้าน 2 ล้านล้านที่มันจะกู้มา ใช่ไหมครับ แล้วอีกอย่างหนึ่งถ้ารัฐบาลมีความจริงใจ ในการแก้ปัญหา รัฐบาลพูดชัดเจนได้เลย รัฐบาลมีเจ้าของ รัฐบาลจะพูดชัดเจนแล้วว่า เสียงข้างมากที่อยู่ในที่ประชุม บอกว่ากำไร ปตท. จะไม่ปันผล จะเอากำไรนั้นแบ่งออกมา ครึ่งหนึ่งมาเป็นสาธารณะประโยชน์ เพื่อช่วยราคาน้ำมันเท่านั้น หุ้นตกไหม ตก ให้มันตกไปซิ รัฐบาลก็ซื้อคืนเข้ามา คือปรัชญา และตรรกะ และความถูกต้อง ของคำว่าต้องแปรรูป ปตท. จนวันนี้ผมยังหาไม่เจอเลย อยู่ตรงไหน ปตท.แปรหรือไม่แปร ก็อีกคนทำงานชุดเดิม ใช่ไหม เพราะกิจการ ปตท. ไม่มีอะไรเลย นอกจากสั่งน้ำมันเข้า กลั่นน้ำมันเสร็จเรียบร้อยแล้ว เอารถน้ำมันไปจ่ายตามปั๊มต่างๆ มีอยู่แค่นี้เอง มีอยู่แค่นั้นเอง และทำไมจะต้องแบ่งกำไรปีละแสนกว่าล้าน ให้กับเอกชนเหลืออีก 49 เปอร์เซ็นต์เพื่ออะไรๆ
เพราะฉะนั้นเห็นได้ชัดเจนว่า การแปรรูป ปตท. คือการปล้นทรัพยากรธรรมชาติของประเทศ ที่บีบคอคนไทยอยู่ ที่คนไทยไม่มีทางเลือกต้องใช้น้ำมัน และเอาไปให้พวกเอกชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกนักการเมือง ที่จะมาในรูปแบบของนอมินี จากเมืองนอกที่ผมเรียกว่าฝรั่งหัวดำ
จินดารัตน์- ต้องคิดสโลแกน ปตท. พลังไทยเพื่อไทย
สนธิ- พลังไทยเพื่อ ฝรั่งหัวดำ ใช่ไหม เข้าใจหรือยัง
กมลพร- ต้องพักกันก่อนเปล่าคะ พักก่อนๆ
จินดารัตน์- พักก่อนๆ เดี่ยวต้องเคลียร์กันเรื่องนี้ พักกันก่อน ช่วงหน้าสักครู่ค่ะ
กมลพร- กลับมาช่วงสุดท้ายนะคะ ชอบรายการนี้จังเลยสนุก มีหลายคำถามด้วยบอกแล้ว และถ้าใครเคยฟังคุยทุกเรื่องกับสนธิทางวิทยุจะชอบ แฟนรายการก็จะเยอะมาก เพราะตอบปัญหาได้ทุกอย่างจริงๆ
จินดารัตน์- จนรวบรวมมาเป็นหนังสือขายได้เลย ขายดิบขายดีนะ
กมลพร- แฟนรายการเยอะ หนูชอบฟังสมัยก่อน เหมือนคนนี้เลยค่ะคุณบิ๊ก ปอเล อันนี้มาชีวิตสังคมบางนะคะ เข้าบอกว่า ขอคำถามไร้สาระที่ไม่ไร้สาระสำหรับผมหน่อยครับคุณสนธิ ผมคบกับแฟนมานานมาก แต่ว่าตอนนี้ต้องแยกทางกันไป ความรู้สึกตอนนี้ วังเวงว้าเหว่ โหวงเหวง เอามากๆ ทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้จะเริ่มต้นทำอะไรดี คุณลุงพอจะแนะนำได้ไหมครับทำอย่างไร จะทำใจให้ได้เร็วที่สุด
สนธิ- กลัวมีความแค้นสั่งฟ้ากันอยู่ ระหว่างคุณเก๋ กมลพร กับโปรดิวเซอร์นี้ เขาเรียกแค้นแทนเพื่อนใช่ไหม คือไอ้เรื่องความรักพูดไป ก็สะเทือนใจกัน คือผมมีสิทธิ์พูดได้เพราะผมผ่านโลกมามาก คือมันไร้สาระ ไม่เชื่อเก๋ หรือแอนลองมองย้อนหลังกลับไปสมัยที่เราสาวๆ อยู่ สมัยยังวัยรุ่น ย้อนหลังไปดูความรักรุ่นแรกๆ ของเรา เราจะเลิกเขา หรือเขาจะเลิกเรานะ พอมามองย้อนหลังมันตลก มันไม่รู้สึกอะไร บางครั้งสมเพชตัวเองด้วยซ้ำ ด้วยเหตุนี้ เขาถึงบอกว่าการฝึกจิตเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด การฝึกจิตจะฝึกได้สำเร็จก็ต่อเมื่อมีสติ คนที่มีสติจะไม่พูดอย่างนี้ คนที่มีสติจะบอกว่าที่แยกกันเพราะอะไร ต้องคิดเป็นที่แยกกันเพราะว่าสิ่งแวดล้อมมันไม่ให้ เพราะว่าไปด้วยกันไม่ได้ บางคนตลกมาก รักกันมา 4 ปี พอเลิกกัน ถามว่าทำไมเลิกกันบอกว่า อยู่ด้วยกันทะเลาะกันตลอด บอกมึงทะเลาะกัน 4 ปี เพิ่งรู้สึกปีที่ 4 นี้เหรอ เพราะฉะนั้นแล้วถ้ามีสติมีจิตที่ปกติ มีจิตที่มั่นคง มีจิตที่นิ่งสงบเป็น ตั้งแต่เดือนแรกที่เจอกัน คิดว่าจะเป็นแฟนกันต้องดูออกแล้วว่าไปด้วยกันไม่ได้แน่อย่างนี้ แต่กิเลส ความลุ่มหลง กามตัณหามันปิดบังในตาไปหมด
เพราะฉะนั้นแล้วเขาบอกทำใจยาก ทำใจไม่ได้ ผมว่าคนพวกนี้เป็นคนที่น่าสงสารตรงที่ว่า คุณไม่รู้จักฝึกใจให้ทำใจให้ได้ แล้วคุณมาบอกคุณทำใจไม่ได้นี้คือ ที่มาของการกินเหล้าเมายา นี้คือที่มาของการร้องไห้ตาบวม คือถ้าคิดในหลักตรรกะของธรรมแล้ว สมมุติผู้ชายคนหนึ่งมันทิ้งเราไปหลังคบกันมา 10 ปี มันต้องถามตัวมันเองว่า ถ้ามันทิ้งเราไป เรามาเสียใจทำไมไม่ต้องเสียใจ แต่ขณะเดียวกันเพื่อที่จะให้คำตอบมันสมบูรณ์แบบ ก็ต้องถามอีกว่า ในที่สุดแล้วทำไมมันถึงทิ้ง ถ้าจะหาคำตอบนะ ต้องหาแบบที่ใช้ธรรมพิจารณา อย่าใช้อารมณ์ หรือ กิเลสพิจารณาที่มันทิ้งไป เพราะเราไปบีบคั้นมันมากหรือเปล่า ให้มันทำอะไรที่มันไม่พอใจ หรือไปทำอะไรขัดต่อประเพณีของมัน แล้วมันก็ไม่กล้าพูด และสะสมพอถึงจุดที่แตกหักก็ต้องแตกหักไป ถ้าเป็นอย่างนี้แล้วเขาจะจากด้วยความเข้าใจ เขาจะมีความรู้สึกว่า ชีวิตเขาถ้าเจอใครอีกคนเขาต้องแก้ปมตรงนี้ให้ได้ ไม่งั้นเขาต้องเสียเวลาไปอีก 10 ปี แล้วจะต้องโดนทิ้งอีก
เพราะฉะนั้นแล้วสติเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด เพราะงั้นเราทุกคนไม่มีสติเราจะเป็นแบบนี้ ร้องไห้ไม่มีสติ ผมไม่เห็นมันต้องว้าเหว่ต้องไหนเลย ชีวิตมีความหมายมาก เมื่อคุณตื่นมาตอนเช้าสิ่งแรกของคนที่ว้าเหว่ วังเวง และโดดเดี่ยว มีความรู้สึกเสียใจแฟนทิ้งไป คุณตื่นมาตอนเช้าคุณทำอย่างนี้ คุณเอามือแตะตรงจมูกคุณ รู้สึกว่ายังมีลมหายใจอยู่ไหม ถ้ามีอยู่ขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แล้วคุณลุกขึ้นไปทำงานต่อจบข่าว ไม่ต้องพูดไรต่อ
จินดารัตน์- คุณเจริญกิจถามว่า แม่แฟนผมเขาอยากให้ลูกสาวเขาเป็นโสด แต่ตัวแฟนผมเองก็ไม่อยากอยู่คนเดียว ผมควรทำไงครับลุงสนธิ ผมทำดีที่สุดแล้วแฟนผมคนสุโขทัยด้วย
สนธิ- ตกลงแม่ไม่อยากให้ลูกแต่งงาน อยากให้อยู่เป็นโสด แต่ลูกสาวไม่อยากอยู่เป็นโสด คำถามก็ต้องถามลูกสาวว่า แม่เป็นได้ทั้งแม่ และสามีหรือเปล่า ถ้าเป็นไม่ได้ลูกสาวต้องตัดสินใจ จบ ไม่ยากอะไรเลยไม่ใช่เรื่องใหญ่
จินดารัตน์- มันอาจเกิดความขัดแย้งขึ้นระหว่างแม่กับลูก เราจะเคลียร์ปัญหายังไง
สนธิ- ก็ไม่เป็นไรเป็นผัวเมียกันแล้ว ก็อยู่บ้านเขาสิ
จินดารัตน์- ยังเป็นลูกอยู่บ้าน ซึ่งสาเหตุแม่อยากให้ลูกเป็นโสดนี้ อาจเพราะไม่อยากให้ลูกไป
สนธิ- เป็นไปได้ที่แม่อาจมีลูกชายคนเดียว หวงลูกมากมีหนังฝรั่งออกมาหลายครั้ง พอลูกชายแต่งงานมีลูกสาวเอาลูกสะใภ้กลับมาอยู่ที่บ้าน แม่มีความรู้สึกว่า ลูกสะใภ้แย่งความรัก
จินดารัตน์- กรณีนี้ต้องทำอย่างไรดีคะ
สนธิ- ต้องแยกบ้านอยู่ ยังไงก็ต้องแยกอยู่อย่างนั้น ตายเลย คนที่ตายคือ เมีย เพราะว่าลูกชายจะสงสารแม่ เพราะความที่แม่เลี้ยงมาตลอด แม่นั่งน้ำตาไหลลูกก็หัวใจสลายแล้ว ไม่เป็นไรลูกแม่เข้าใจ ลูกไปอยู่กับเมียเถอะ แม่ช่วยตัวแม่เองได้ ไม่เป็นไร บ่อยเข้าบ่อยเข้า แม่ไม่อยากจะพูดแม่พูดไม่ออก แม่เก็บไว้ดีกว่า รักลูกแม่ทนได้ แม่มีอะไรเล่าให้ผมฟังเมื่อวานนี้มันมาด่าแม่ เข้าใจหรือยัง จบข่าว
กมลพร- ตอบได้ทุกเรื่องเหมือนกันนะ คุณบุญโล บอกว่าอยากให้แนะนำเรื่องเซ็กซ์ในวัยเกษียณอายุครับผม
สนธิ- แนะนำเรื่องเซ็กซ์ในวัยเกษียณ คุณบุญโลต้องถามว่าคุณวัยขนาดนี้ คุณมีอารมณ์อยู่หรือเปล่า คุณต้องตอบตรงนี้ก่อน ถ้าไม่มีอารมณ์แต่มีความรู้สึกว่า มันไม่ทำงานนกเขามันไม่ขัน ผมคิดว่าคุณก็ต้องทำใจ เขาเรียกว่าคนเราฮอร์โมนมันหมด เหมือนกับผู้ใหญ่ที่ผมเคารพอายุมากตายไปแล้ว บอกว่าสนธิอีกหน่อยโตขึ้นเป็นหนุ่มๆ อย่ายิงมากนะ กระสุนมันมีจำกัด แกพูดอย่างนี้นะ ถ้ายิงจนกระสุนมันหมดแก่ตัวลง มันจะใช้การไม่ได้ กระสุนหมดไง มีแต่ลม เหมือนกับโจ๊กอันหนึ่ง ปู่นั่งแล้วหลานชายก็นั่งอยู่ด้วย แล้วปู่ก็เห็นคิกคาปู้ของหลานชาย แล้วปู่ร้องไห้ ปู่บอกของปู่ก็มี แต่ใช้งานไม่ได้ หรือไม่ปู่สอนเด็กว่า เวลาเอ็งมีเมียเอ็งต้องหาเมียมือเล็กๆ นะ เพราะเวลาเขาจับคิกคาปู้มึงจะได้ดูใหญ่ จบข่าว
กมลพร- หนังสือที่คุณสนธิกำลังอ่านอยู่ตอนนี้คืออะไร
สนธิ- ผมอ่านจิ่วถู ภาค 2 เรื่องขุนโจรคู่บัลลังก์ต่อจากอันแรกขุนพลคู่บัลลังก์
จินดารัตน์- มีกี่เล่มคะ
สนธิ- น่าจะมี 7 เล่มตอนนี้ ออกเล่ม 4 ละ เป็นหนังสือที่ดีมากไม่ด้อยกว่าภาค 1 เลย ผมอยากแนะนำให้เก็บทั้งภาค 1 ภาค 2 เอาไว้ มีหลายคนไม่เคยอ่าน พอผมแนะนำไปอ่านแล้ว มันเป็นสัจธรรมของการเมืองจริงๆ น่าสนใจมาก มันเป็นเรื่องสมัยสุยหยางตี้ หรือ ราชวงศ์สุย ที่มันเละเทะทำนองนั้น และนายหลี่ซีเป็นลูกคนจน และในที่สุดก้าวไปเป็นการเมืองราชสำนัก และมันรบเก่งแล้วในช่วงชีวิตที่ผ่านมีแต่เรื่อง มันผ่านการถูกเหยียดหยาม ต้องสู้ด้วยตัวเอง และผ่านการเล่นการเมืองของพวกนักการเมืองในราชสำนัก เหมือนเมืองไทยไม่มีผิด สนุกๆ นี้ภาค 2 คือ มีคนคนหนึ่งเป็นลูกคนจน เป็นลูกอดีตแม่ทัพ แล้วพ่อถูกเนรเทศ เขากับแม่ถูกลี้ภัยไปอยู่ที่เมืองกันดาร แล้วจับพลัดจับผลูกลายเป็นหัวหน้าโจร สนุกๆ มาก
จินดารัตน์- มีคนถามซื้ออีกแน่
สนธิ- ไม่เป็นไรหนังสือนี้น่าซื้อ งวดหน้าจะเอามาให้ดู ถ้าจะถามเรื่องเพลงเรื่องหนังสือต้องบอกล่วงหน้า จะได้เตรียมของมาให้ดู หรือไม่เราอาจออกอีกห้องหนึ่ง ห้องทำงานผมจะได้เปิดเพลงให้ฟัง
จินดารัตน์- เมื่อกี้มีคลอๆ มาหน่อย ไช่ฉินนักร้องคนโปรด
สนธิ- ไช่ฉินต่างกับเติ้งลี่จวินตรงไหน เข้าอยู่ยุคเดียวกัน เติ้งลี่จวินนี้ ลักษณะเพลงจะเป็นเพลงดิสโก้อะโกโก้
ไช่ฉินเป็นการร้องกึ่งๆ แจ๊สหวานๆ เย็นๆ ไช่ฉินต้องฟังกลางคืนดึกๆ เงียบๆ คนเดียว ปิดไฟแล้วเปิดชุดของไช่ฉินเป็นชุดที่เขาอัดเสียงออกมาดีมาก เขาจะเน้นเรื่องการอัดเสียงมาก แล้วเปิดๆ ไฟหรี่ๆ แล้วอย่าไฟฟังกับผู้ชายที่พึ่งสนิทเสียตัวแน่นอน
จินดารัตน์- นี่เป็นการเตือนสาวๆ ยุคใหม่นี้
สนธิ- อันนี้เป็นโหมโรงรายการ ถ้าสนุกสนานดีก็อาจเดือนละ 2 ครั้ง เพราะฉะนั้นอยากรู้เรื่องอะไรส่งจดหมายมาถามได้
จินดารัตน์- มีอีกคำถามหนึ่ง มีคนถามว่าซื้อทีวียี่ห้ออะไร
กมลพร- มีจริง ถามว่าคุณสนธิครับ ผมจะซื้อทีวี ผมจะซื้อยี่ห้ออะไรดีครับ
สนธิ- ทำไมไม่ถามเรื่องกางเกงในมาด้วย ผมจะได้ตอบให้มันจบไปเลย คือเทคโนยีทางทีวีตอนนี้เหมือนกันหมด บราเวียของโซนี่ พานาโซนิค พวกนี้เป็น Gimmick ในการขาย จริงๆ แล้วเทคโนยีเหมือนกันเป๊ะเลย คุณจะซื้อยี่ห้อไหนก็ได้ ของเกาหลีก็ได้ ของจีนก็ถูก ของฝรั่งของญี่ปุ่นก็ผลิตที่จีน โรงงานจีนใหญ่มาก เพราะฉะนั้นใจผมนะซื้อของจีนดีที่สุด ถูก
จินดารัตน์- Haier นะเหรอคะ Haier เริ่มมาแรงแล้วตอนนี้ แต่เขาบอกของจีนมันไม่ทน มันน่ากลัว ความรู้สึกเดิมๆ ของคน
สนธิ- เหมือนกันครับ ซื้อของจีนที่มาจากจีนต้องเลือกสินค้า ทีวีมันโอเคอยู่ เพราะเขาผลิตส่งออกคุณภาพเขาต้องใช้ได้
จินดารัตน์- มีโรงงานอยู่ที่อเมริกา
สนธิ- มีครับมีหลายแห่ง ซื้อของจีนดีกว่า Haier ก็ได้ ถูกด้วย
กมลพร- เขาตอบได้ทุกเรื่องจริงๆ ค่ะ อย่าถามนะเรื่องกางเกงใน เดี๋ยวแนะนำยี่ห้อใส่สบาย และยุ่งเลยงานนี้
สนธิ- กางเกงในนะ นิดนึง ผู้ชายควรใส่แบบขาก๊วย แบบ Boxer อย่าไปใส่กางเกงแบบรูปสามเหลี่ยม มันไปรัดไข่ นี้เรื่องจริง แล้วมันทำให้เส้นเลือดมันเดินไม่ดี แล้วจะมีผลในเรื่องของการสร้างสเปิร์ม แล้วจะติดลูกยาก เหมืนผู้หญิงที่เป็นแอร์จะท้องอยากเพราะใช้ชีวิตอยู่บนอากาศมาก ออกซิเจนขาด ทุกอย่างมันเกี่ยวพันกันหมด แล้วมันทรมาน นั่งๆ อยู่มันต้องขยับ เพื่อให้ที่รัดข้างๆ ขยับนิดหนึ่ง
จินดารัตน์- อย่าเขียนมาถามนะ เพราะจะตอบได้ทุกเรื่อง มีคนเดียวในประเทศไทยที่ตอบแบบนี้ได้นะจ๊ะ
สนธิ- สุดท้ายจะเล่าเรื่องนิดหน่อยให้ฟัง เมื่อวันที่ 14 ผมนอนหลับ แล้วผมก็ฝันว่า ไปหาหลวงตามหาบัวเจอตัวท่านเลยนะ ผมไปกราบเท้าท่าน ท่านอวยชัยให้พร ท่าบจับศีรษะผม และเป่ากระหม่อมเหมือนที่เคยทำหลายครั้งแล้ว ผมไปกราบเรียนท่านเรื่องการสร้างพระมหาเจดีย์ ซึ่งผมไม่เห็นด้วย เพราะท่านเคยมีปฏิปทาแล้วว่า ท่านไม่อยากได้แล้ว หลายคนก็จะทำ ท่านบอกว่า เออดี ไปทำให้ถูกต้องซะ เราเคยสั่งไว้แล้ว แล้วจู่ๆท่านเอ่ยขึ้นมา ท่านบอกว่า เรากำลังระดมเงินมาสงเคราะห์โลกให้กับโรงพยาบาล ผมเลยบอกว่าจะไปหาให้หลวงตา ท่านบอกว่า เราต้องการแค่ 862,000 บาท ผมเลยบอกว่า เดี๋ยวผมหาให้ เสร็จแล้ว ท่านก็ลุกขึ้นมา ท่านให้ผมจูงมือท่านข้ามถนน พอผมตื่นมาตอนเช้าผมก็จด 862,000 แล้วผมก็บอกหลานผม ไอ้อ๊อฟ หลานผม วริษฐ์ ลิ้มทองกุล และเมียเขายัยปอ ดวงพร ยัยนี่ถ่ายกระดาษที่ผมส่งไปให้ทุกคนและไอ้ดีน ทุกคนก็แตกตื่นกันหมด ก็ไม่ได้คิดอะไร วันที่ 15 เช้า อ๊อฟไปไหว้พระวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร เจอล็อตเตอรีมี 86 เต็มไปหมด เลยซื้อ 86 ไอ้ดีนก็ขับรถทั่วเมืองเพื่อหา แต่หาไม่เจอ ปรากฏว่า เลขท้าย 2 ตัวออก 86 สามตัวออก 862 ถูกมา 2,000 พอข่าวออกมา ทุกคนรุมด่าไอ้อ๊อฟ ด่าไอ้ดีน รวมทั้งแม่บ้านที่นี้ด้วยยัยจอยเป็นคนเล่นหวย ทำไมไม่บอกว่า มาจากนาย นายเขาเคยให้ที่ไหน นี้มาแบบนี้นะ ฉันทุ่มสุดตัวเลย แต่ผมไม่เล่นหวยไง ผมไม่ซื้อล็อตเตอรี แต่ผมคิดว่าท่านคงจะเมตตาให้กับพวกลูกหลานเท่านั้นเอง
จินดารัตน์- อ๊อฟก็ไปขึ้นเงิน และนำเงินไปบริจาค
สนธิ- ใช่ครับ ครึ่งหนึ่งผมบอกว่า ถ้าถูกให้เอาเงินไปบริจาคให้มูลนิธิหลวงตาครึ่งหนึ่งนะ
จินดารัตน์- คนที่ไม่ถูกเพราะหลวงตารู้ไงว่าจะไม่ให้
สนธิ- เป็นไปได้
กมลพร- งั้นเดี๋ยว ทุกวันที่ 15 และวันที่ 30
สนธิ- อ๋อ มันเตรียมมาละ เตรียมมาที่ห้องทำงานผม คุณสนธิเมื่อคืนฝันอะไรหรือเปล่า
จินดารัตน์- ค่ะ เป็นสัปดาห์แรกนะ สนุกสนานกันพอสมควรเอาเป็นว่าสัปดาห์ที่ 4 ของเดือนทุกวันอาทิตย์ 18.30 น.-20.00 น. เรามีนัดกัน ที่นี่นะคะ คุยทุกเรื่องกับสนธิ ที่นี่ไม่มีการเมืองค่ะ รายการก่อนเราดีมากเลยนะ ดีใจมากเลยที่มาช่วยถึงเรตติ้งให้เราด้วย รายการอะไรนะ รายการนิวส์อาวส์ ของโสภณ รายการเราก็ได้อานิสงส์ไปด้วย
สนธิ- เออมันยาวเลยนะ นิวส์อาวส์ คุยทุกเรื่องกับสนธิ ก่อนจะถึงจันทร์
จินดารัตน์- วันนี้ลาไปก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ