“อนุสรณ์” ตอก ปชป.รอกระทืบซ้ำที่ปรึกษา “นช.แม้ว” หลังถูกศาลฎีการับฟ้องเซ็นแถลงการณ์ร่วมเขมร อ้างเทียบไม่ได้เคสปราบ ปชช. ชี้โดนใส่ร้าย ชูทีมสู้คดีพระวิหารหนุนแถลงการณ์ ซัด “ชวนนท์” ทำตัวเป็นทนายเขมร
วันนี้ (26 เม.ย.) นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แสดงความเห็นกรณีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำสั่งให้ประทับรับคำฟ้องในคดีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ยื่นฟ้องนายนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 กรณีลงนามแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา ว่าไม่เหนือความคาดหมายที่นายชวนนท์และพรรคประชาธิปัตย์จะกระโดดเข้าผสมโรงกับศาลฎีกา ทั้งที่เรื่องนี้เป็นเพียงแค่การไม่นำแถลงการณ์ร่วมเข้าสภา พรรคประชาธิปัตย์ตีปีกราวกับว่านายนพดลเป็นผู้ทำให้เสียดินแดน ซึ่งเทียบไม่ได้กับการสั่งการให้ปราบปรามประชาชนด้วยอาวุธสงครามกลางเมือง การออกมาเหยียบย่ำซ้ำเติม กล่าวหาใส่ร้ายต่อคนไทยด้วยกันเองด้วยความเท็จ ว่าปล่อยให้กัมพูชานำปราสาทพระวิหารไปขึ้นทะเบียนมรดกโลกแล้ว หมายความว่าเรายกพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตารางกิโลเมตรให้กัมพูชาไปด้วย
นายอนุสรณ์กล่าวต่อว่า ซึ่งข้อเท็จจริงก็เป็นไปตามที่นายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ และศาสตราจารย์อแลง แปลเลต์ ได้ชี้แจงไปแล้วว่ากัมพูชาได้ไปเฉพาะตัวปราสาท ไม่รุกล้ำแนวเขตแดนที่กำหนดโดยมติ ครม.สมัยรัฐบาลจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ทีมทนายฝ่ายไทยยังยืนยันว่าแถลงการณ์ร่วมสมัยรัฐบาลสมัครนั้นเป็นประโยชน์ จึงอยากยื่นเอกสารนั้นขึ้นมาต่อสู้คดี ทำเรื่องขอไปยังศาลปกครองแต่ใช้ไม่ได้ เพราะศาลปกครองสั่งให้เป็นโมฆะไปแล้ว การแถลงคดีจบแล้ว แต่นายชวนนท์ทำตัวราวกับว่าเป็นทนายกัมพูชาไม่สิ้นสุด กล่าวหานายนพดลด้วยความเท็จ ด่าคนไทยด้วยกันเองแบบคนชอบเสี่ยง กล้าได้กล้าเสีย เหมือนนักพนัน ทั้งที่การพนันไม่ทำให้ใครได้ดี