หลังมีข้อสรุปเกี่ยวกับการเสนอพิกัดแผนที่บริเวณใกล้เคียงตัวปราสาทพระวิหาร และคณะรัฐมนตรีได้รับทราบตามข้อเสนอของกระทรวงการต่างประเทศแล้ว เมื่อวันที่ 23 เมษายน ที่ผ่านมา วันนี้ (26 เม.ย.) ประเทศไทยและกัมพูชาจะต้องยื่นพิกัดแผนที่ดังกล่าว ต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือศาลโลก ตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดไว้
ก่อนหน้านี้ นายณัฏฐวุฒิ โพธิสาโร รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะหัวหน้าคณะเผยแพร่ข้อมูลข้อเท็จจริงด้านกฎหมาย คดีปราสาทพระวิหาร เปิดเผยว่า การเสนอพิกัดแผนที่บริเวณใกล้เคียงตัวปราสาทพระวิหารครั้งนี้ จะส่งเอกสารทางช่องทางทางการทูต โดยนายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ในฐานะตัวแทนประเทศไทยในการต่อสู้คดีปราสาทพระวิหารจะเป็นผู้ส่งเอกสารให้กับนายทะเบียนของศาลโลก ก่อนที่นายทะเบียนศาลโลกจะแจ้งฝ่ายไทยและกัมพูชาให้ทราบว่า แต่ละฝ่ายได้ยื่นคำตอบเรียบร้อยแล้ว
จากนั้น จะส่งสำเนาคำตอบของคู่ความให้อีกฝ่าย โดยทีมทนายของไทย จะร่วมกันพิจารณาในเบื้องต้น และขอความคิดเห็นจากคณะทำงานในการดำเนินคดี ก่อนที่จะส่งข้อคิดเห็นตอบกลับให้กับศาลโลกภายในวันที่ 3 พฤษภาคมอีกครั้ง หลังจากนั้น จะเป็นขั้นตอนของการรอคำตัดสินของศาลโลก หากศาลโลกไม่มีคำขอเอกสารใดๆ เพิ่มเติมอีก โดยปกติศาลโลกจะแจ้งวันนัดคำพิพากษาก่อนวันตัดสินเป็นเวลา 3 สัปดาห์
สำหรับรายละเอียดของพิกัดแผนที่นั้น กระทรวงการต่างประเทศระบุชัดเจนว่า จะไม่มีการเผยแพร่สู่สาธารณชน เพราะอาจมีผลต่อการต่อสู้คดี โดยมีรายงานจากแหล่งข่าวระดับสูงของกองทัพ ระบุถึงพิกัดแผนที่ว่า ไทยจะยื่นแผนที่เก่าตามแผนที่แนวพิกัดภูมิศาสตร์ที่คณะรัฐมนตรีปี 2505 ได้มีมติกำหนดแนวขอบเขตปราสาทพระวิหารไว้ ซึ่งเป็นแผนที่ที่ไทยยืนยัน โดยยึดเอาแนวรั้วที่ทำขึ้นมา ซึ่งไทยไม่เคยเปลี่ยนแนวพิกัดที่ได้ทำไว้มาตลอด 50 ปี
ก่อนหน้านี้ นายณัฏฐวุฒิ โพธิสาโร รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะหัวหน้าคณะเผยแพร่ข้อมูลข้อเท็จจริงด้านกฎหมาย คดีปราสาทพระวิหาร เปิดเผยว่า การเสนอพิกัดแผนที่บริเวณใกล้เคียงตัวปราสาทพระวิหารครั้งนี้ จะส่งเอกสารทางช่องทางทางการทูต โดยนายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ในฐานะตัวแทนประเทศไทยในการต่อสู้คดีปราสาทพระวิหารจะเป็นผู้ส่งเอกสารให้กับนายทะเบียนของศาลโลก ก่อนที่นายทะเบียนศาลโลกจะแจ้งฝ่ายไทยและกัมพูชาให้ทราบว่า แต่ละฝ่ายได้ยื่นคำตอบเรียบร้อยแล้ว
จากนั้น จะส่งสำเนาคำตอบของคู่ความให้อีกฝ่าย โดยทีมทนายของไทย จะร่วมกันพิจารณาในเบื้องต้น และขอความคิดเห็นจากคณะทำงานในการดำเนินคดี ก่อนที่จะส่งข้อคิดเห็นตอบกลับให้กับศาลโลกภายในวันที่ 3 พฤษภาคมอีกครั้ง หลังจากนั้น จะเป็นขั้นตอนของการรอคำตัดสินของศาลโลก หากศาลโลกไม่มีคำขอเอกสารใดๆ เพิ่มเติมอีก โดยปกติศาลโลกจะแจ้งวันนัดคำพิพากษาก่อนวันตัดสินเป็นเวลา 3 สัปดาห์
สำหรับรายละเอียดของพิกัดแผนที่นั้น กระทรวงการต่างประเทศระบุชัดเจนว่า จะไม่มีการเผยแพร่สู่สาธารณชน เพราะอาจมีผลต่อการต่อสู้คดี โดยมีรายงานจากแหล่งข่าวระดับสูงของกองทัพ ระบุถึงพิกัดแผนที่ว่า ไทยจะยื่นแผนที่เก่าตามแผนที่แนวพิกัดภูมิศาสตร์ที่คณะรัฐมนตรีปี 2505 ได้มีมติกำหนดแนวขอบเขตปราสาทพระวิหารไว้ ซึ่งเป็นแผนที่ที่ไทยยืนยัน โดยยึดเอาแนวรั้วที่ทำขึ้นมา ซึ่งไทยไม่เคยเปลี่ยนแนวพิกัดที่ได้ทำไว้มาตลอด 50 ปี