โฆษก ปชป.ตอก “อธิบดีดีเอสไอ” ไม่เหมาะกับตำแหน่ง หลังโวยไม่เคารพ กม.เหตุถูกฟ้องกลับ แต่หนุนจ่าฝูงแดงโชว์เถื่อน ไล่เข้าแก๊งเดียวกัน ซัด คอนธ.อิงการเมือง ชงลดอำนาจศาล รธน. ย้อน “อุกฤษ” ไร้จุดยืน กลืนน้ำลายดันนิรโทษฯ ยิ่งทำ คอนธ.เสื่อม
วันนี้ (25 เม.ย.) นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ ที่ออกมากล่าวหาว่าพรรคประชาธิปัตย์ว่าไม่ยอมรับกฎหมายกรณีที่ฟ้องกลับดีเอสไอจากการตั้งข้อหาบริจาคเงินให้พรรคว่า เป็นตรรกะที่น่าเป็นห่วง ไม่น่าจะเป็นความคิดของคนที่จะบังคับใช้กฎหมายหรือมีตำแหน่งเป็นถึงอธิบดีดีเอสไอ เพราะถ้าคิดว่าคนรักษาสิทธิตามกฎหมายใช้กฎหมายเป็นเครื่องพิสูจน์ความบริสุทธิ์ กลับเป็นสิ่งที่นายธาริตไม่เห็นด้วย แต่เห็นด้วยกับวิธีการกดดันข่มขู่สร้างความวุ่นวายเหมือนกับที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อทำ หากมีแนวความคิดแบบนี้นายธาริตไม่ควรเป็นอธิบดีดีเอสไอแต่ควรออกไปเป็นแกนนำเสื้อแดงหรือแกนนำม็อบที่มีแนวคิดแบบนายธาริตจะดีกว่า เพราะการแจ้งข้อกล่าวหาเรื่องเงินบริจาคกับ ส.ส.ของพรรค กกต.ก็บอกว่าไม่ผิด แต่นายธาริตกลับทำเรื่องนี้ให้เป็นการเมืองเพื่อสร้างแรงกดดันให้พรรคยอมรับเรื่องนิรโทษกรรมหรือการปรองดอง
นายชวนนท์กล่าวว่า พรรคไม่เห็นด้วยต่อการกระทำของนายธาริตเพราะเจ้าหน้าที่รัฐใช้ดุลพินิจในทางที่ผิด ก็ใช้สิทธิในการฟ้องกลับตามกระบวนการทางกฎหมาย แต่นายธาริตกลับรับไม่ได้ ไปชื่นชมนายณัฐวุฒิ และนายจตุพรที่ใช้วิธีการข้างถนน จึงเห็นว่านายธาริตไม่ควรเป็นแม้แต่เจ้าหน้าที่รัฐ ไม่ใช่แค่ไม่ควรเป็นอธิบดีดีเอสไอเท่านั้น
ส่วนข้อเสนอของคณะกรรมการอิสระว่าด้วยการส่งเสริมหลักนิติธรรมแห่งชาติ หรือ คอนธ. ที่มีความเห็นให้แก้ไขโครงสร้างของศาลรัฐธรรมนูญ ถึงขนาดระบุว่าศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาได้เฉพาะเรื่องที่ผ่านกระบวนการทางรัฐสภาแล้วเท่านั้น นายชวนนท์กล่าวว่า เป็นข้อเสนอที่ไม่เป็นกลางไม่คำนึงถึงประโยชน์ประชาชนส่วนรวม แต่อิงการเมืองให้ฝ่ายบริหารได้ประโยชน์ ลิดรอนอำนาจองค์กรอิสระ ปิดช่องการตรวจสอบของประชาชน ทั้งนี้ คอนธ.เคยเสนอหลายเรื่องและได้รับการวิจารณ์ว่าเป็นไปเพื่อประโยชน์ของประชาชนหรือผู้นำรัฐบาลที่ตั้ง คอนธ.ขึ้นมา
นายชวนนท์ยังได้นำแถลงการณ์ของ คอนธ.ฉบับแรกลงวันที่ 14 ก.ย. 54 ข้อ 7 ที่ระบุว่า คอนธ.จะไม่พิจารณาเรื่องที่มีองค์กรส่วนอื่นและภาคประชาชนดำเนินการอยู่แล้ว เช่น การนิรโทษกรรม หรือคดีที่ดินรัชดาฯ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มาเปรียบเทียบกับพฤติกรรมของนายอุกฤษ โดยระบุว่าข้อเสนอของนายอุกฤษไม่สอดคล้องกับเจตนารมณ์ในการทำหน้าที่ตามคำแถลงการณ์ของ คอนธ.เอง เพราะต้นปี 2556 นายอุกฤษกลับส่งร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมให้รัฐบาลพิจารณา ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาของกฤษฎีกา จึงต้องถามนายอุกฤษว่าที่เคยออกแถลงการณ์ว่าจะไม่พิจารณากฎหมายนิรโทษกรรม แต่ผ่านไปปีครึ่งทำไมจึงเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมให้รัฐบาล สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าไม่มีความชัดเจนในจุดยืนที่บอกว่าจะมาเสริมบทบาทในการบังคับใช้กฎหมายให้มีความเข้มแข็งขึ้น จึงต้องถามว่า คอนธ.ยังมีอุดมการณ์เหมือนที่เคยแถลงในวันที่ 14 ก.ย. 54 หรือไม่ เพราะข้อเสนอเรื่องการปรับโครงสร้างศาลัฐธรรมนูญก็เข้าข่ายขัดต่ออุดมการณ์ของตัวเอง เพราะเรื่องโครงสร้างศาลรัฐธรรมนูญมีคนอื่นทำอยู่แล้ว อยากให้นายอุกฤษทบทวนว่า ควรจะเดินหน้าต่อไปหรือไม่ เพราะหากทำเช่นนี้ คอนธ.จะไม่ได้รับความน่าเชื่อถือ เนื่องจากมีการตระบัดสัตย์จากคำแถลงการณ์ของตัวเอง