xs
xsm
sm
md
lg

“ธาริต” ปรี๊ดแตก! โวยฝ่ายค้านแขวะยอมรับเป็นเครื่องมือรับใช้รัฐบาล

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอสบสวนคดีพิเศษ
“ธาริต” ลั่นชัดเป็นเครื่องมือ รบ.ฉุนโวยฝ่ายค้านสร้างบรรทัดฐานใหม่ใครห้ามแตะ เอะอะก็สวนหมัดฟ้องกลับ วอนเป็นแบบอย่างดีงามสังคม ยก “เต้น-ตู่” แถมโต้ส.ส.ปชป.ยัน DSI ไม่ใช่หมากบีบบังคับผ่าน พ.ร.บ.นิรโทษ ชี้จำเป็นสอบ เพราะ กกต.ไม่ยอมฟันธงว่า ปชป.บริจาคเงินไม่ผิด เผยมีพรรคอื่นผิดเรื่องบริจาคเงิน อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลสอบเป็นรายต่อไป!

วันนี้ (24 เม.ย.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังการแถลงข่าว นายธาริต ได้กล่าวว่า ฝากถึงพี่น้องสื่อมวลชนว่าเราไม่ได้ทำคดีการเมืองอย่างคดีบริจาคเงินพรรคประชาธิปัตย์ที่สอบปากคำวันละ 6 ราย ซึ่งจะไปจบวันที่ 2 พ.ค.นี้ เป็นคดีอาญาปกติ แต่ว่าเราก็ถูกเขียนเป็นคดีการเมืองเป็นประจำ อยากขอความเป็นธรรมนำเสนอในมุมมองของเพื่อนๆ สื่อมวลชนว่าดีเอสไอทำเรื่องหลากหลาย ซึ่งทำคดีมากมาย และในความรู้สึกส่วนตัว ตนเองเห็นว่ามีความสำคัญมากกว่าคดีการเมือง เพราะเป็นเรื่องความเดือดร้อนของประชาชน อย่างคดี จ.ภูเก็ต ชาวต่างชาติก็จะมายึดบ้านเราอยู่แล้ว ไม่งั้นดีเอสไอก็มีมุมว่าทำแต่เฉพาะคดีการเมือง เราก็ไม่เข้าใจ วานนี้มี ส.ส.ประชาธิปัตย์บางคนไปสกรีนเสื้อสีแดงแล้วเขียนว่า “ธาริตพูดว่าดีเอสไอเป็นเครื่องมือรัฐบาลแน่นอน” ก็มันใช่อยู่แล้ว เพราะบ้านเมืองนี้เป็นระบอบประชาธิปไตยเลือกตั้ง ซึ่งเมื่อเลือกตั้งกันมาเสียงข้างมากก็ได้เป็นรัฐบาลและเป็นฝ่ายบริหาร ข้าราชการก็เป็นฝ่ายปฏิบัติ ดีเอสไอก็เป็นฝ่ายปฏิบัติ เราไม่เป็นเครื่องมือรัฐบาล เราจะเป็นเครื่องมือใคร แต่การเป็นเครื่องมือรัฐบาลไม่ได้หมายความว่าเราจะทำสิ่งชั่วร้าย ไปกลั่นแกล้งฝ่ายที่ไม่ใช่รัฐบาล หรือไปทำสิ่งที่ผิดกฎหมายเสียเอง ในเมื่อเราเป็นหน่วยรักษากฎหมาย เราเข้าใจบทบาทดีและระมัดระวังที่จะไปทำความผิดเองหรือกลั่นแกล้งใคร เพราะเรื่องใหญ่โตไปกลั่นแกล้งกันไม่ได้



แล้วเราไม่เข้าใจอย่างเมื่อวาน เราเพิ่งเริ่มต้นในการที่จะแจ้งข้อกล่าวหาก็ถูกทั้งต่อว่า ผม ถือว่าเป็นการข่มขู่ ที่บอกว่าจะฟ้องพนักงานสอบสวนของเรา เราทำหน้าที่รักษากฎหมายเพื่อที่จะให้ผู้ที่กล่าวหาทั้งหลายเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ถ้าปฏิเสธไม่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว มันจะเดินต่อเพื่อนำไปสู่การตัดสินของศาลว่าถูกหรือผิดได้อย่างไร คุณปฏิเสธไม่เข้าสู่กระบวนการตั้งแต่ต้น คุณจะอยู่นอกเวทีตลอดอย่างนี้ บ้านเมืองจะอยู่อย่าง หากทุกคนปฏิเสธหมด ใครมาเป็นพนักงานสอบสวนถูกดำเนินคดีฟ้องกลับหมด ผมก็ไม่เห็นว่าต่างชาติเขาเป็นกันอย่างนี้เลย ถามว่าเรารู้สึกหนักใจก็คงไม่ถึงกับหนักใจ แต่ว่าไม่สบายใจ ฝ่ายการเมืองเป็นฝ่ายที่ตัวแบบของประเทศชาติ เพราะอ้างตัวอยู่ตลอดเวลาว่าเป็นผู้แทนของประชาชน ต้องสร้างตัวแบบที่ถูกต้อง ไม่ใช่สร้างตัวแบบแบบนี้ พอใครมาดำเนินคดีก็ซัดกลับเลย แล้วกล่าวหาอย่างนั้น อย่างนี้แล้วก็สวนหมัดกลับ ถ้าประเทศเราเป็นอย่างนี้แล้วทุกคนที่ถูกกล่าวหากระทำความผิด หรือคนที่เป็นคนร้ายแล้วถูกตำรวจดำเนินคดีฟ้องตำรวจคนนั้นแล้วจะเกิดอะไรขึ้นบ้านเมืองวุ่นวายกันหมด

ผมอยากจะเรียกร้อง ในเมื่อท่านกล่าวอ้างว่าท่านเป็นผู้แทนประชาชนอันทรงเกียรติ ท่านควรจะรักษากติกาของบ้านเมืองด้วย ไม่ใช่สร้างรูปแบบ และวิธีการใหม่ๆ ขึ้นมาอันเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีกับสังคมนี้ บ้านเมืองนี้ และก็คงต้องพูดกันอย่างไม่เกรงใจ ก็ท่านไม่เกรงใจเรา เราก็ไม่เกรงใจท่านเหมือนกัน ก็ต้องว่ากันอย่างนี้

ต่อข้อถามว่าท่านยังยืนยันว่าคดีบริจาคเงินให้พรรคการเมืองอยู่ในอำนาจและหน้าที่ของดีเอสไอ สามารถสอบสวนได้ใช่หรือไม่ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า คดีบริจาคเงินของพรรคประชาธิปัตย์มีเรื่องราวความเป็นมา โดย 1.เราไม่ได้ไปหาเรื่องที่จะดำเนินการสอบสวนเอง โดยมีผู้มาร้องเรียนแล้วเมื่อเราสอบเบื้องต้นพบว่ามีมูลพอสมควรตามที่ร้องเรียน จากนั้นเราก็เอาเข้าบอร์ดคดีพิเศษและบอร์ดก็มีมติให้รับเป็นคดีพิเศษ จากนั้นเราจึงเดินหน้าต่อ ทั้งนี้ เราสอบสวนร่วมกับอัยการเป็นการทำหน้าที่ตามปกติ ซึ่งเราเห็นว่าเข้าข่าย จึงเริ่มตั้งต้นเพื่อนำคนเหล่านี้เข้ามาในระบบไม่ใช่อยู่นอกเวที ซึ่งตามขั้นตอนก็ต้องแจ้งข้อกล่าวหาเพื่อจะรับฟังว่าจะแก้ตัวว่าอย่างไร จากนั้นก็จะเดินต่อตามกระบวนยุติธรรมทางคดีอาญา จากเราเสร็จก็ไปอัยการ จากอัยการก็ไปศาล ศาลก็จะตัดสินชี้ถูก ชี้ผิดเป็นขั้นตอนสุดท้าย เป็นสิ่งที่เราเรียกร้องให้ทุกคนเคารพกระบวนการยุติธรรม

“แต่พอเราดำเนินการอย่างนี้ก็รับไม่ได้ว่าเรากลั่นแกล้ง ว่าเรารับคำสั่ง เรากำลังบีบบังคับเพื่อนำไปสู่กระบวนการปรองดองออกกฎหมายนิรโทษกรรม เราไปเกี่ยวอะไรนิรโทษกรรม หน้าที่ดีเอสไอคือทำตามกฎหมาย และเมื่อว่าร้ายเราขนาดนี้ ว่าเรารับคำสั่ง เรากลั่นแกล้งต่างๆ ผมเป็นหัวหน้าชั้น ผมจะปล่อยให้ลูกน้องถูกด่าฝ่ายเดียวได้อย่างไร ก็ต้องออกมาพูดอย่างนี้ และผมอยากจะเรียกร้องว่าเมื่อท่านกล่าวอ้างว่าเป็นตัวแทนประชาชน เป็นผู้ทรงเกียรติ ช่วยรักษาสิ่งที่ดีงามของสังคมหน่อย ไม่ใช่ว่าพนักงานสอบสวนหน่วยงานใดก็ตามปฏิบัติหน้าที่หากใครถูกดำเนินคดีแล้วคนนั้นก็สวนหมัดกลับว่าตำรวจกลั่นแกล้ง หรือดีเอสไอกลั่นแกล้ง ถ้าเกิดประเพณีอย่างนี้ในบ้านเมืองจะวุ่นวายไปกันใหญ่ ทำไมผู้แทนประชาชนที่อ้างตนว่าเป็นผู้ทรงเกียรติถึงทำอย่างนี้ ก็ให้กระบวนการยุติธรรมมันเดินไป แล้วในที่สุดศาลก็ตัดสินโดยศาลชี้ถูกชี้ผิดก็ว่ากันไปไม่ดีกว่าหรือ ไม่อย่างนั้นก็จะเกิดกระบวนการนอกศาล ระบบก็ใช้ไม่ได้ ซึ่งผมต้องออกมาพูดบ้างเพราะคนของผมเมื่อวานนี้โดนเล่นงาน แล้วพรุ่งนี้จะเล่นงานผมต่อก็ไม่เป็นไร” อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษระบุ

นายธาริต กล่าวว่า ที่ผ่านมาจำได้ว่าถูกผู้ใหญ่ของพรรคประชาธิปัตย์ฟ้องดำเนินคดีไม่น้อยกว่า 5 คดีแล้ว ซึ่งก็พร้อมทำหน้าที่ เพราะเป็นหน่วยที่มีหน้าที่รักษากฎหมาย ซึ่งตนไม่ได้ถูกหวาดหวั่นที่จะฟ้อง แต่ว่าผู้แทนประชาชนที่อ้างว่าทรงเกียรติกำลังสร้างแนวบรรทัดฐานใหม่ให้กับบ้านเมืองเป็นการถูกต้องหรือไม่

ต่อข้อถามว่าพรรคประชาธิปัตย์โต้แย้งว่าที่ผ่านมา กกต.ไม่เคยทักท้วง หรือระบุว่าพรรคทำผิดกฎหมายในกรณีดังกล่าว อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า ใครจะพูดอะไรไม่รู้ แต่ว่าก่อนที่เราจะดำเนินคดีในเรื่องนี้ ได้มีหนังสือเป็นทางการถึง กกต.และได้มีการสอบผู้แทนของกกต.โดยให้ กกต.จัดส่งผู้แทนมาให้เราสอบ ซึ่งก็ไม่ยืนยันว่าผิดหรือถูก เพราะเป็นเรื่องใหม่ยังไม่มีบรรทัดฐานตัดสินเรื่องนี้ ซึ่งกฎหมายนี้เพิ่งออกมาไม่กี่ปีและกำหนดไว้เคร่งครัดว่าบริจาคเงินตั้งแต่ 2 หมื่นบาท มีรายละเอียดต้องปฏิบัติอย่างไร ซึ่งเมื่อมีการบริจาคและไม่ดำเนินการตามที่กำหนด ซึ่งทาง กกต.ก็ไม่กล้าบอก ซี่งหาก กกต.มาให้การกับเราแล้ว บอกว่าเรื่องนี้ไม่ผิดก็จบไปแล้ว ซึ่งเมื่อไม่มีแนวคำพิพากษาก็ต้องเดินหน้าต่อไป ถ้ากฎหมายไม่เขียนเป็นกฎหมายเทคนิคขนาดหากเขียนมีข้อยกเว้นไว้ว่าหักเงินจากบัญชีก็ไม่ผิด เราก็จะไม่ดำเนินคดี จะไปดำเนินคดีทำไม ไม่สนุกหรอก

“เมื่อครั้งที่ดีเอสไอดำเนินคดีกับ นปช.กลุ่มฮาร์ดคอร์นั้น เขาก็โวย แต่ไม่เห็นมีใครบรรทัดฐานสวนหมัดฟ้องอธิบดีดีเอสไอ เขาก็อยู่ในกติกานานาชาติ แต่ฝ่ายค้านแตะไม่ได้เลย สร้างบรรทัดฐานใหม่ ซึ่งไม่กระทบเฉพาะดีเอสไอ แต่กระทบหน่วยบังคับใช้กฎหมายทั่วประเทศ ถือเป็นแนวใหม่ใครมาดำเนินการข้าพเจ้าสวนหมัดกลับหมดเลย เอ็งต้องเดือดร้อนไปเป็นจำเลย ต่อไปใครจะดำเนินคดีก็หนักใจ ผมยืนยันว่าไม่ได้ชอบเสื้อแดงเขาก็ด่าผมทุกวัน ซึ่งคุณตู่-เต้น ก็ถูกดำเนินคดี ไม่เห็นเขาฟ้องผมเลย เขาไม่ชอบก็ด่าว่าไป” อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ระบุ

ต่อข้อถามว่าหากมีผู้มาร้องว่าพรรคเพื่อไทยปฏิบัติเช่นเดียวกับทางดีเอสไอก็จะดำเนินคดีใช่หรือไม่ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า แน่นอน แต่เท่าที่ได้รับการรายงานเป็นวาจาจากพนักงานสอบสวนชุดของ พ.ต.อ.นิรันดร์ อดุลยาศักดิ์ ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ 1 ทราบว่ากรณีบริจาคเงินแล้วไม่หักทำตามกฎหมายนั้นไม่ได้มีเฉพาะแค่พรรคประชาธิปัตย์แต่มีมากกว่านี้ ส่วนจะเป็นใครบ้างก็กำลังประมวลข้อมูลอยู่ซึ่งจะต้องดำเนินคดีโดยเสมอภาคกันไป
กำลังโหลดความคิดเห็น