ผบ.ทบ. เผยร้อยเอกเขมร เมาแล้วซ่ายิงปืนเข้าฝั่งไทย แต่ทางกัมพูชาขอโทษต่อเหตุการณ์แล้ว ส่วนการตั้ง คกก. HLC ไทย-พม่า เพื่อสร้างความสัมพันธ์ในระดับสูงให้มากขึ้น หงุดหงิดเจอสื่อซักถูกฝรั่งหลอกขายเครื่องตรวจวัตถุระเบิด จีที 200 จี้ให้หยุดวิจารณ์เพราะสั่งเลิกใช้แล้ว ส่วนหากมีการทุจริตให้ไปหาคนทำผิดมา เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย ยังไม่รู้ลดค่าตอบแทน อีโอดี บอกอยากเพิ่มให้แต่ต้องผ่าน ครม. ติงสื่อเขียนส่งเดชกองทัพงบเยอะ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวถึงกรณีที่ทหารกัมพูชาบริเวณชายแดน ยิงกระสุนปืนเล็กเข้ามาบริเวณฝั่งตะวันตกของ ต.บ้านโดนเอาว์ อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกศว่า ตนทราบว่ามีการยิงมาหลายชุด ทั้งนี้ได้สั่งการสอบถามไปยังฝั่งกัมพูชาแล้ว ทางทหารกัมพูชา ก็ตอบมาแล้ว และก็ขอโทษเหตุการณ์ดังกล่าว เท่าที่ทราบทหารกัมพูชาเมาเหล้า และ ยิงปืนขึ้นฟ้า ซึ่งเป็นทหารระดับหัวหน้า ยศร้อยเอกของกัมพูชา ก่อนหน้านี้ได้สั่งการว่าหากมีอะไรเกิดขึ้นให้สอบถามกันเพื่อไม่ให้มีการลุกลามบานปลาย วันนี้ต้องอยู่กันให้ได้ สถานการณ์ชายแดนยังสงบเรียบร้อยอยู่
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติจัดตั้งคณะกรรมการระดับสูงไทย-พม่า(HLC)ว่า ที่ผ่านมา เรามีคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย-พม่า(RBC) และคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น (TBC) ระหว่างประเทศอยู่ โดยกองทัพเป็นผู้ปฏิบัติ แต่เนื่องจากว่า สถานการณ์ในด้านพม่ามีความอ่อนไหวมากขึ้น จึงมีความจำเป็นต้องสร้างความสัมพันธ์ในระดับสูงให้มากยิ่งขึ้นจึงจัดตั้งคณะทำงานนี้ขึ้นมา โดยมี พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธาน และมีตนเป็นรองประธาน โดยจะนำสิ่งที่พูดคุยจากที่พูดคุยในการประชุม RBC หรือ TBC มาพูดในระดับสูงขึ้นไปอีก เพื่อให้เกิดการปฏิบัติที่รวดเร็วและกว้างขวางเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติของรัฐบาลด้วยถือเป็นการแสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญต่อภูมิภาคนี้และประเทศพม่า คิดว่า เป็นสิ่งที่ดีและเรากับพม่าก็มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันเราในฐานะที่เป็นประเทศใกล้เคียงควรมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เพื่อรับผลประโยชน์ร่วมกันในวันหน้า
ส่วนการดูแลต้องครอบคลุมพื้นที่ในเขตทวายหรือไม่นั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ครอบคลุมทุกเรื่องเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องดำเนินการให้ครอบคลุมอยู่แล้ว ตนมีหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยตามแนวชายแดน แต่ในส่วนของโครงการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกทวาย ตนก็ได้ติดตาม ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อกัน เพราะเขาต้องใช้ระบบสาธารณูปโภคจากฝั่งเราด้วยว่า ประเทศไทยจะมีการขนย้ายไปอย่างไร ส่งต่อที่ไหน ต้องมองในมุมว่า ทวายจะเชื่อมกับท่าเรือของเราตรงไหน ไม่ใช่ไปมองไปที่ทวายที่เดียว ทั้งนี้พื้นที่ทวายไม่เกี่ยวข้องกับเราเพราะอยู่ในพื้นที่ของพม่า แต่เราต้องมาดูว่า เรามีท่าเรือของเราหรือไม่ ถ้ามีเพื่อให้เกิดประโยชน์ร่วมกันก็ต้องมีการขนส่งมาลงที่ประเทศไทย แต่มาลงที่ไหน แต่รู้ว่าเลือกกันไว้แล้ว ส่วนความคุ้มค่าต้องไปพิจารณากัน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงกรณีที่ศาลอาญากลาง กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ตัดสินว่า นายเจมส์ แม็คคอร์มิค นักธุรกิจชาวอังกฤษ ผู้ผลิตเครื่องตรวจวัตถุระเบิดรุ่น "จีที 200" ที่ไทยซื้อมาใช้ มีความผิดฐานฉ้อโกง หลอกขายเครื่องมือตรวจจับวัตถุระเบิดขนาดมือถือว่า หยุดวิจารณ์กันได้หรือยัง เมื่อบอกว่า ใช้ไม่ได้ ก็ใช้ไม่ได้ แล้วเราเลิกใช้กันมานาน 2-3 ปีแล้ว ส่วนใครจะผิดหรือถูกไปฟ้องร้องในศาลเอาเอง
ส่วนกรณีที่ยังมีกำลังพลบางส่วนนำจีที 200 มาใช้ตรวจหาระเบิดอยู่ เพราะยังไม่มีอุปกรณ์อื่นนั้น เขาใช้ในวิธีภายในของเขา เพราะเขาไม่รู้ว่ามีอุปกรณ์ไหนป้องกันตัวเอง แต่ตนสั่งห้ามใช้ไปแล้ว ถ้าใครจะใช้คงผิดคำสั่ง ส่วนที่มีการตั้งขอสังเกตว่า มีการทุจริต อยากให้ไปหาว่าใครทุจริต เพราะการจัดซื้อจัดหา มีคณะกรรมการอยู่ และมีการเสนอความต้องการขึ้นมาจากหน่วยที่ใช้ ถ้ามีการทุจริตคงต้องมีการสอบสวน เพราะซื้อมาตั้งหลายปีแล้ว แต่ไม่เห็นว่า จะมีการทุจริต อย่ามาพูดว่า เป็นการทุจริต การกล่าวหาอะไรต้องมีหลักฐาน รวมถึงผลการสอบสวน
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรมสรรพาวุธได้ลดค่าฝ่าอันตรายของชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด (อีโอดี) โดยเฉพาะทหารชั้นประทวน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากจะมีค่าตอบแทนต้องเป็นไปตามมาตรฐานเพราะเป็นสิทธิ์ที่เขาต้องได้อยู่แล้ว ประกาศว่าได้แค่ไหนก็ต้องแค่นั้น แต่หากยังไม่ได้ แสดงว่างบประมาณยังไม่ออก หรือออกมาไม่ทัน
ทั้งนี้งบประมาณที่กองทัพได้รับจากรัฐบาลจะมีการจ่ายเป็นงวด เวลาขึ้นสนามก็จ่ายเป็นครั้ง เช่น 6 เดือนจ่ายที หรือ 3 เดือนจ่ายที ซึ่งเรานำเงินตรงนี้มาแบ่งจ่ายเป็นรายเดือน ถ้ายังไม่พออาจจะต้องลดเงินจำนวนนี้ไปก่อน แล้วค่อยไปตกเบิกให้ทีหลัง เมื่อเงินไม่พอกับงานที่รับมาก็ต้องทยอยจ่าย ส่วนที่เหลือค่อยไปตกเบิก นั่นคือ ระบบงานของราชการ แต่บางทีก็ไม่เข้าใจกัน ซึ่งเรื่องงานงบประมาณต้องมีการชี้แจงทำความเข้าใจ
อย่างไรก็ตามยืนยันว่า เรื่องนี้ยังไม่รับรายงาน ทั้งนี้ตนสอบสวนทุกครั้งเวลาที่สื่อนำเสนอข่าวว่า กำลังพลไม่ได้รับเบี้ยเลี้ยง แสดงให้เห็นว่าไม่ได้มีการทำความเข้าใจกับลูกน้อง และที่มีการวิจารณ์ว่ากองทัพได้งบประมาณมาหลายหมื่นล้านบาท มีเงินเหลือเฟือ และเอื้อประโยชน์ในด้านการซื้ออาวุธ เขียนส่งเดชกันทั้งนั้น เพราะไม่ได้เอาเงินในกระเป๋าไปซื้อของในตลาด งบประมาณทั้งหมดมีหลายรายการที่จะต้องจ่าย ทั้งในส่วนของงบบุคลากร งบเสริมสร้าง งบซ่อมแซม งบบริหารจัดการ ซึ่งเขาคิดกันหัวหมุนว่าจะนำงบประมาณที่สื่อบอกว่า เยอะมาใช้จ่ายอย่างไรให้ได้ทั้งปี อย่างเบี้ยเลี้ยงสนามยังหาจ่ายไม่ครบปี ต้องไปหาเงินส่วนอื่นไปหมุนเวียน เพราะรัฐบาลก็ไม่มีงบประมาณ เมื่อไม่มีก็ต้องตัดงบประมาณลงไป และต้อเบิกงบกลางมาให้ ซึ่งรัฐบาลแก้ปัญหาอย่างนี้มาโดยตลอด
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีแนวโน้มขึ้นค่าตอบแทนให้กับชุดอีโอดีหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เงินเดือน งบประมาณ เบี้ยเลี้ยงต่างๆ ที่นำไปให้กำลังพลจะต้องเสนอผ่าน ครม.เพื่อทำเป็น พ.ร.บ.ด้านการเงินออกมา ค่าตอบแทนจะเพิ่มขึ้นหรือลดลงต้องไปเสนอกับรัฐบาล ไม่ใช่วันนี้นึกอยากให้ก็เซ็น ซึ่งเราสามารถเพิ่มค่าคอบแทนให้ได้ถ้ามีเงิน และตนอยากให้เพิ่ม แต่ที่สำคัญคือ มีเงินมาให้เราหรือไม่