xs
xsm
sm
md
lg

“ประยุทธ์” เผย “ปู” ลุยเองแก้ใต้ เน้นไขลานหน่วยงานรัฐเฉื่อย เล็งตรวจทุกสัปดาห์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา (แฟ้มภาพ)
“ประยุทธ์” เผยประชุม “นายกฯ ยิ่งลักษณ์” ล่าสุด ตัดสินใจลงมากำกับดูแลการแก้ปัญหาภาคใต้เอง ทั้งงาน ศอ.บต.-กอ.รมน. รวมถึงกระทรวงทบวงกรม หลังพบทำงานเฉื่อย ขณะเดียวกันยังไขลาน ปปง.-ป.ป.ส. ลุยจัดการนายทุนขบวนการค้ายาเสพติดที่มีส่วนเกี่ยวโยงกับกลุ่มก่อความไม่สงบ ไม่ใช้จับแต่พวกปลาซิวปลาสร้อยเหมือนที่ผ่านมา พร้อมเรียกร้องสื่ออย่าถาม และเสนอข่าวเข้าทางโจรใต้ ทั้งเรื่องกรือเซะ และการเจรจากับกลุ่ม BRN ยันมีหลักฐานเชิญครูหญิงตาดีกาสอบ เหตุพบโทร.คุยกับโจร


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (25 เม.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมด้วย พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และคณะนายทหารระดับสูงเดินทางลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อประชุมรับฟังการปฏิบัติของหน่วยงานในพื้นที่ และพบปะกับนายอำเภอ ผู้นำชุมชน อ.หนองจิก จ.ปัตตานี

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ในการประชุมร่วมกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวานนี้ (24 เม.ย.) ที่ผ่านมา เป็นการพูดคุยกับทั้งฝ่ายความมั่นคง การพัฒนา รวมถึงกระทรวงมหาดไทย เพื่อหารือการบูรณาการการปฏิบัติงานของ 2 ส่วน คือ งานด้านความมั่นคงและงานด้านการพัฒนา ให้มีความสอดคล้องกันมากกว่าเดิม สรุปคือนายกรัฐมนตรีจะลงมากำกับดูแลในงานต่างๆ เอง ทั้งในงานของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) รวมถึงกระทรวง ทบวงกรมที่เกี่ยวข้อง

“นายกรัฐมนตรีจะลงมากำกับดูแลเรื่องเร่งด่วนที่ต้องแก้ปัญหา ใช้จ่ายงบประมาณด้วยตัวท่านเอง ทุกสัปดาห์ต้องมีการพูดคุยกันในเรื่องเหล่านี้ โดยนำกลุ่มปัญหาทั้ง 5 กลุ่มมาดูความคืบหน้า เพื่อให้การแก้ไขปัญหาที่เร่งด่วนได้ดีขึ้น ซึ่งการแก้ไขปัญหามีหลายมิติ หน่วยงานด้านความมั่นคงไม่สามารถทำให้พื้นที่มีความปลอดภัยได้เพียงหน่วยเดียว ต้องมีมาตรการเสริมให้คนในพื้นที่พึงพอใจ มีรายได้ มีอาชีพ การศึกษา มีความเข้าใจมากขึ้นเพื่อไม่ให้ตกเป็นเครื่องมืออีกฝ่าย และต้องการเพิ่มจำนวนแนวร่วมให้มากขึ้น และลดผู้กระทำผิดลง”

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ขอให้เลิกถามถึงวันที่จะพูดคุยกับขบวนการบีอาร์เอ็น เพราะการพูดคุยเป็นกระบวนการในการแก้ไขปัญหา ขอให้เข้าใจวิธีการทำงาน และไปศึกษากระบวนการพูดคุยของต่างประเทศด้วย ถ้าคิดเองทั้งหมดก็แก้ไขปัญหาไม่ได้ อย่ามาถามเรื่องนี้อีก ให้ไปถามกับผู้ที่มีหน้าที่โดยตรง ตนพยายามพูดและอธิบายให้เข้าใจว่า อย่าไปให้ความสำคัญว่าจะไปพูดเมื่อไร แต่ที่สำคัญคือเมื่อพูดแล้วเมื่อไหร่ถึงจะทำ จะอีก 5 ปี หรือ 10 ปีก็ได้ สื่ออย่าถามให้ฝ่ายตรงข้ามออกมาแสดงกำลัง อย่าไปสนใจ เราก็ทำหน้าที่ของเรา และป้องกันให้ได้ ถ้าถามเช่นนี้เกรงว่าจะเกิดความรุนแรงขึ้นทุกวัน ทั้งนี้ไม่ได้โทษสื่อ แต่วิธีการถามของสื่อทำให้ฝ่ายตรงข้ามรู้สึกได้เปรียบ

ส่วนที่เครือข่ายตาดีกายื่นหนังสือถึง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เรียกร้องให้ปล่อยตัว น.ส.ฟาดีละห์ เสาะหมาน ครูสาวโรงเรียนตาดีกา ที่ถูกเชิญตัวตามหมาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินนั้น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า หน่วยงานด้านความมั่นคงมีฐานข้อมูลว่า น.ส.ฟาดิละห์มีส่วนเกี่ยวข้องให้การสนับสนุน ซึ่งมีการตรวจสอบพบว่าได้โทรศัพท์ไปติดต่อกับผู้ที่มีรายชื่อเกี่ยวข้องกับการก่อความไม่สงบ เจ้าหน้าที่จึงได้เชิญตัวไป ทุกอย่างมีหลักฐาน หากไม่ใช่ก็ต้องมาพิสูจน์ทราบกัน ถ้าไม่อยากให้ถูกเชิญตัวต้องระมัดระวังไม่ให้ทำผิดกฎหมาย ไม่ใช่ทำอะไรที่ผิดกฎหมายแล้วออกมาประท้วงกัน ตนได้เน้นย้ำไปแล้วว่าต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มอำนาจ และใช้ทุกกฎหมายที่มีอยู่อย่างถูกต้องและชอบธรรม ไม่ใช่ปล่อยทุกเรื่อง แล้วประเทศชาติจะอยู่อย่างไร

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ส่วนที่จะครบรอบ 9 ปี เหตุการณ์ที่มัสยิดกรือเซะในวันที่ 28 เม.ย.นั้น อย่าไปให้กับความสำคัญกับเรื่องใดทั้งสิ้น เพราะเป็นเรื่องที่ฝ่ายความมั่นคงที่ต้องคิดอยู่แล้วว่าจะเกิดเหตุที่ไหน ถ้าเราไปให้ความสำคัญทุกวันจะเป็นการสะกิดเตือนว่าถึงเวลาแล้ว เขาจะคิดว่าเตือนจึงต้องออกมาทำ ขอเตือนว่าการนำเสนอข่าว การตั้งคำถามต้องชั่งน้ำหนักว่ามีผลดี หรือเสียต่อการแก้ไขปัญหา เข้าใจดีว่าเป็นสื่อมวลชน มีอำนาจ มีสิทธิในการเสนอข่าว และต้องนำเสนอข้อเท็จจริง แต่ต้องคิดว่าข้อเท็จจริงมีผลเสียต่อการแก้ไขปัญหาของชาติหรือไม่ สื่อต้องคอยอยู่ข้างๆ หรือข้างหลังตน คอยเตือนและสร้างความเข้าใจให้สังคม ไม่ใช่ขยายความขัดแย้งไปเรื่อยๆ

“ในพื้นที่ที่มีการต่อสู้ทางความคิดกันอยู่ ต้องเร่งรัดดำเนินการกับคนที่กระทำผิดกฎหมายมากขึ้น เช่นเรื่องยาเสพติดที่ทำให้บุคคลต่างๆ มีโอกาสออกมาเคลื่อนไหว ซึ่งได้นำเสนอนายกรัฐมนตรีมาแล้ว โดยนายกรัฐมนตรีจะสั่งการให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)และ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ออกมาดำเนินการให้เร็ว ดังนั้น นายทุนต่างๆ ต้องออกมาดำเนินการโดยเร็ว ไม่ใช่ไปจับแต่พวกเบี้ยบ้ายรายทางที่นำน้ำมันออกมาขาย เช่น ปั๊มเล็กๆ ต่างๆ ที่แอบเอาน้ำมันมาขาย หากเราไปจับกุมคนพวกนี้จะเป็นเงื่อนไขอีก ดังนั้นต้องดำเนินการต่อนายทุนทั้งหมด เพราะทำให้สถานการณ์รุนแรงขึ้น อยากให้พวกเราใจเย็นๆ ที่ผมอธิบายเพื่อต้องการให้การแก้ไขปัญหาตามขั้นตอนและให้เกียรติซึ่งกันและกันว่าใครทำหน้าที่อะไร ฝ่ายความมั่นคงต้องเสนอไปที่รัฐบาล และรัฐบาลก็ต้องสั่งไปยังหน่วยงานที่ดูแลด้านการพัฒนาในพื้นที่ที่เรากำหนดไว้ เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์”


กำลังโหลดความคิดเห็น