“สุกำพล” ป้องเจรจาบีอาร์เอ็นคนละเรื่องกับภาคปฏิบัติ ชี้ต้องใช้เวลาจะรู้ตัวจริงหรือไม่ ยันป้องกันเหตุเต็มที่ ลั่นปราบแน่พวกป่วน สั่งทัพภาค 4 เข้มบึ้ม เผยพฤษภาตำรวจพร้อมลงช่วยอาจจะดีขึ้น
วันนี้ (22 เม.ย.) ที่กระทรวงกลาโหม เมื่อเวลา 08.00 น. พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) พร้อมคณะจะเดินทางไปพูดคุยสันติภาพกับกลุ่มบีอาร์เอ็นรอบ 2 ในวันที่ 29 เม.ย.นี้ ที่ประเทศมาเลเซีย เพื่อแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่เหตุการณ์ความไม่สงบก็ยังคงมีความรุนแรงอยู่ว่า การเจรากับการปฏิบัติการเป็นคนละเรื่องกันและต้องแยกออกจากกัน ไม่ใช่ว่าการเจรจากับการปฏิบัติงานยังไม่มีผลเกี่ยวพันกันโดยตรง เพราะเป็นทางขนานกันอยู่ ต่างฝ่ายต่างดำเนินการ เมื่อไหร่ที่การเจรจามีผลต่อการปฏิบัติงานของฝ่ายความมั่นคงแล้วถึงจะเกี่ยวข้องกัน ทั้งนี้ การเจรจามีกรอบชัดเจนซึ่งจะต้องใช้ระยะเวลา ไม่ใช่การเจรจาต่อรองซื้อของที่ใช้เวลาไม่นาน ซึ่งการแก้ไขปัญหาดังกล่าวต้องใช้เวลาเป็นปี ทางหน่วยงานความมั่นคงก็ต้องการให้รวดเร็วเหมือนกัน อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ดีของการเจรจาจะทำให้รู้ว่าใครเป็นใคร และเป็นตัวจริงหรือไม่อย่างไร รวมทั้งยังได้เห็นท่าทีการเจรจาและความรุนแรงทั้งหมด ที่มีส่วนที่พร้อมพูดคุยและอีกส่วนที่ไม่ต้องการพูดคุย โดยมีการแยกเป็นสองฝ่าย ถือว่าเป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เป้าหมายที่แท้จริงคือความสงบสุขในพื้นที่ภาคใต้
เมื่อถามถึงการดูแลรักษาความปลอดภัยวันครบรอบ 9 ปี เหตุการณ์กรือเซะ ในวันที่ 28 เม.ย.นี้ พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวว่า ไม่ว่าจะวันไหนหรือช่วงเทศกาลใดทางหน่วยงานความมั่นคงก็ดูแลเต็มที่และพิเศษทุกวัน ส่วนกลุ่มที่ไม่พร้อมพูดคุยนั้นและยังคงปฏิบัติการก่อความรุนแรงทางหน่วยงานความมั่นคงก็ต้องปราบปราม ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา เพราะจะปล่อยให้ทำกับประชาชนได้อย่างไร เราจะต้องว่าไปตามกฎหมาย ตนได้บอกกับทางกองทัพภาคที่ 4 ว่ามีระเบิดเกิดขึ้นบ่อยครั้งขอให้ช่วยดูแล ซึ่งในพื้นที่ก็ทำงานเต็มที่อยู่แล้วและในเดือน พ.ค.นี้จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับการฝึกพร้อมแล้วลงไปปฏิบัติงาน ซึ่งอาจจะทำให้อะไรดีขึ้น เพราะทุกวันนี้ทหารทำงานไม่ตรงกับภารกิจเป็นจำนวนมาก