ยะลา - โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า แถลงข่าวถึงกรณีการเกิดเหตุความไม่สงบอย่างต่อเนื่องในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เชื่อการก่อเหตุไม่เกี่ยวกับวันครบรอบเหตุการณ์กรือเซะ 28 เม.ย.47
วันนี้ (22 เม.ย.) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ห้องประชุมเล็ก ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้แถลงข่าวถึงเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงเดือนเมษายน ซึ่งในลักษณะการก่อเหตุเป็นการก่อกวน เหมื่อนอย่างกรณีเหตุการณ์เมื่อวันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา กรณีคนร้ายได้เผายางรถยนต์ เผาสายโทรศัพท์ ในหลายพื้นที่ อ.เมืองปัตตานี อ.ยะรัง และ อ.ยะหริ่ง
พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วหน้า กล่าวอีกว่า กรณีในช่วงเช้าวันนี้ (22 เม.ย.) ที่ผ่านมา ได้มีกลุ่มคนร้ายก็ได้มีการสร้างสถานการณ์ป่วนในหลายอำเภอของพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นลักษณะของการผูกป้ายผ้าต่อต้านการเจรจาในจุดต่างๆ โดยขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าตรวจสอบ ซึ่งในเดือนเมษายน กระแสทางสังคมพยายามที่จะสอบถาม และพยายามที่จะรื้อฟื้น ครบรอบ 9 ปี เหตุการณ์ที่มัสยิดกรือเซะ ตนเองขอเรียนว่า หากย้อนกลับไปในวันที่ 28 เมษายน 2547
ซึ่งเกิดเหตุการณ์ที่มัสยิดกรือเซะ จ.ปัตตานี และอีกหลายๆ จุดในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่มัสยิดกรือเซะ ผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น ทุกฝ่ายก็มีความเสียใจ และทางภาครัฐก็ได้มีการเยียวยากันไปตามความสมควรในช่วงนั้น โดยที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายก็พยายามที่จะแก้ปัญหาในเชิงสันติวิธีตามหลักของมนุษยธรรม ถ้าหากมองย้อนกลับไปถามพี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่รอบๆ มัสยิดกรือเซะ
ซึ่งเคยเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สร้างรายได้ให้แก่พี่น้องประชาชน พี่น้องประชาชนในพื้นที่ได้สะท้อนออกมาอย่างชัดเจนว่าไม่อยากที่จะรื้อฟื้นความทรงจำที่เลวร้ายของเหตุการณ์มัสยิดกรือเซะ แต่อยากให้สังคมรื้อฟื้นความทรงจำว่ามัสยิดกรือเซะ เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ความสำคัญ และเป็นที่น่าภาคภูมิใจของประเทศไทย โดยเฉพาะ จ.ปัตตานี ที่สามารถสร้างรายได้ให้แก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่ค่อนข้างมากพอสมควร
พ.อ.ปราโมทย์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ทางแม่ทัพภาคที่ 4 ได้มีการพูดคุยประสานงานกับทางองค์กรต่างๆ เช่น ศอ.บต. ตำรวจ หรือสภาที่ปรึกษา ศอ.บต. หรือทางกระทรวงทบวงกรมต่างๆ ขณะนี้ทุกองค์กรได้ให้การยอมรับในการแก้ไขปัญหาที่ไปในทิศทางเดียวกัน
สำหรับการดูแลความปลอดภัยนั้น ตอนนี้ ทาง กอ.รมน.ภาคที่ 4 ก็ยังคงใช้กำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจในการดูแลความปลอดภัยพี่น้องประชาชนอยู่อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นวันไหนๆ ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นวันครบรอบ 9 ปี ที่กรือเซะ ทางเจ้าหน้าที่ก็พร้อมที่จะดูแลประชาชนอยู่แล้ว โดยที่ผ่านมาทางแม่ทัพภาคที่ 4 ก็ได้สั่งเน้นย้ำอยู่แล้ว
วันนี้ (22 เม.ย.) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ห้องประชุมเล็ก ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้แถลงข่าวถึงเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงเดือนเมษายน ซึ่งในลักษณะการก่อเหตุเป็นการก่อกวน เหมื่อนอย่างกรณีเหตุการณ์เมื่อวันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา กรณีคนร้ายได้เผายางรถยนต์ เผาสายโทรศัพท์ ในหลายพื้นที่ อ.เมืองปัตตานี อ.ยะรัง และ อ.ยะหริ่ง
พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วหน้า กล่าวอีกว่า กรณีในช่วงเช้าวันนี้ (22 เม.ย.) ที่ผ่านมา ได้มีกลุ่มคนร้ายก็ได้มีการสร้างสถานการณ์ป่วนในหลายอำเภอของพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นลักษณะของการผูกป้ายผ้าต่อต้านการเจรจาในจุดต่างๆ โดยขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าตรวจสอบ ซึ่งในเดือนเมษายน กระแสทางสังคมพยายามที่จะสอบถาม และพยายามที่จะรื้อฟื้น ครบรอบ 9 ปี เหตุการณ์ที่มัสยิดกรือเซะ ตนเองขอเรียนว่า หากย้อนกลับไปในวันที่ 28 เมษายน 2547
ซึ่งเกิดเหตุการณ์ที่มัสยิดกรือเซะ จ.ปัตตานี และอีกหลายๆ จุดในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่มัสยิดกรือเซะ ผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น ทุกฝ่ายก็มีความเสียใจ และทางภาครัฐก็ได้มีการเยียวยากันไปตามความสมควรในช่วงนั้น โดยที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายก็พยายามที่จะแก้ปัญหาในเชิงสันติวิธีตามหลักของมนุษยธรรม ถ้าหากมองย้อนกลับไปถามพี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่รอบๆ มัสยิดกรือเซะ
ซึ่งเคยเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สร้างรายได้ให้แก่พี่น้องประชาชน พี่น้องประชาชนในพื้นที่ได้สะท้อนออกมาอย่างชัดเจนว่าไม่อยากที่จะรื้อฟื้นความทรงจำที่เลวร้ายของเหตุการณ์มัสยิดกรือเซะ แต่อยากให้สังคมรื้อฟื้นความทรงจำว่ามัสยิดกรือเซะ เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ความสำคัญ และเป็นที่น่าภาคภูมิใจของประเทศไทย โดยเฉพาะ จ.ปัตตานี ที่สามารถสร้างรายได้ให้แก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่ค่อนข้างมากพอสมควร
พ.อ.ปราโมทย์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ทางแม่ทัพภาคที่ 4 ได้มีการพูดคุยประสานงานกับทางองค์กรต่างๆ เช่น ศอ.บต. ตำรวจ หรือสภาที่ปรึกษา ศอ.บต. หรือทางกระทรวงทบวงกรมต่างๆ ขณะนี้ทุกองค์กรได้ให้การยอมรับในการแก้ไขปัญหาที่ไปในทิศทางเดียวกัน
สำหรับการดูแลความปลอดภัยนั้น ตอนนี้ ทาง กอ.รมน.ภาคที่ 4 ก็ยังคงใช้กำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจในการดูแลความปลอดภัยพี่น้องประชาชนอยู่อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นวันไหนๆ ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นวันครบรอบ 9 ปี ที่กรือเซะ ทางเจ้าหน้าที่ก็พร้อมที่จะดูแลประชาชนอยู่แล้ว โดยที่ผ่านมาทางแม่ทัพภาคที่ 4 ก็ได้สั่งเน้นย้ำอยู่แล้ว
