ยะลา - กำลังทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง คุมเข้มรักษาความปลอดภัยใน อ.เบตง เน้นตรวจสอบรถยนต์ รถจักรยานยนต์ต้องสงสัยที่อาจนำมาประกอบเป็นคาร์บอมบ์ก่อเหตุรุนแรงต้านการเจรจาบีอาร์เอ็น และครบรอบ 9 ปีเหตุการณ์มัสยิดกรือเซะ ขณะที่หน่วยงานด้านความมั่นคงได้แจ้งเตือนให้เฝ้าระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากมีรายงานว่า คอมมานโด จำนวน 35 คน ได้อำพรางสถานะแทรกซึมเดินทางเข้าพื้นที่เป้าหมาย
วันนี้ (24 เม.ย.) กำลังเจ้าหน้าที่ทหารพราน ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และกองกำลังภาคประชาชน เพิ่มมาตรการเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา เพื่อป้องกันการก่อเหตุรุนแรงในช่วงของการเจรจาบีอาร์เอ็น และครบรอบ 9 ปี เหตุการณ์มัสยิดกรือเซะ ในวันที่ 28 เมษายนนี้ ขณะที่หน่วยงานด้านความมั่นคงได้แจ้งเตือนให้เฝ้าระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากมีรายงานว่า คอมมานโด จำนวน 35 คน ได้อำพรางสถานะแทรกซึมเดินทางเข้ามาทางด่านนอก อ.สะเดา จ.สงขลา เมื่อ 21 เม.ย.56 ตอนกลางคืน ไม่ทราบเวลา
ซึ่งกลุ่มคอมมานโดดังกล่าว เดินทางมาจากรัฐตรังกานู ประเทศมาเลเซีย เพื่อเตรียมก่อเหตุครบรอบกรือเซะ ในวันที่ 28 เม.ย.56 เป้าหมายเขต พื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พื้นที่ จ.ปัตตานี พื้นที่ จ.ยะลา และอ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส โดยเน้นเป้าหมายในการก่อเหตุความรุนแรงในย่านธุรกิจ ห้างร้าน และข้าราชการระดับสูง ซึ่งก่อนหน้านี้ มีข้อมูลตรงกันว่าจะมีเด็กรุ่นใหม่เข้ามาจำนวนประมาณ 150 คน และชุดคอมมานโด จากรัฐตรังกานู และรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย จะกระจายออกมาทางด่านชายแดนในพื้นที่ต่างๆ ก่อนที่ทางประเทศมาเลเซียจะปิดชายแดนเพราะจะมีการเลือกตั้ง
ขณะที่กลุ่มปฏิบัติการ RKK แต่ละพื้นที่ยังคงก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างต่อเนื่องเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจในการเดินทางเข้าพื้นที่เป้าหมาย ขณะเดียวกัน กลุ่มแนวร่วมที่เป็นเด็กใหม่ และไม่มีชื่ออยู่สารบบเริ่มมีการเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ จ.สงขลา หลังจากเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2556 ผ่านมา พบป้ายผ้า 8 จุด ในพื้นที่ อ.เทพา และ อ.สะบ้าย้อย
ด้าน พ.อ.นพดล วัชรจิตบวร ผบ.ฉก.กรมทหารพรานที่ 33 กล่าวว่า โดยในพื้นที่ย่านการค้าใจกลางเมืองเบตงได้มีการวางกำลังเจ้าหน้าที่ทหารพราน-อส. ตำรวจ และกองกำลังภาคประชาชน ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง และเน้นการเฝ้าสังเกต และตรวจค้นรถต้องสงสัยทั้งรถจักรยานยนต์ และรถยนต์ ที่นำมาจอดไว้ตามย่านการค้านานผิดปกติ หรือจอดในลักษณะมีพิรุธ และรถทุกชนิดที่ขาดการต่อทะเบียน หรือเอกสารไม่ตรงกับตัวรถ นอกเหนือจากการวางกำลังจุดตรวจเส้นทางเข้าออก และเส้นทางรอยต่อประเทศมาเลเซีย รวมทั้งการตรวจค้นชุมชนเป้าหมายตามที่ได้รับแจ้งจากกองกำลังภาคประชาชนทันทีหากมีการแจ้งเข้ามา