“พานทองแท้” โอดคนป้ายสี “ติ๊งเหล่” โวถ้าไม่ได้เเถลงการณ์ร่วมคัดค้านไว้ ป่านนี้กัมพูชาตีกินขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทั้งตัวปราสาทเเละพื้นที่ 4.6 ตร.กม.ไปแล้ว ถ้าจะโทษให้โทษ ปชป. ที่ทำตัวปราสาทเสร็จเขมรตั้งแต่ปี 2505 อวยวันเกิด เชื่อ “พี่อยากให้ประเทศไทยของเราชนะคดีบนศาลโลก ก็ขอให้พี่สมหวังดังที่ตั้งใจไว้”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเที่ยงคืนเศษวันนี้ 24 เม.ย. นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนักโทษหนีคดีอาญาแผ่นดิน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Oak Panthongtae Shinawatra ภายใต้หัวข้อ “เขาพระวิหาร-นพดล ปัทมะ-พรรคประชาธิปัตย์” ความว่า
“เเฟนเพจหลายท่าน เรียกร้องให้ผมเขียนเรื่องเขาพระวิหารครับ
เหตุผลก็ไม่ใช่เพราะว่า พานทองเเท้ช่ำชองอะไรกับประวัติศาสตร์ชาติไทยนะครับ เพียงเเต่เเฟนเพจเห็นว่าผมมักจะ อธิบายเรื่องที่ซับซ้อนต่างๆให้เข้าใจได้อย่างง่ายๆ เเละผมทราบว่าวันนี้ตรงกับวันเกิดของ พี่นพดล ปัทมะ อดีตรมต.ต่างประเทศ ซึ่งถูกพาดพิงเละมีส่วนเกี่ยวขัองกับเรื่องนี้ และเมื่อศึกษาความเป็นมาจะเห็นว่าคนของพรรคประชาธิปัตย์มีส่วนร่วมเป็นอย่างมากกับการ "คงอยู่หรือเสียไปของปราสาทพระวิหาร" จึงเป็นที่มาของหัวข้อในวันนี้
เขาพระวิหาร --- นพดล ปัทมะ --- พรรคประชาธิปัตย์ ครับ
ก่อนอื่นต้องท้าวความย้อนหลังไปถึงปีพศ.2505 ครับ ครั้งนั้นเป็นการสูญเสียครั้งเเรกของฝ่ายไทย คือเราแพ้คดีต่อกัมพูชาบนศาลโลก สิ่งที่เราสูญเสียไปคือตัวปราสาทพระวิหารครับ ส่วนพื้นที่ทับซ้อนที่ระวางเเผนที่ไม่ตรงกันอยู่ 4.6ตารางกม. ไม่ได้อยู่ในคำตัดสินในครั้งนั้น การสูญเสียครั้งเเรกของเรา ถ้าจะพูดในมุมทางการเมืองเเบบที่ปชป.ชอบทำ ต้องบอกว่าเป็นฝีมือการว่าความของอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ล้วนๆเลยครับ พรรคเพื่อไทยไม่เกี่ยว พานทองแท้ยังไม่เกิด เเละนพดล ปัทมะ พึ่งจะ2-3ขวบ ปชป.หมดสิทธิ์โยนความผิดให้แก่ผู้อื่นครับ
ถัดมาอีก 46ปี ถึงได้มาเกี่ยวกับ นายนพดล ปัทมะ ครับ คือการเเถลงการณ์ร่วมในปี พ.ศ. 2551 เรื่องการขึ้นทะเบียนมรดกโลกของปราสาทพระวิหาร ซึ่งก็เป็นคนละส่วนกับพื้นที่ 4.6 ตร.กม.ที่ขัดแย้งกันอยู่ครับ ผมมองว่าเป็นการดีเสียอีกที่มีการเเถลงฯ เนื่องจากแรกเริ่มเดิมทีกัมพูชาได้เคยยื่นเรื่องขึ้นทะเบียนมรดกโลกไว้ตั้งแต่ปี 49 ครับ
ยุคนั้นเป็นรอยต่อสมัยรัฐบาล คมช.โดย "กัมพูชายื่นทั้งปราสาท เเละ พท.4.6 ตร.กม. เป็นมรดกโลกทั้ง 2 อย่าง" ปรากฏว่าตลอดอายุของรัฐบาล คมช.ได้เพิกเฉยมิได้คัดค้านเลยแต่ นายนพดล ปัทมะ รมต.ต่างประเทศเมื่อปี 51 ได้คัดค้านจนกัมพูชายอมเเก้ไขยื่นเฉพาะตัวปราสาทพระวิหาร (ซึ่งเป็นสิทธิของเขาเพราะศาลตัดสินตั้งแต่ปี 2505 แล้ว)เท่านั้น ซึ่งถ้านายนพดลฯไม่ได้คัดค้านไว้ ป่านนี้เราคงเสียเปรียบกัมพูชาอีกเยอะครับ
มาวันนี้กัมพูชายื่นฟ้องต่อศาลโลกเรื่อง พื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตร.กม.ครับ สลิ่มบ้องตื้นยังหูเบาจะทวงคืนปราสาทพระวิหารกันอยู่ ทั้งๆที่เราเสียไปตั้ง 51 ปีเเล้ว เสียไปจากฝีมือการว่าความของอดีต หน.ปชป.สมัยโน้นด้วยซ้ำ ถ้าอยากจะได้คืนควรไปโวยที่พรรคปชป.โน่น ว่าอดีตหัวหน้าพรรคฯว่าความอย่างไร ถึงได้แพ้กัมพูชา
ที่ผ่านมา นายนพดลถูกป้ายสีว่าไปออกแถลงการณ์ เป็นการขายชาติ แต่ล่าสุดท่านทูตวีรชัย (เดอะฮีโร่) หัวหน้าทีมกฎหมายของเราในขณะนี้ ได้ให้สัมภาษณ์ยืนยันว่านายนพดลไม่มีส่วนเกี่ยวข้องที่จะทำให้ไทยเสียดินแดน และการกระทำของนายนพดลฯ ทำให้กัมพูชาไม่สามารถขึ้นทะเบียนมรดกโลกในส่วน 4.6 ตร.กม.ได้
ผมขอเปรียบเทียบการกระทำของ ปชป.กับกรณีนี้ว่า เป็นเหมือนกับ บอลไทยเตะกับเขมรครับ ผู้เล่นเขมรเเกล้งพุ่งล้มในเขตโทษ ในจุดที่นพดลนักเตะทีมชาติไทยยืนอยู่ใกล้ๆ กองเชียร์ทีมเขมรย่อมต้องส่งเสียงเฮเเละชี้ไปที่จุดโทษ ส่วนกองเชียร์ทีมชาติไทยต้องลุกขึ้นโห่ร้อง แล้วโบกมือว่าไม่ฟาวล์เพราะเขมรเเกล้งพุ่งล้ม
สมาชิกและกองเชียร์พรรคประชาธิปัตย์ ล้วนแล้วแต่เป็นคนไทยครับ ควรที่จะพูดแต่ในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ไม่ใช่มุ่งจะเอาชนะทางการเมืองเพียงอย่าเดียว โดยไม่สนว่าสิ่งที่พูด (ใส่ร้ายทางการเมือง) นั้น จะทำให้ประเทศไทยเสียเปรียบในรูปคดีที่ศาลโลกกำลังพิจารณาอยู่
วันนี้วันเกิดพี่นพดล ผมคิดว่าสิ่งที่พี่อยากได้ที่สุดในเวลานี้คือ พี่อยากให้ประเทศไทยของเราชนะคดีบนศาลโลกครับ ก็ขอให้พี่สมหวังดังที่ตั้งใจไว้
สุขสันต์วันเกิดครับ พี่นพดล”