โฆษกเพื่อไทย เผย ส.ส.จ่อลงพื้นที่กล่อมชาวบ้านยอมปล่อยกู้ 2 ล้านล้าน หนุนแก้ รธน.อ้างเพื่อสากล แจงนิรโทษ ถามภัยแล้ง ได้โอกาสชมทีมกฎหมายสู้คดีพระวิหาร สวนฝ่ายค้านอย่าโหมกระแส เตือน “สุริยะใส” ทบทวนเดินสายแฉ อ้างทำชาวบ้านขัดแย้ง
วันนี้ (21 เม.ย.) ที่พรรคเพื่อไทย เมื่อเวลา 10.00 น. นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า หลังจากรัฐสภาปิดสมัยประชุมสามัญนิติบัญญัติให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกพรรคเพื่อไทย 264 คน รวมถึงสมาชิกในฝ่ายบริหารที่ว่างเว้นจากภารกิจร่วมกันลงพื้นที่ทำความเข้าใจกับประชาชนใน 4 เรื่อง คือ 1.พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ว่ามีความจำเป็นอย่างไร ในการปรับระบบขนส่งมวลชนให้ประเทศได้ผลประโยชน์จากการกู้เงินไม่ได้เป็นภาระกับงบประมาณแผ่นดิน และไม่ได้เป็นหนี้ถึง 50 ปี 2.ความจำเป็นในการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญใน 3 ร่างของสมาชิกรัฐสภา 312 คน ว่า ทำไมต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อทำความเข้าใจว่าการแก้ไข 3 ร่างจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชน และเป็นการคืนความเป็นประชาธิปไตยที่เป็นสากลยอมรับ ไม่ได้แก้เพื่อพรรคการเมือง หรือแก้เพื่อให้รัฐบาลได้ประโยชน์ 3.ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมว่ามีความจำเป็นต้องเลื่อนระเบียบวาระขึ้นมาพิจารณา 4.รับฟังความเดือดร้อนของประชาชน โดยเฉพาะเรื่องภัยแล้งในพื้นที่ภาคอีสาน ทั้งนี้ ทางพรรคจะเรียกประชุมในทุกต้นเดือนถึงแม้จะปิดสมัยประชุม
โฆษกพรรคเพื่อไทย ยังกล่าวถึงกรณีคดีพิพาทปราสาทพระวิหาร โดยวันนี้คณะทำงานด้านกฎหมายเพื่อต่อสู้คดีได้เดินทางถึงท่าอากาศยานสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อเวลา 07.00 น. ซึ่งประชาชนไปต้อนรับจำนวนมากเพื่อชื่นชมการทำหน้าที่ของทีมกฎหมาย ตนในนามพรรคเพื่อไทยขอชื่นชม และให้กำลังใจทีมกฎหมายถึงผลการสู้คดีจะเป็นอย่างไร วันนี้ประชาชนถือเป็นความสุขที่ได้รับจากการถ่ายทอดสดที่รัฐบาล และกระทรวงการต่างประเทศได้ให้ประชาชนเห็นข้อมูลรอบด้าน อีกทั้งตนเชื่อว่า จะเป็นประโยชน์ในการทำความเข้าใจกับประชาชน แล้วขอเรียกร้องไปยังฝ่ายค้านไม่ควรวิพากษ์วิจารณ์โหมกระแส โดยอย่าทำเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องเกมการเมือง หรืออย่านำเรื่องดังกล่าวไปบิดเบือนเพื่อหวังเป็นผลทางการเมือง เชื่อว่ารัฐบาล และทีมกฎหมายได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ถึงแม้ผลตัดสินจะเป็นอย่างไรประชาชนก็ติดตามผลของเรื่องดังกล่าวอยู่ ฝ่ายค้านควรหยุดวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้ได้แล้ว การชี้แจงของทีมทนายความได้กระทำอย่างสมบูรณ์แบบ ส่วนกรณีที่ นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน จะนำเรื่องดังกล่าวไปขยายผลโดยทำสมุดปกดำ และเปิดเวทีปราศรัย ตนเห็นว่าควรจะทบทวนการกระทำดังกล่าว เนื่องจากอาจนำไปสู่ความสับสนของประชาชน และอาจนำไปสู่ความขัดแย้งควรให้เป็นเรื่องของประเทศชาติที่คนไทยร่วมใจกันตัดสิน