พท.ตอก ปชป.ไม่เคารพเสียงข้างมาก ยื่นศาล รธน.ค้านแก้ รธน. ชี้ “วรงค์” ตายน้ำตื้นชงแปรญัตติ 60 วัน กลับไม่แสดงตัว ยัน “ค้อนปลอม” ให้ 15 วันถูกกฏ ไม่หนักใจยื่นค้านกู้ 2 ล้านล้าน ขัด ม.169 ย้อน ปชป.กู้ พ.ร.ก.ยังผ่าน โวทีม กม.พรรคพร้อมแจงศาล “สมชาย” ยื่นแก้ ม.68 ขัด รธน. ย้ำ ปชป.เอี่ยวโกงสร้างโรงพัก จี้ ขอโทษ สตช. โวนายกฯ ลงใต้โชว์ภาวะผู้นำ อ้างลงพื้นที่บ่อยกว่า รบ.มาร์ค
วันนี้ (7 เม.ย.) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าทีมกฎหมายของพรรคประชาธิปัตย์ เตรียมยื่นหนังสือขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย การแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราทั้ง 3 ร่าง 4 ประเด็น พรรคมองว่าเป็นเกมการเมือง พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคารพเสียงส่วนใหญ่ เนื่องจากทางสภาฯ ได้รับหลักการในวาระแรกด้วยเสียงข้างมากไปแล้ว มีการตั้งกรรมาธิการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 3 คณะ แม้ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ เสนอแปรญัตติ 60 วัน แต่ นพ.วรงค์กลับไม่ได้แสดงตนต่อประธาน ไม่ได้กดบัตร นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภาฯ จึงไม่ได้นับองค์ประชุม เพราะที่ประชุมเห็นว่า ที่ประชุมควรแปรญัตติภายใน 15 วันตามที่ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลเสนอ ประกอบกับ นพ.วรงค์ก็ไม่ได้แสดงตน ไม่ได้ทำตามข้อบังคับของสภาฯ ไม่ได้อยู่ในห้องประชุม จึงน่าจะเป็นการตายน้ำตื้น เมื่อผู้เสนอแปรญัตติก็ไม่ได้โหวต เชื่อว่าการวินิจฉัยของนายสมศักดิ์ ได้ทำถูกต้องแล้ว ไม่ได้ขัดรัฐธรรมนูญ พรรคประชาธิปัตย์จะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย มองอย่างอื่นไม่ได้นอกจากเป็นการเตะถ่วง ทำตัวเป็นองครักษ์พิทักษ์รัฐธรรมนูญ ตีรวนในสภาฯ แล้วยังตามมาตีรวนในชั้นกรรมาธิการ กระบวนการจากนี้พรรคจะเดินหน้าต่อไป การยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความเป็นลักษณะขี้แพ้ชวนตี ทำตัวเป็นเผด็จการเสียงข้างน้อย ไม่เคารพเสียงส่วนใหญ่
นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า ส่วนกรณีนายวิรัตน์ระบุว่าหลังเทศกาลสงกรานต์จะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตรวจสอบร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ของกระทรวงการคลังว่าอาจเข้าข่ายผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 169 หลังเทศกาลสงกรานต์เช่นกัน กรณีนี้พรรคเพื่อไทยก็ไม่หนักใจ ยืนยันว่าไม่ได้ทำผิดตามกฎหมาย สมัยพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลเคยออกพ.ร.ก.กู้เงิน 4 แสนล้านบาท แต่ศาลก็ชี้ว่าไม่ขัดกฎหมาย สามารถทำได้ ซึ่งการไปยื่นศาลรัฐธรรมนูญครั้งนี้เพื่อต้องการการตีรวน ขัดขวางไม่ให้รัฐบาลทำนโยบายโครงสร้างพื้นฐานให้ประชาชน ทั้งที่โครงการของพรรคเพื่อไทยใจกว้างสร้างท่ารือน้ำลึกที่จ.ชุมพรด้วย แม้พรรคประชาธิปัตย์จะมีอายุครบ 67 ปี ถือว่าเลยวัยเกษียณมาแล้ว อยากให้ทำการเมืองและค้านอย่างสร้างสรรค์จะได้เป็นประโยชน์ต่อประชาชน อย่างไรก็ดีในวันที่ 9 เม.ย. ทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย เตรียมจะหารือเรื่องที่จะให้สมาชิกพรรค เตรียมร่างคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วัน หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องของนายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา ว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ เพื่อให้มีแนวทางให้สมาชิกชี้แจง พรรคไม่หนักใจ เพราะสามารถชี้แจงได้ ขณะเดียวกันก็พร้อมที่จะหารือถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ เตรียมจะยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2.2 ล้านบาทด้วย
นายพร้อมพงศ์กล่าวอีกว่า โครงการก่อสร้างโรงพักทดแทน 396 แห่งทั่วประเทศ สมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ขั้นตอนขณะนี้ ป.ป.ช.ได้ตั้งอนุกรรมาธิการตรวจสอบซึ่งตรวจสอบไปถึงนักการเมือง การก่อสร้างโรงพักทดแทน แต่วันนี้มีแต่ตอม่อร้าง เป็นโครงการโรงพักฉาว เป็นมรดกบาป นายอภิสิทธิ์ เคยพูดความรับผิดชอบทางการเมืองต้องมาก่อนความรับผิดชอบทางกฎหมาย ที่นายอภิสิทธิ์ทำต่อสตช.และโรงพักทั่วประเทศ ในวันที่ 17 เม.ย. ซึ่งจะครบกำหนดที่บริษัท พีซีซี ขอขยายสัญญาการก่อสร้างกับ สตช. หากยังไม่แล้วเสร็จ ขอให้นายอภิสิทธิ์ออกมาขอโทษสตช. เหมือนที่เคยพูดว่าแม้ความรับผิดชอบทางกฎหมายไปไม่ถึง แต่ความรับผิดชอบทางการเมืองต้องมาก่อน
นายพร้อมพงศ์กล่าวถึงกรณีที่มีการเรียกร้องให้นส.ยิ่งลักษณ์ ลงพื้นที่ภาคใต้ว่า ในวันนี้น.ส.ยิ่งลักษณ์ก็ได้ลงพื้นที่ภาคใต้ ไปเยี่ยมผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ การลงพื้นที่ครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงวุฒิภาวะความเป็นผู้นำ การลงพื้นที่ครั้งนี้มีการวางแผน เตรียมการล่วงหน้า ไม่ได้ลงเพราะพรรคประชาธิปัตย์ออกมาเรียกร้อง แตกต่างจากรัฐบาลสมัยที่นายอภิสิทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรี บริหารประเทศ 2 ปี 8 เดือน แต่ลงพื้นที่น้อยกว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์ที่บริหารประเทศมาเพียง 1 ปี 8 เดือนเท่านั้น ส.ส.ประชาธิปัตย์ที่เรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกการเจรจากับกลุ่มบีอาร์เอ็น ควรหันมาให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในการให้ข้อมูลข่าวสาร ไม่ใช่มาตีกินทางการเมืองว่าการเจรจาครั้งนี้จะไม่ประสบความสำเร็จ
