ประชุมร่วมรัฐสภาวุ่น ปธ.สภาไม่ฟังเสียงค้านขอมติที่ประชุมแปรญัตติ 15 วัน เด็ก ปชป.-มาร์ค-ชวน ยกมือโวยผิดข้อบังคับ “ชาดา” ขึ้นตามซัดขัด รธน. ตกกับดักตัวเอง “อรรถพร” ชูป้ายเผด็จการประท้วง แต่เจอความหนาดันจนมติผ่าน ส่งผลให้สิ้นสุดแปรญัตติ 19 เม.ย.
วันนี้ (18 เม.ย.) ที่รัฐสภา มีการประชุมร่วมรัฐสภา มีนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณากำหนดวันแปรญัตติ ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมเป็นรายมาตรา ตามที่พรรคประชาธิปัตย์เสนอให้แปรญัตติ 60 วัน โดยนายสมศักดิ์แจ้งต่อที่ประชุมว่า เป็นการพิจารณาต่อเนื่องมาจากการประชุมเมื่อวันที่ 3 เม.ย. ซึ่งที่ประชุมมีมติรับหลักการวาระแรกทั้ง 3 ฉบับ และตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมาพิจารณา 3 คณะแล้ว ดังนั้นวันนี้จึงขอดำเนินการลงมติในญัตติดังกล่าวต่อ
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง บรรยากาศการประชุมร่วมรัฐสภา และ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศเริ่มตรึงเครียดเมื่อนายนิพนธ์ วิสิษฐยุทธศาสตร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ลุกขึ้นประท้วงว่านายสมศักดิ์ทำขัดรัฐธรรมนูญและข้อบังคับการประชุม เนื่องจากการประชุมเมื่อวันที่ 3 เม.ย.ในช่วงขอมติจากที่ประชุมเพื่อกำหนดวันแปรญัตติแล้วองค์ประชุมล่ม ถือว่าวาระดังกล่าวจบไปแล้ว การเรียกประชุมในวันนี้อีกไม่สามารถทำได้ หรือการสั่งเรียกประชุมคณะกรรมาธิการฯทั้ง 3 คณะ โดยมีการรับเบี้ยประชุมกันไปแล้วถือว่าไม่ถูกต้อง
แต่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย แย้งว่าเมื่อองค์ประชุมวันนั้นไม่ครบก็เท่ากับญัตติต้องตกไป และในชั้นการตรวจสอบองค์ประชุม ผู้เสนอญัตติไม่ได้อยู่ในห้องประชุมแสดงว่าไม่ต้องการให้ญัตติดังกล่าวผ่าน เมื่อไม่มีการลงมติก็ต้องอนุโลมตามข้อบังคับ คือ แปรญัตติ 15 วัน
ขณะที่นายสมศักดิ์กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์เรียกร้องให้ตนเปิดประชุมร่วมเพื่อจะลงมติอีกครั้ง ไม่เช่นนั้นจะยื่นถอดถอน พอตนเปิดให้กลับมากล่าวหาว่าทำผิดรัฐธรรมนูญอีก สรุปทำอะไรก็ผิดใช่หรือไม่ ดังนั้นขอวินิจฉัยตามข้อบังคับคือ เมื่อองค์ประชุมไม่ครบ ก็เท่ากับต้องกลับไปยึดตามข้อบังคับเดิมโดยอัตโนมัติ คือ 15 วัน ถือว่าทำถูกต้องตามขั้นตอนแล้วไม่สามารถทำอย่างอื่นได้ ที่ผ่านมาไม่เคยพูดว่าจะไม่เรียกประชุมอีก พูดแค่ว่าอะไรยอมก็ยอมกันเถอะเพื่อให้ทุกฝ่ายสบายใจ
ผู้ข่าวรายงานว่า บรรดา ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์แสดงความไม่พอใจต่อการวินิจฉัยของนายสมศักดิ์ พากันลุกฮือขึ้นประท้วง อาทิ นายธนา ชีรวินิจ ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่านายสมศักดิ์ทำผิดซ้ำซาก การแก้รัฐธรรมนูญเป็นเรื่องใหญ่จะใช้อำนาจเผด็จการอย่างนี้เป็นประธานการประชุมไม่ได้ การประชุมรัฐสภาไม่ใช่การประชุมบริษัท แต่นายสมศักดิ์ตัดบทไม่สนใจและให้สมาชิกลงมติ ทำให้เกิดเสียงโห่ประท้วงจาก ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์กันวุ่นวาย ขณะที่ ส.ส.จากพรรคเพื่อไทยก็พยายามประท้วงตอบโต้ อาทินายมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ใช้สิทธิประท้วงพร้อมกล่าวท้าทายว่า “เอากันหน่อยไหม เอากันสักหน่อย”
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภา ยกมือขออภิปราย แต่นายสมศักดิ์ยังยืนยันขอมติที่ประชุม ทำให้ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์พากันยืนขึ้นพร้อมกับยกมือประท้วง ขณะที่บางส่วนลุกออกจากห้องประชุมไป ทำใหนายสมศักดิ์สั่งให้ทุกคนนั่งลงมิเช่นนั้นจะไม่อนุญาตให้นายอภิสิทธิ์พูด ส่งผลให้ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ยอมนั่งลงอย่างสงบ
จากนั้นนายอภิสิทธิ์อภิปรายว่าเมื่อองค์ประชุมไม่ครบ โดยปกติคือประธานฯ ต้องนัดประชุมใหม่โดยเร็ว แต่กลับรีบวินิจฉัยว่าให้ยึดตามข้อบังคับ ดังนั้นการประชุมวันนี้จึงไม่สามารถทำได้ นอกจากนายสมศักดิ์จะยอมรับก่อนว่าองค์ประชุมไม่ครบ แต่หากยังยืนยันตามเดิมก็ไม่รู้จะลงมติอย่างไร
อย่างไรก็ตาม นายสมศักดิ์ยังคงยืนยันว่าได้ปฏิบัติถูกต้องโดยยึดตามข้อบังคับการประชุมที่ระบุว่าหากมีการรับหลักการแล้ว ตั้งคณะกรรมาธิการแล้ว กำหนดเวลาแปรญัตติ 15 วัน โดยอัตโนมัติ เว้นแต่ที่ประชุมจะเห็นเป็นอย่างอื่นวันนั้นมีสมาชิกเสนอแปรญัตติ 60 วัน แปลว่าเห็นเป็นอย่างอื่น ตนก็ต้องให้ลงมติ โดยให้มีการตรวจสอบองค์ประชุมก่อน แต่ไม่ครบองค์จึงดำเนินการเป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกจากปิดประชุม จากนั้นก็มีเสียงเรียกร้องให้เปิดประชุมอีกครั้งถ้าไม่ทำถือว่าผิดรัฐธรรมนูญจะถูกยื่นถอดถอน
ด้านนายชวน หลีกภัย ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวเสริมนายอภิสิทธิ์ว่า ประเด็นคือยังมีความเห็นเป็นอื่น ดังนั้นข้อยุติยังไม่เกิดขึ้น ถ้าบอกว่าการประชุมวันนี้ไม่มีปัญหา เมื่อชี้ขาดว่าจบแล้ว การลงมติใหม่ในวันนี้ต้องพูดคุยกันว่าจะเริ่มนับวันแปรญัตติจากวันไหน ต้องยอมรับจุดนี้ว่าไม่ชอบต้องเริ่มต้นใหม่ หากประธานยังยืนยันคำเดิมก็ลงมติใหม่ไม่ได้
นายสมศักดิ์ชี้แจงกลับว่า สิ่งที่นายชวนเสนอตนสนองตอบไม่ได้ เพราะข้อบังคับการประชุมไม่ได้เปิดช่องไว้ ทำให้นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคชาติไทยพัฒนา ตะโกนประท้วงด้วยความโมโหว่านายสมศักดิ์ทำผิดทุกข้อบังคับ และผิดรัฐธรรมนูญทุกมาตรา และกำลังเดินไปสู่กับดักตัวเอง ตนเห็นด้วยกับข้อเสนอของนายชวน ที่ให้เริ่มนับวันแปรญัตติหลังวันลงมติคือวันนี้ แต่นายสมศักดิ์ยังคงไม่สนใจและยืนยันตามเดิม และขอมติทันที ทำให้ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์บางส่วนเดินออกจากห้องประชุม ขณะที่นายอรรถพร พลบุตร ส.ส.เพชรบุรี พรรคประชาธิปัตย์ เดินไปหน้าบัลลังก์พร้อมชูกระดาษที่เขียนคำว่า “เผด็จการ” เพื่อเป็นการประท้วง
ในที่สุดที่ประชุมมีมติกำหนดวันแปรญัตติ 15 วัน ด้วยคะแนน 356 ต่อ 19 เสียง งดออกเสียง 33 ไม่ลงคะแนน 5 จากนั้นนายสมศักดิ์ประกาศว่า ให้เริ่มนับวันแปรญัตติตั้งแต่วันที่ 4 เม.ย. ดังนั้นจะสิ้นสุดการส่งคำแปรญัตติในวันที่ 19 เม.ย.นี้ และสั่งปิดประชุมทันที