“ประยุทธ์” ยันทุกคนเสียใจ แค้นเหตุป่วนใต้จนทหารตาย ย้ำพยายามไม่รุนแรงโต้ รับเป้าอ่อนแอมีมาก ขอตำหนิพวกใจเร็วจนลืมห่วงตัวเอง แนะอย่าให้น้ำหนักโจร เผยนายกฯ เสียใจ เร่งป้องสปายโดนทำร้าย ด้าน “สุกำพล” ลั่นไม่ย่อท้อ เดินถูกทางแล้ว บอกใครแรงก็ปราบปราม
วันนี้ (11 เม.ย.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก เมื่อเวลา 08.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวถึงเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ จ.ปัตตานีหลายจุดเมื่อคืนวันที่ 10 เม.ย.ผ่านมาจนทำให้มีทหารสูญเสียชีวิตว่า เป็นหน้าที่ของตนที่ต้องดูแลลูกน้อง ทุกคนเป็นห่วงทุกครั้งที่เกิดเหตุและมีทหารเสียชีวิต ทุกคนก็เสียใจและโกรธแค้น ในฐานะผู้บังคับบัญชามีจิตใจเป็นมนุษย์ก็รู้สึก แต่สิ่งสำคัญต้องระลึกอยู่เสมอว่าเจ้าหน้าที่เป็นคนไทยด้วยกัน เราต้องพยายามทำให้ดีที่สุดโดยไม่ใช้ความรุนแรงตอบโต้ แต่ต้องระมัดระวังตัวให้มากขึ้น เมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมาได้ลงพื้นที่รับฟังสรุปการปฏิบัติงานในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมาของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) โดยได้เน้นย้ำนโยบายของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในฐานะ ผอ.รมน. เรื่องการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เท่าที่ฟังจากหน่วยเฉพาะกิจ (ฉก.) ทราบว่าทำอย่างเต็มที่ ปัญหาคือพื้นที่กว้างไกล มีเขตเมือง ชนบท ป่าเขา เราต้องเข้าไปดูแลทุกพื้นที่ การบาดเจ็บและสูญเสียส่วนใหญ่อยู่ในช่วงที่มีการเคลื่อนย้ายกำลัง
“ที่ทหารพรานถูกลอบวางระเบิด เพราะห่วงอาสาสมัคร (อส.) จึงได้รีบไปโดยใช้รถเกราะ REVA คิดว่าไม่น่าจะเกิดปัญหาอะไร แต่ปรากฏว่าเป็นช่วงเวลากลางคืน มีการใช้ระเบิดเป็นจำนวนมากทำให้รถคว่ำแต่ไม่ได้พัง แต่ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อภายในห้องโดยสาร เพราะเป็นรถเกราะที่ดีพอสมควร จากสภาพรถเกราะคว่ำ หงายท้อง ถูกแรงอัด ทำให้เสียชีวิต ซึ่งต้องระมัดระวังต่อไป เมื่อวานมีการโจมตีนิคมฯ ท่าเรือ ฐานของ อส. ที่มีการระวังป้องกันตนเองต่ำ เขารู้ว่าเมื่อเกิดเหตุก็ต้องมีการเคลื่อนกำลังไปช่วย เขาพร้อมปฏิบัติการ ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของ ผบ.ร้อยทหารพราน ที่จะนำกำลังเข้าไปช่วยทำให้สูญเสีย เราทำงานที่ต้องเปิดเผยตนเอง และเป้าหมายอ่อนแอมีจำนวนมาก ผมตำหนิอย่างเดียวคือความใจเร็ว ใจร้อนที่อยากไปช่วยคน บางทีลืมห่วงตัวเอง ทุกครั้งจะเป็นอย่างนี้โดยตลอด ผมก็ย้ำว่าให้ช้าลงสักนิด” ผบ.ทบ.กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สิ่งที่เราจะแก้ไขปัญหาภาคใต้ได้ไม่ใช่ใช้กำลังอย่างเดียว เราต้องแก้ไข คือ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินที่ยังไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ ฝ่ายนั้นใช้วิธีกองโจร แต่ฝ่ายเราใช้ไม่ได้ เราทำได้อย่างจำกัด ตนไม่อยากบอกว่า เราจะต้องขอกฎหมายเพิ่ม เพราะไม่อยากสร้างปัญหา ส่วนการโจมตีที่ท่าเรือประมงเป็นการส่งสัญญาณว่าจะมีการโจมตีทางเรือด้วยหรือไม่นั้น คิดว่าไม่ใช่อย่างนั้น ผู้ก่อเหตุดูว่าตรงไหนอ่อนแอก็ไปทำตรงนั้น และแสดงศักยภาพว่าทำได้ทุกที่ ใช้คนเพียงไม่กี่คน แต่การก่อเหตุอย่างนี้ไม่ยาก แต่อย่าไปให้น้ำหนักกับโจรเพราะมีหลายหลายพวก ทั้งภัยแทรกซ้อน ยาเสพติด ซึ่งมันเกี่ยวข้องกันเพราะคนพวกนี้ต้องการให้เกิดความรุนแรงต่อไป รวมถึงประโยชน์อื่น อย่างเช่นที่หลายคนสงสัยว่าทำไมที่ดินแพงขึ้น เพราะเป็นคนเฉพาะกลุ่มที่กล้าเข้าไปซื้อ ท้ายสุดก็จะมีคนบางพวกไปสร้างอาณาจักรก็ได้ เราต้องมองทุกมิติ
“หลังเกิดเหตุนายกรัฐมนตรีแสดงความเสียใจ ผมเรียนว่าต้องเร่งดำเนินการในเรื่องอื่นๆ ด้วยเพื่อให้ทันเหตุการณ์ ทั้งเรื่องการพัฒนาและอำนวยความยุติธรรม ควบคู่ไปกับการแสวงหาทางออก ใครมีหน้าที่ตรงไหนก็ทำไป แต่เรื่องหลักคือทำให้ประชาชนในพื้นที่ปฏิเสธความรุนแรง และต้องมาเป็นฝ่ายเราร้อยเปอร์เซ็นต์ เมื่ออยู่กับเรา เมื่อเราถอนออกมาก็มีคนเข้าไป โดยใช้ความรุนแรงข่มขู่ จนประชาชนเกิดความหวาดกลัว และเข้าเป็นพวก เวลาเราไปเขาก็ดีกับเรา บางครั้งเขาก็นำข่าวมาให้กับเรา แล้วก็ถูกทำร้าย เป็นสิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการ อีกทั้งงานด้านการพัฒนา ดำเนินการแล้วเสร็จทุกอย่างก็จะดีขึ้น คนที่ได้รับประโยชน์ก็จะไปต่อต้านคนพวกนี้ เราต้องสร้างประชาชนขึ้นมาเพื่อปกป้องตนเองและเป็นกำลังสนับสนุนเรา” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
ขณะที่สโมสรกองทัพบก เทเวศร์ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ว่า เหตุการณ์ที่เกิดช่วงนี้มากแต่ไม่ทำให้หน่วยงานความมั่นคงย่อท้อเพราะคิดว่าเราเดินมาถูกทางแล้ว เพียงแต่ช่วงนี้หนทางขรุขระบ้าง แต่ต้องเดินหน้าต่อไป ต้องให้กำลังใจกันว่าทางเดินนี้ถูกต้องแล้ว ซึ่งการเจรจากับกลุ่มบีอาร์เอ็นอาจมีผลทำให้มีความถี่ในการเกิดความรุนแรงมากขึ้นเล็กน้อยเพราะผู้ที่ไม่เห็นด้วยพยายามแสดงฤทธิ์ออกมา แต่การเจรจาไม่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานเรื่องความมั่นคง ใครที่ทำกับเราแรงเราก็ต้องปราบปรามกัน คนที่เข้ามามอบตัว มาคุยกับรัฐเราก็ต้อนรับอย่างดี โดยมีการคัดแยกให้ชัดเจนว่าใครเป็นใคร ส่วนเรื่องนโยบายการปฏิบัติอาจมีปัญหาบ้าง แต่ต้องแก้ไขกันในเรื่องยุทธวิธี คนในพื้นที่อาจมีปัญหามากหน่อย ซึ่งน่าเห็นใจเขาเหมือนที่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษพูด ในวันนี้ฝ่ายความมั่นคงทั้งพลเรือน ตำรวจ ทหารอยากได้น้ำใจและกำลังใจจากประชาชน ซึ่งถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก
“ผมมั่นใจว่าสิ่งที่ทำมาถูกต้องแล้ว ขอเพียงกำลังใจจากประชาชนในการทำงานเท่านั้น อย่างที่ พล.อ.เปรมพูดก็ตรงใจผม ซึ่งการทำงานต้องเข้าใจกันเพราะงานความมั่นคงบางเรื่องเราพูดหรือนำผลงานจะมาโฆษณามากๆ ไม่ได้เพราะเป็นงานนามธรรม ต้องใช้เวลานาน โดยเราภูมิใจที่ทำงานตรงนี้ขอให้กำลังใจเท่านั้น ส่วนการเลื่อนการพูดคุยกับกลุ่มบีอาร์เอ็นในวันที่ 29 เมษายนนี้คงไม่เกี่ยวข้องกับความถี่ของการสร้างสถานการณ์ในพื้นที่ภาคใต้” พล.อ.อ.สุกำพลระบุ