เกาะกระแส
00 ต้องเรียกว่ากำลังถอยหลังเข้าสู่หายนะจริงๆสำหรับสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนใต้เวลานี้ เพราะเกิดความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง และน่ากลัวจนแทบจะเรียกว่า “ไร้การควบคุม” ได้แล้ว การเกิดเหตุลอบวางระเบิดกับรองผู้ว่าฯยะลา อิศรา ทองธวัช และปลัดป้องกันจังหวัดจนเสียชีวิต มันไม่ธรรมดา เพราะทั้งตัวบุคคลถือว่าเป็นคนสำคัญของจังหวัดในพื้นที่ รวมไปถึงที่เกิดเหตุก็เป็นถนนสาย 410 อันเป็นถนนสายหลัก ไม่ใช่ถนนตรอกซอกซอยในป่าเขาทั่วไป การที่คนร้ายเลือกเป้าหมายดังกล่าว ก็ต้องบอกว่านี่คือการ “ยกระดับ” การปฏิบัติการของฝ่ายคนร้ายขึ้นมาอีกขั้น
00 อีกด้านหนึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงของฝ่ายรัฐ ในที่นี้ก็ต้องชี้หน้าไปที่รัฐบาลไล่ตั้งแต่ นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ลงมาในฐานะเป็น ผอ.กอ.รมน.โดยตำแหน่งที่มีอำนาจมากมาย “รวมศูนย์” อยู่ที่คนๆเดียว และผู้อำนวยการฝ่ายยุทธศาสตร์อย่าง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ที่จนถึงบัดนี้ “หายหัว” หลบหน้าหลบตาไปไหนแล้วก็ไม่รู้ แต่ก็ช่างเถอะสำหรับรายหลังนี่เป็นแค่ “ขี้ข้า” คงไม่มีความหมายอะไรแล้ว อย่าไปพูดถึงให้เสียเวลา
00 เหตุผลที่ต้องบอกว่า นาทีนี้ถือว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง หมดความหมายไปแล้ว หลังจากที่ได้เห็นรายชื่อบุคคลที่ร่วมคณะไปกับ นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ขณะลงพื้นที่ชายแดนใต้ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมา คนอื่นๆไปกันครบขาดแต่เพียงตัวเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น ซึ่งมันเป็นไปได้อย่างไร ในความหมายก็แสดงให้เห็นชัดเจนว่าเขาถูก “กันออกนอกวง” ซึ่งยังสะท้อนให้เห็นว่าสถานะในรัฐบาลแขวนอยู่บนเส้นด้ายแล้ว รอเพียงว่าหากมีการปรับคณะรัฐมนตรีวันใด ก็ต้องไปทันที่ ดังนั้นอาจเรียกได้ว่า “หมดเวลา” สำหรับเขาเป็นแน่แท้แล้ว
00 สำหรับการดูแลแก้ปัญหาชายแดนใต้ หากสังเกตให้ดีจะพบว่าได้ผลักดันให้ นายกฯยิ่งลักษณ์ ต้องลงมาเต็มตัว แม้ว่าจะเป็นความจำใจ แต่เมื่อเป็นไฟล์บังคับก็ต้องยอม เหมือนกับกรณีเกิดเหตุรุนแรงน่าเศร้าสลดกับรองผู้ว่าฯยะลา ในฐานะผู้นำก็ต้องกัดฟันลงไป อย่างไรก็ดีในด้านจิตวิทยาเฉพาะหน้ามันก็อาจได้ผลบ้าง แต่ในทางยุทธศาสตร์เราก็ได้เห็นว่า นายกฯยิ่งลักษณ์ เริ่มรวบอำนาจกลับมาอยู่ในมือแล้วก็ได้ โดยอาจมีการเปลี่ยนคนดูแลเสียใหม่ในอนาคต แต่เชื่อว่า “กุนซือข้างกาย” อย่าง สุรนันทน์ เวชชาชีวะ ในฐานะเลขาธิการนายกฯก็น่าจับตา
00 อย่างไรก็ดีแม้ว่าจะพยายามแก้เกมอย่างไรก็ตาม นาทีนี้สำหรับสถานการณ์ชายแดนใต้ถือว่า ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง เป็นความล้มเหลวภายใต้การกำกับ แบบชี้นิ้วสั่งการของ ทักษิณ ชินวัตร เป็นคำรบสอง คราวก่อนเมื่อครั้งเป็นรัฐบาลใช้วิธี “การตลาดแบบกำปั้นเหล็ก” โชว์ มีทั้งวิธีอุ้มฆ่า ฆ่าตัดตอนในเรื่องยาเสพติด และปราบผู้ก่อความไม่สงบแบบรุนแรง การจัดการมวลชนแบบเด็ดขาดดังกรณี “ตากใบ-กรือเซะ” ทำให้ไฟลุกโชนมาจนถึงวันนี้ และเมื่อกลับมาอีกครั้งใช้อำนาจ “ผ่านน้องสาว” คิดจะ “พลิกหักมุม” ใช้วิธี “การตลาดแบบเจรจา” ดังจะเห็นได้จากการส่งฝ่ายความมั่นคงที่เป็น “เด็กในบ้าน” ไม่ว่าจะเป็น เลขาฯสมช.พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร และ เลขาฯศอ.บต.พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ลงไปเจรจากับกลุ่ม “บีอาร์เอ็น” คิดว่าการสร้างภาพดังกล่าวได้ผล แต่เมื่อของจริงในพื้นที่มันคนละเรื่อง การแก้ปัญหาประจำวันยังไร้ทิศทางไม่มีเอกภาพ ที่สำคัญยังขาดความ “ความเข้าใจ-เข้าถึง-พัฒนา” มันก็ยิ่งป่วน เละเทะ อย่างที่เห็น ดังนั้นถ้าสรุปว่า ชายแดนใต้ที่ป่วน ลุกเป็นไฟเริ่มต้นและจบลงด้วยความหายนะล้วนมาจาก ทักษิณ ชินวัตร ทั้งสิ้น !!