xs
xsm
sm
md
lg

คนแดนไกลเอือมบริวารห่วย ผงะ!หนอนบ่อนไส้บุกตึกไทยฯ

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวการเมือง

ร.ท.ธวัชชัย กลีบเมฆ ที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ส่งมาเป็นบอดี้การ์ดนายกรัฐมนตรี
ย่างเข้าเดือน เม.ย.อากาศเมืองไทยยิ่งระอุ ดีกรีความร้อนก็พุ่งปรึ๊ดราวกับจะทะลักปรอท ซึ่งเป็นทิศทางเดียวกับที่เกจิกูรูแทบทุกสำนักฟันธงกันไว้ให้จับตา “อุณหภูมิการเมือง” ที่มีแนวโน้มจะถีบตัวสูงจนถึงจุดเดือดในเร็ววันนี้

ยังดีที่หลายๆปัจจัยที่ถูกจับตามองผ่านพ้นไป รัฐบาลยังเอาตัวรอดไปได้ในยกแรก ทั้งร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ที่สภาฯรับหลักการไปแล้ว หรือการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา 3 ประเด็นที่ผ่านไปหยกๆ แต่ก็ต้องจับตามองในชั้นกรรมาธิการว่าจะตบตีถกเถียงกันดุเดือดเลือดพล่านกันขนาดไหน

หรือล่าสุดที่ฝ่ายรัฐบาลถอนหายใจเฮือกใหญ่ก็ปมเขย่าเก้าอี้นายกฯของ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” กับการปล่อยกู้ 30 ล้านบาทของให้บริษัท แอ็ด อินเด็กซ์ จำกัด ของสามี “อนุสรณ์ อมรฉัตร” ซึ่งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยังไม่ติดใจเอาความ

ทำเอา “นายกฯปู” และคณะคลายความกังวลไปเปราะหนึ่ง

แต่ก็ใช่ว่าฝ่ายรัฐบาลจะย่ามใจ เพราะจากประสบการณ์ในอดีตทั้งรัฐบาลไทยรักไทย - พลังประชาชนก็มีบทเรียนเคยตกหล่มที่ถูกขุดเอาไว้ เรื่องนี้คนที่รู้ดีที่สุดก็ “ทักษิณ ชินวัตร” ผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังที่เคยพลาดพลั้งเสียทีมาแล้ว

วันนี้ “นายกฯแดนไกล” รู้อยู่เต็มอกว่ายังหมากกลอีกหลายชั้น จับสัญญาณได้ว่ามีการระเบิดไว้หลายหลุม การจัดทัพจัดทีมแบ็คอัพจึงเป็นเรื่องที่ “ทักษิณ” ให้ความสำคัญมาก

เริ่มด้วยการเดิมพันสูงสั่งให้ “เด็กในบ้าน” อย่าง “เกษม นิมมลรัตน์” ลาออกจาก ส.ส.เชียงใหม่ เพื่อเปิดทางให้ “เจ๊แดง - เยาวภา วงศ์สวัสดิ์” น้องสาวอีกคน กลับเข้ามาอยู่ในเกมอย่างเป็นทางการ เผื่อเหลือเผื่อขาดหากเกิด “อุบัติเหตุ” แบบไม่คาดฝัน

ทั้งที่ใจจริง “เยาวภา” ยังสนุกสนานกับบทบาท “เจ๊ ด.” ที่มุดอยู่ใต้ดินที่สั่งการหรือขยับหยิบจับอะไรได้ “คล่องคอ” มากกว่า การขึ้นมาบนดินหนนี้ก็แสดงให้เห็นว่า “ตระกูลชินฯ” ออกอาการหวาดระแวงหนัก แถมต้องการให้ “เยาวภา” เข้ามาคุมการทำงานในสภาอย่างจริงจัง เพราะที่ผ่านมาสภาล่มเป็นว่าเล่น เกมในห้องประชุมก็ไม่ทันฝ่ายค้าน ดีแค่มีเสียงมากกว่าจึงถูลู่ถูกังไปได้ตลอด

ไม่เท่านั้น “คนแดนไกล” ยังคิดจะ “สังคายนา” ทีมกฎหมายของพรรคโดยด่วน เพราะที่ผ่านมาไม่พอใจในผลงาน ถึงขั้นตวาดเสียงดังว่า “ห่วยแตก...” เรื่องของเรื่องก็มาจากการว่าความไม่เรื่องไหนก็ “ผูกปีแพ้” ให้กับฝ่ายพรรคประชาธิปัตย์ แถมทำเสียวในชั้นองค์กรอิสระหรือศาลหลายต่อหลายครั้ง เรื่องของเรื่องก็คงมาจากพื้นฐานของทีมกฎหมายที่มีอยู่ในมือ หลายคน “หัวธุรกิจ” คอยจ้องไถเงินมากกว่าจะตั้งใจทำงาน

เพียงแต่ติดปัญหาที่ว่า จะถีบส่งให้พ้นทางไปทั้งหมดก็ไม่ได้ เพราะคนพวกนี้กุมความลับของ “ตระกูลชินฯ” ไว้อื้อ หากไม่เลี้ยงไว้ อาจถูกย้อนกลับมาแว้งกัดได้ทุกเมื่อ ระหว่างนี้ก็ทำได้แค่เพียงดึง “มือดี” เข้ามาเสริมทัพเท่านั้น

ล่าสุดยังมีเรื่องให้ปวดหัวหนัก เมื่อมีรายงานถึง “นายใหญ่” ว่าพบ “หนอนบ่อนไส้” ในกลุ่มคนใกล้ชิด “ยิ่งลักษณ์” คอยหิ้วข่าวไปให้ฝ่ายตรงข้ามโดยตลอด ทำให้ไม่ว่ารัฐบาลจะขยับในเรื่องอะไรก็มักถูกดักคอจับทางได้เสมอ

ที่สำคัญไม่ใช่เพียงรายเดียว แต่มี “หนอนบ่อนไส้” ถึง 2 รายด้วยกัน

รายแรกที่ตอนนี้ถูกหมายหัวอย่างหนัก จากการสืบสาวราวเรื่องจนมีพยานหลักฐานชี้ชัดว่าเป็น “นายทหารระดับนายพล” ที่ทำหน้าที่อยู่ข้างกาย “ยิ่งลักษณ์” ที่ไม่น่าเชื่อไปกว่านั้นคือ นายพลคนที่ว่ายังเป็น “น้องชายรัฐมนตรี” คนหนึ่งในรัฐบาลอีกด้วย

ขณะที่อีกคนก็เป็น “นายทหารสังกัด ทอ.” ที่ผู้ใหญ่ในกองทัพส่งมาประกบอยู่ในทีมบอร์ดี้การ์ดของ “ยิ่งลักษณ์” ซึ่งที่ผ่านมามักอ้างกับทีมติดตามนายกฯว่า นายส่งมาดูแลภารกิจนายกฯ แต่เมื่อเช็คไปเช็คมากลับกลายเป็นลูกน้องคนสนิทของ “อดีตบิ๊ก คมช.” ไปเสียอย่างนั้น

เจอเรื่องแบบนี้เข้าไป “ทักษิณ” ถึงกลับควันออกหู

และเป็นที่มาของการส่งการ์ดคู่ใจ “ร.ท.ธวัชชัย กลีบเมฆ” อดีตนายทหารเรือประจำศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.) ในสมัยที่ “ทักษิณ” เป็นนายกฯบินด่วนกลับเมืองไทยมาประจำการในทีม รปภ.น้องสาวอย่างไม่มีกำหนด

โดยมี “ภารกิจลับ” ในการมาจับตาความเคลื่อนไหวของคนรอบกาย “ยิ่งลักษณ์” ทั้งหมด รวมถึงรายงานความเคลื่อนไหวของนายกฯรายงานตรงไปยัง “คนแดนไกล” อีกด้วย

ไม่เพียงเท่านั้นยังมี “คำสั่งพิเศษ” กำชับให้ทุกคนรอบกายนายกฯ ทั้งทีมกุนซือตึกไทยคู่ฟ้า ทีม รปภ.ห้ามพูดคุยกับ “นักข่าว” เกรงว่าจะมีข่าวรั่วไหลออกไปกันใหญ่

หลายเรื่องหลายราวที่หลุดไปเข้าหู ทำให้ “ทักษิณ” เกิดอาการ “หวาดระแวง” หนัก จนต้องสั่งกระชับอำนาจตั้งแต่ระดับบน จนถึงทีม รปภ.แบบนี้

กำลังโหลดความคิดเห็น