“เสื้อแดง” ฟันธง “ยิ่งลักษณ์” โดน ป.ป.ช.สอยพ้นเก้าอี้นายกฯ แน่นอน ชี้เห็นได้จากคดีต่างๆ ที่ตัดสิน “เพื่อไทย” ผิดหมด เชื่อเป็นแผนบันได 4 ขั้น หวังสร้างความวุ่นวายล่อให้แดงออกมาปะทะเสื้อเหลือง จนกลายเป็นสงครามกลางเมือง และให้ทหารออกมาควบคุมทำปฏิวัติรัฐประหาร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (25 มี.ค.) นายธนาวุฒิ วิชัยดิษฐ โฆษกแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จะชี้มูลความผิดเกี่ยวกับการแจ้งบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กรณีการปล่อยเงินกู้ 30 ล้านบาท ให้บริษัท แอ็ด อินเด็กซ์ จำกัด ของนายอนุสรณ์ อมรฉัตร สามีว่า ส่วนตัวมองว่านายกฯ ไม่น่าจะรอด เพราะ ป.ป.ช. ชุดนี้มีความเป็น 2 มาตราฐาน ดูได้จากที่มาจะเห็นได้ชัดเจนเลยว่าได้รับการแต่งตั้งจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) คดีความต่างๆ ที่ตัดสินมาตั้งแต่พรรคพลังประชาชน จนมาพรรคเพื่อไทย ล้วนตัดสินให้ผิดตลอด และคดีความที่ตัดสินจะรวดเร็วกว่าคดีความอื่นๆ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการกระทำในช่วงที่ผ่านมาของบรรดาองค์กรอิสระที่เป็นทายาทมาจากการรัฐประหารปี 49 ที่เป็นปฏิปักษ์ต่อประชาธิปไตยจะต้องมีประชาชนไม่พอใจออกมาขับไล่อย่างแน่นอน
“สำหรับความเคลื่อนไหวของกลุ่ม นปช. เกี่ยวกับคดีนี้ยังไม่มีการหารืออย่างเป็นทางการ แต่มีการพูดคุยกันในส่วนของแกนนำบางคนว่า นี่ก็เป็นหนึ่งในแผนของบันได 4 ขั้น เพราะนายกฯ ไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรค ทำให้ฝ่ายตรงข้ามต้องพุ่งเป้าเล่นงานนายกฯ โดยตรง และหาก ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดว่านายกฯ มีความผิดในการปล่อยเงินกู้ 30 ล้าน และตัดสิทธิทางการเมือง ทำให้ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ทั้งตัวนายกฯ และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ช่วงรอยต่อก่อนที่จะมีรัฐบาลใหม่นี้อาจจะเกิดความวุ่นวายขึ้นอย่างมากต่อประเทศอย่างแน่นอน” นายธนาวุฒิกล่าว
นายธนาวุฒิ กล่าวอีกว่า เดือนเมษายนจะร้อนแค่ไหนก็มาจากการตัดสินคดีของ ป.ป.ช.ที่ยังไม่มีความเป็นกลางเท่าที่ควร และจะเป็นตัวการที่จุดชนวนความวุ่นวายขึ้นอีกครั้ง ในส่วนคดีความก็ต้องว่ากันตามข้อกฏหมาย แต่เท่าที่ประชาชนส่วนใหญ่เห็นพ้องกันคือคดีนี้นายกฯ ไม่ผิด แต่หากนายกฯ ถูกตัดสิทธิต้องมีมวลชนคนเสื้อแดงไม่ยอมอย่างแน่นอน ต้องออกมาประท้วงเรียกร้องความเป็นธรรมให้แก่นายกฯ แต่ทางแกนนำ นปช.จะขอดูท่าทีก่อน เพราะอาจจะเป็นการยั่วยุจากฝ่ายตรงข้าม เมื่อคนเสื้อแดงออกมาชุมนุม ก็จะส่งกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) หรือคนเสื้อเหลืองออกมาชุมนุมด้วย เป็นเหตุให้เกิดความวุ่นวายจนลุกลามกลายเป็นสงครามกลางเมือง
นายธนาวุฒิ กล่าวต่อว่า บวกกับสถานภาพของรัฐบาลยังไม่มั่นคง จนทำให้ทหารออกมาควบคุมความวุ่นวาย และทำการยึดอำนาจรัฐประหารรัฐบาลที่มาจากประชาชน ตามแผนบันได 4 ขั้นที่ฝ่ายตรงข้ามวางไว้ เพื่อให้ดึงอำนาจของประชาชนกลับมาเป็นของตัวเองอีกครั้ง และคราวนี้ประชาชนจะไม่ยอมให้ทหารทำตามใจอีกต่อไป จะต้องมีการลุกฮือขึ้นเพื่อทวงคือประชาธิปไตยจนทำให้อาจเกิดการนองเลือดขึ้นอีกครั้ง ซึ่งคงไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น