xs
xsm
sm
md
lg

ส.ส.พท.ลุยถล่ม “สมชาย” ยื่นตีความแก้ ม.68 ล้มการปกครอง ส.ว.จันท์ชี้เอาแต่ร้อง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เด็ก พท.ดาหน้าถล่ม “ส.ว.สมชาย” ยื่นศาล รธน.แก้ ม.68 ล้มล้างการปกครอง “นิยม” ชี้ศาลอย่ายุ่ง ยันแก้อำนาจอัยการให้ชัด ฉุนยุลุยวาระ 3 ส.ว.เมืองจันท์หนุนแก้การเมืองเข้มแข็ง เชื่อเศรษฐกิจดีตาม ส.ว.เอาแต่เลือกตั้ง ชี้แก้ ม.68 เหตุศาล รธน.เอียง ติง ส.ว.รับเงินศาล รธน. “จตุพร” งงข้อหาเวอร์ ข้องใจศาล รธน.ตัดสินเร็วไป “วิทยา” โวแก้ รธน.งดงาม พวกยื่นศาลขวางไร้ความคิด ปลุก ส.ส.ไม่เชื่อตัวเองอย่าเป็น



วันนี้ (3 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวันที่ 3 สมาชิกยังคงทยอยอภิปรายอย่างกว้างขวาง ทั้งฝ่ายที่สนับสนุน และคัดค้าน ขณะที่มี ส.ส.จากพรรคเพื่อไทยหลายคนได้อภิปรายตำหนิการกระทำของนายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา และคณะ ที่ยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการแก้ไขมาตรา 68 ว่าเข้าข่ายล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข รวมถึงศาลรัฐธรรมนูญไม่สมควรเข้ามาก้าวก่ายการทำหน้าที่พิจารณากฏหมายของฝ่ายนิติบัญญัติ

นายนิยม เวชกามา ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญว่าพวกเราจ้องจะเปลี่ยนแปลงการปกครอง มีโทษถึงขั้นให้ยุบพรรคนี้เป็นข้อกล่าวหาที่น่ากลัวมาก ตนรู้สึกเคว้งคว้าง เพราะไม่รู้จะไปอยู่พรรคไหนถ้าพรรคเพื่อไทยถูกยุบ แต่ยืนยันว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่มีสิทธิ์จะมาสั่งรัฐสภาว่าให้ยกเลิกการพิจารณากฎหมาย แต่มีหน้าที่ทำตามกฎหมายที่รัฐสภาออกกฎหมาย ต้องคิดว่ามาตรา 68 ไม่ได้แก้ไขเพื่อใคร เพราะไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า เมื่อแก้เสร็จแล้ว หลายพรรคการเมืองก็ดำเนินการต่อไป ความจริงเป็นแค่การยืนยันให้เห็นว่าการยื่นแก้ไขครั้งนี้เพื่อขอให้กฎหมายรัฐธรรมนูญชัดเจนเรื่องอำนาจ เพราะเขียนไว้ชัดเจนว่าให้อัยการเป็นคนรับเรื่อง “และ” พิจารณา แต่วันนี้ศาลรัฐธรรมนูญมาเปลี่ยนเป็น “หรือ” มันผิดหลักการ

“ผมถึงบอกว่าน่าหวาดเสียวและควรเอาร่างที่ค้างวาระ 3 ในสภาคราวก่อนมาลงมติให้รู้ดำรู้แดงไปเลยพวกผมเลือดเข้าตาแล้ว ศาลไม่มีอำนาจออกกฎหมาย มีแต่ทำตามกฎหมาย แต่วันนี้มันไม่ใช่ เพราะที่ว่าคือมาตรฐานของศาลรัฐธรรมนูญ รับแล้วประชุมทันทีไม่มีใครทำในโลกนี้ ทำไมมันรวดเร็วปานนั้น ก่อนที่พวกเราจะลงมติ เกิดสั่งมาว่าทำไม่ได้ ต้องยุบพรรคอะไรมันจะเกิดขึ้น” นายนิยมกล่าว

นายนิยมยังกล่าวว่า การแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้ประชาชนได้ประโยชน์คือ สามารถเลือก ส.ว.ได้เอง ต่อไปจะได้รู้ว่าประชาชนต้องการอะไร ถ้ามั่นใจว่าประชาชนรัก กลัวอะไรนักหนาในสนามเลือกตั้ง จะเป็นจะตายทำไม

นายมงคล ศรีคำแหง ส.ว.จันทบุรี อภิปรายเสริมว่า ประชาชนจะได้ประโยชน์ ไม่ว่าจะเกี่ยวกับการยุบพรรค ตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรค ที่ผ่านมาเป็นการบั่นทอนความมั่นคงความเข้มแข็งของพรรคการเมือง ถ้าไม่มีความเข็มแข็ง รัฐบาลไม่มีเสถียรภาพ หุ้นก็ตก แต่ถ้าการเมืองมั่นคง เศรษฐกิจก็ดี นักลงทุนเข้ามามากมาย คนดีก็กล้าเข้ามาเล่นการเมือง ส่วนม.190 ก็ควรทำให้เกิดความชัดเจนเรื่องที่ควรไม่ควรเข้าสภา เพื่อความรวดเร็ว ประชาชนได้ประโยชน์ ประเทศชาติเดินไปได้ และเห็นด้วยที่ให้เลือกตั้ง ส.ว. แม้บางคนที่มาจากการสรรหาจะมีความรู้ความสามารถ แต่จำเป็นต้องแก้ไข เพราะ 60 กว่าคนมาจากบุคคลเพียง 7 คน บางคนเข้ามาไม่ได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ นอกจากจะมีหน้าที่กลั่นกรองกฏหมายแล้ว ยังต้องให้ความเห็นชอบองค์กรอิสระ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่เลือกสรร ส.ว. ถือว่าไม่เป็นประชาธิปไตย และควรมีหน้าที่ให้คำปรึกษาชี้แนะรัฐบาล แต่กลับทำตัวเป็นฝ่ายค้านในสภา

ส่วนมาตรา 68 ไม่ได้ตัดสิทธิประชาชน หากไม่ผ่านอัยการกลั่นกรองแล้ว ทุกคนที่เห็นต่างก็พากันไปยื่นเรื่อง จะสร้างความวุ่นวาย ไม่มีกฎหมายลงโทษหากไปยื่นร้องเท็จ ศาลรัฐธรรมนูญอาจจะมีการเลือกที่รักมักที่ชัง เลือกพิจารณารับเรื่องของใครคนใดคนหนึ่งก็ได้ การให้เป็นหน้าที่อัยการถือเป็นวิธีการที่ถูกต้องแล้ว

“เช่นกรณี ส.ว.ที่ชอบทำตัวเป็นฝ่ายค้าน เรื่องไหนที่เห็นต่างกับรัฐบาลมักจะส่งให้ตีความ ผมยังสงสัยว่ากินเงินเดือนศาลรัฐธรรมนูญด้วยหรือไม่ วันๆ ไม่ทำอะไรเอาแต่ร้องศาลตีความ ถ้าไม่แก้บ้านเมืองเดินต่อไปไม่ได้ อย่างเรื่องกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ยังไม่ทันได้กู้ก็ยื่นตีความแล้ว” นายมงคลกล่าว

นายจตุพร เจริญเชื้อ ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อระงับเรื่องนี้ และยุบพรรคการเมืองที่เกี่ยวข้อง โดยกล่าวหาว่าเป็นการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย นั้นเป็นข้อกล่าวหารุนแรงมาก ความจริงการเสนอแก้ไข ม.68 ไม่มีอะไรเลยแค่ขอความชัดเจนเรื่องการตีความว่า กระบวนการยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ น่าแปลกใจยื่นเรื่องตอนเช้า ตอนบ่ายเลขาธิการศาลรัฐธรรมนูญ ออกมาให้สัมภาษณ์รวดเร็วว่า ตรวจสอบคำร้องแล้วเตรียมเสนอเข้าที่ประชุมวันนี้ตอนบ่ายสาม แปลกใจมากที่ใช้กระบวนการใช้เวลารวดเร็วทันใจ ศาลรัฐธรรมนูญไม่ควรมาก้าวล่วงกระบวนการพิจารณากฏหมาย ยืนยันม.68 ไม่มีอะไรบ่งชี้ล้มล้างการปกครอง เชื่อว่าคนทั้งประเทศไม่สบายใจเรื่องนี้ และจะโต้แย้งกับการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ

ด้านนายวิทยา บูรณสิริ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญทั้งมาตรา 68 และ 237 เป็นประทำอันงดงาม โดยใช้อำนาจที่สมาชิกรัฐสภามีอยู่ตามรัฐธรรมนูญเป็นไปตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญมาตรา 291 แต่ฟังการอภิปรายบางเรื่องยังมีผู้ที่ไม่เข้าใจที่บอกว่าทำไมไม่ไปแก้ปัญหาเรื่องอื่นก่อนเช่นความแห้งแล้ง เรื่องยางพารา ปัญหาราคาข้าวของแพงก่อน ซึ่งตนมองว่าปัญหาเหล่านั้นเป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหาร นายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรี แต่ในสภาฯทำหน้าที่เป็นฝ่ายนิติบัญญัติ คือตรากฎหมาย จึงต้องให้สมาชิกรัฐสภาถามตัวเองก่อนว่าตัวเองมีหน้าที่ทำอะไร

นายวิทยายังกล่าวว่า รัฐธรรมนูญมาตรา 68 ความชัดเจนจะต้องมี เพื่อที่จะทำให้กระบวนการพิจารณาไม่มีปัญหาในการตีความและการคานอำนาจ รัฐสภาแห่งนี้ได้ผ่านกฎหมายเพื่อให้องค์กรอัยการมีความเป็นอิสระ ซึ่งรัฐบาลไม่สามารถครอบงำองค์กรอัยการได้ แต่การยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญต้องผ่านอัยการก่อนเพื่อกลั่นกรองกฎหมาย และการที่อัยการไปเป็นที่ปรึกษากฎหมายตามบริษัทเอกชนนั้นเพื่อเป็นผู้แนะนำชี้แนะในเรื่องกฎหมาย ทั้งนี้ตนมองว่าผู้ที่นำเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญไปยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญนั้นไม่มีความคิด ทำไมไม่ใช้กระบวนการแปรญัตติหากมีความเห็นต่าง และหากฝ่ายนิติบัญญัติไม่เชื่อมั่นในตัวเองก็ไม่ควรมาสมัครเป็น ส.ส.และ ส.ว. ส่วนตัวคิดว่าตนมีวิจารณญาณดีเพราะเชื่อมันในฝ่ายนิติบัญญัติ

นายวิทยายังกล่าวถึงมาตรา 190 เกี่ยวกับสัญญากับต่างประเทศว่า สิ่งที่ไทยไม่สามารถทัดเทียมต่างประเทศได้เพราะมาตรา 190 เพราะเกิดความไม่เชื่อมั่นในการบริหารราชการ ถ้าฝ่ายค้านบอกว่าถ้ามาตรา 190 จะเป็นการตัดสิทธิการตรวจสอบก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่ประเทศไทยจะไปเจรจากับใครคณะรัฐมนตรีต้องมีอำนาจในส่วนหนึ่งด้วย ส่วนกระบวนการตรวจสอบก็สามารถทำได้ ขณะที่เรื่องที่มาของวุฒิสภาดูเสมือนว่าสมาชิกมีความหวาดกลัวว่าพรรคการเมืองจะครอบงำสมาชิกวุฒิสภา แต่หลายครั้งวุฒิสภาก็ไม่ได้ทำอะไรตามที่นักการเมืองต้องการ ดังนั้นจึงอย่ามีอคติเพราะเป็นสิทธิของประชาชนที่จะเลือกให้ใครมาเป็นสมาชิกวุฒิสภา ทั้งนี้ความเห็นต่างหรือเห็นคล้อยเห็นตามนั้นเห็นได้ แต่ต้องรู้ว่าเรามีหน้าที่อะไร








กำลังโหลดความคิดเห็น