xs
xsm
sm
md
lg

ทอ.สแตนด์บาย ซี-130 แอร์บัส รอลำเลียงคนไทยจากเกาหลีหากเกิดสงคราม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง (แฟ้มภาพ)
ผบ.ทอ.สั่งกองทัพอากาศสแตนด์บายเครื่องบินลำเลียงซี-130 พร้อมแอร์บัส 310 รอลำเลียงคนไทยจากเกาหลีหากเกิดการสู้รบ คาดการณ์ไม่ได้จะเกิดสงครามหรือไม่ ขณะเดียวกัน เปิดศูนย์เรียนรู้พลังงานทดแทน วางแผน 10 ปี เครื่องบินใช้พลังงานทดแทนได้

พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่เกาหลีเหนือประกาศสงครามกับเกาหลีใต้ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่มีผลกระทบต่อเสาหลักด้านความมั่นคง และอาจกระทบต่อการเมือง เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศอาเซียน แต่อย่าเพิ่งตื่นตระหนกมาก ซึ่งหน่วยงานด้านความมั่นคงและฝ่ายบริหารมอบหมายให้หน่วยที่รับผิดชอบดูแลอย่างใกล้ชิด

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของกองทัพอากาศได้เตรียมความพร้อมด้านอากาศยานทั้งเครื่องบินลำเลียงแบบซี-130 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินแอร์บัส 310 เพื่อลำเลียงคนไทยที่อยู่ในเกาหลีใต้กลับประเทศหากเกิดเหตุการณ์ขึ้น โดยสามารถดำเนินการได้ทันทีภายใน 48 ชั่วโมง หากมีการสั่งการ แต่ทั้งหมดต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์

ส่วนความเป็นไปได้ในการเกิดสงครามนั้นไม่สามารถคาดการณ์ได้ เพราะมีหลายปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น ประวัติศาสตร์ ภาวะผู้นำ ซึ่งต้องนำบทเรียนจากสงครามโลกครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 มาพิจารณาว่า ปัจจัยตัวใดที่จะมากระตุ้นให้เกิดสงครามได้ ดังนั้นหากไม่ต้องการให้เกิดสงครามก็ต้องป้องกันไม่ให้เกิดสิ่งยั่วยุเหล่านั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนหน้านี้ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง เป็นประธานเปิดศูนย์การเรียนรู้การใช้พลังงานทดแทน กองทัพอากาศ ซึ่งเป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา เพื่อเป็นแหล่งวิจัยและเรียนรู้ชุมชนเป็นต้นแบบให้ผู้สนใจได้ศึกษาและร่วมกันอนุรักษ์พลังงาน พร้อมส่งเสริมการวิจัยพัฒนาและการใช้พลังงานทดแทนเป็นพลังงานสำรองในหน่วยต่างๆ ของกองทัพอากาศ

พล.อ.อ.ประจินกล่าวว่า กองทัพอากาศได้ริเริ่มทำศูนย์การเรียนรู้พลังงานทดแทนมาตั้งแต่ปี 2554 และได้มีการวิจัยพัฒนาทั้ง 4 ด้าน คือ พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังงานชีวมวล และพลังงานไบโอดีเซล โดยมีบ้านตัวอย่างที่ติดแผงโซล่าเซลล์ และกังหันลมผลิตกระแสไฟฟ้าแสดงเป็นต้นแบบการใช้พลังงานทดแทน เพื่อให้กำลังพลของกองทัพรวมทั้งประชาชนทั่วไปได้ตระหนักถึงความสำคัญของการใช้พลังงานไฟฟ้า และให้เกิดการใช้พลังงานทดแทนเพื่อเป็นการประหยัดพลังงานและลดโลกร้อน อันจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภาพรวม

ทั้งนี้อยากให้ทุกคนเห็นความสำคัญของการเตรียมการในการมีพลังงานทดแทนรองรับกรณีที่พลังงานกระแสหลักมีไม่เพียงพอ รวมถึงการช่วยลดในเรื่องโลกร้อนได้ด้วย และเมื่อเราสร้างพลังงานทดแทนแล้วก็จะเกิดเสถียรภาพของพลังงานทั้งด้านความมั่นคง และด้านกิจการทั่วไป ปัจจุบันพลังงานส่วนใหญ่นำเข้าจากต่างประเทศ ถ้าได้เตรียมการรองรับตอนนี้ก็ไม่สายที่จะมีพลังงานทดแทน

“กองทัพอากาศจะดำเนินการคู่ขนานกับหน่วยงานต่างจังหวัดทั้งกองบิน 11 แห่ง และสถานีคมนาคมที่ได้ทำพลังงานแสงอาทิตย์ ที่ผ่านมากองบิน 46 ได้รับรางวัลเป็นกองบินตัวอย่างที่มีการริเริ่มการทำพลังงานทดแทนด้านต่างๆ นอกจากนี้ยังช่วยให้ทางจังหวัดได้นำวัตถุดิบที่เป็นของเสีย เช่น น้ำมันทอดอาหารมาทำให้เกิดพลังงาน ซึ่งขณะนี้เราได้มีการผลิตเชื้อเพลิงสังเคราะห์(ไบโอเจ็ต)ผสมกับน้ำมัน เพื่อใช้กับอากาศยานของกองทัพ โดยที่ผ่านมาในปี 52 เราได้ทดลองใช้กับเครื่องยนต์ที่อยู่บนภาคพื้นแล้วพบว่าสามารถติดเครื่องยนต์ได้ดี ซึ่งภายใน 10 ปีเราจะมีเชื้อเพลิงสังเคราะห์ใช้กับเครื่องบินขนาดเล็ก และเครื่องบินธุรการได้ เช่น เครื่องบินนอแมด เครื่องบินไดมอนด์”

พล.อ.อ.ประจินกล่าวว่า กรณีที่ทางพม่าจะมีการปิดซ่อมท่อก๊าซในวันที่ 5 เม.ย.นั้น ทางกองทัพอากาศได้ออกเป็นมาตรการ 2 ระยะ คือ ระยะสั้นและระยะยาว โดยระยะยาวเราต้องมีการควบคุมการใช้ไฟฟ้า และพลังงานต่างๆอย่างถูกต้อง ส่วนระยะสั้น คือ การควบคุมการปิดไฟฟ้า และพยายามศึกษาดูงานนอกพื้นที่เพื่อลดการใช้พลังงาน


กำลังโหลดความคิดเห็น