ศูนย์ข่าวศรีราชา - กทท.เปิด 2 โครงการใหญ่รับการขยายตัวของท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี ทั้งโครงการกังหันลมผลิตกระแสไฟฟ้า ก้าวสู่การเป็นท่าเรือสีเขียว และศูนย์กลางการขนส่งสินค้าทางทะเล คู่การเปิดให้บริการประตูตรวจสอบสินค้าที่ 4 รองรับปริมาณรถขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ที่เพิ่มขึ้น จนกระทบต่อการจราจรในพื้นที่
เมื่อเวลา 17.00 น.วันนี้ (25 มี.ค.) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการ กระทรวงคมนาคม ได้เดินทางมาเป็นประธานในพิธีเปิด 2 โครงการใหญ่ ซึ่งการท่าเรือแห่งประเทศไทย หรือ กทท. ได้ทุ่มงบประมาณจำนวนมหาศาลจัดทำขึ้นเพื่อรองรับการขยายตัวของท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี ประกอบด้วย โครงการเปิดประตูตรวจสอบสินค้าที่ 4 และโครงการกังหันลมผลิตกระแสไฟฟ้า จำนวน 84 ชุด ซึ่งจัดขึ้นที่บริเวณลานกังหันลม และบริเวณหอบังคับการพัฒนาแหลมฉบัง โดยมีคณะผู้บริหารการท่าเรือแห่งประเทศไทย ร.อ.อิทธิชัย สุพรรณกูล รองผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย และ ร.อ.สุทธินันท์ หัตถวงษ์ ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง และตัวแทนจากหน่วยงานต่างๆ ร่วมในพิธี
โดย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า การเปิดใช้งานประตูตรวจสอบสินค้าที่ 4 ของท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี ก็เพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรที่ติดขัดอย่างหนักในพื้นที่ เนื่องจากถนนทางเข้า-ออก และประตูตรวจสอบสินค้าของท่าเรือแหลมฉบังมีไม่เพียงพอต่อการรองรับปริมาณรถขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ที่เข้า-ออก ในแต่ละวันไม่น้อยกว่า 8,300 คัน และคาดว่าจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากอัตรการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
ซึ่งโครงการนี้ใช้งบประมาณรวมทั้งสิ้น 56 ล้านบาท และได้เริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่ปลายปี 2555 โดยคาดว่าเมื่อเปิดใช้อย่างเป็นทางการแล้วจะช่วยระบายการจราจรในปัจจุบัน และรองรับการเพิ่มขึ้นของปริมาณรถขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ได้อีกถึง 3 ปี
ส่วนโครงการกังหันลมผลิตกระแสไฟฟ้า ซึ่งใช้งบลงทุนมากกว่า 140 ล้านบาท ถือเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจที่การท่าเรือแห่งประเทศไทย จัดทำขึ้นเพื่อเป็นพลังงานทางเลือกหมุนเวียนที่มีศักยภาพ และเหมาะสม สอดคล้องกับนโยบายของการท่าเรือฯ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม หรือ Green Port ด้วยการติดตั้งกังหันลมผลิตกระแสไฟฟ้า ขนาด 10 กิโลวัตต์ จำนวน 84 ชุด ที่บริเวณโดยรอบท่าเรือแหลมฉบัง มาตั้งแต่ปลายปี 2555 เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีในการนำร่องในการใช้พลังงานทางเลือก พร้อมรณรงค์ไปยังภาคส่วนอื่นๆ ในสังคม
ทั้งนี้ ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2553 ทลฉ. มีการใช้พลังงานไฟฟ้าในระดับที่สูงถึง 65,183 ล้านหน่วยไฟฟ้า คิดเป็นเงินกว่า 195 ล้านบาท และมีอัตราการเติบโตในแต่ละปีถึงร้อยละ 9.21 ซึ่งการติดตั้งกังหันลมดังกล่าวจะช่วยเสริมระบบพลังงานไฟฟ้าที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน เช่น ไฟส่องสว่างบริเวณถนน และพื้นที่สาธารณะ ประตูตรวจสอบสินค้า คลังสินค้า และอาคารสำนักงานของ ทลฉ. และคาดว่าโครงการนี้จะสามารถลดการใช้พลังงานไฟฟ้าได้เฉลี่ยร้อยละ 20