“รองฯ เหลิม” อัด ปชป.อ่านกฎหมายไม่เป็น ป้อง “ปู” ไม่ได้ทำลำพังมีหน่วยงานรู้เห็น ฟุ้งไม่มี กม.กู้ชุดไหนโปร่งใสกว่านี้อีกแล้ว เผยแนวคิดล้างหนี้หาเงินไปตามเงิน อ้างโครงการลงเชียงใหม่เพราะกระตุ้นท่องเที่ยว สะกิดแผลเก่ามิยาซาวา- ปรส. บลัฟกลับ ปชป. โวทั่วโลกจับตามองสภาไทยกับการตัดสินใจครั่งยิ่งใหญ่ในฐานะนักการเมืองมาจากการเลือกตั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ (28 มี.ค.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ลุกขึ้นชี้แจงในสภาฯ ว่า สภาแห่งนี้ไม่มีการท้าทายว่าจะผิดหรือถูก นายกรณ์จะรับหรือไม่รับก็เป็นสิทธิ์ แต่ที่อภิปรายมาทั้งหมดผิดหมด อ่านไม่ละเอียด อดีตที่ผ่านมาไม่มี รมว.คลังคนไหนจัดทำงบแบบอวดรู้สู่ฉลาด เพราะคนที่ทำคือสำนักงบประมาณ ยืนยันว่ารัฐบาล นี้ไม่ได้ทำโดยลำพังนายกฯ เหตุที่ไม่ใช้เงินงบประมาณเพราะมีไม่เพียงพอ เนื่องจากงบปี 56 ที่ตั้งไว้ 2.4 ล้านล้านบาท เป็นรายจ่าย แค่ 18.7% ประเทศไม่พัฒนาเพราะงบลงทุนน้อย รัฐบาลจึงต้องหากู้เงิน โดยสำนักหนี้ฯ บอกใน ครม.ว่าไม่เกินวงเงินกู้
“เราไม่สร้างหนี้ ไม่ได้ล้างหนี้ที่ได้จากการทุจริต แต่นี่เอามาลงทุนมันคนละประเด็นกัน ครั้งนี้จะเป็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างครั้งยิ่งใหญ่ บางพรรคกู้เงินแบบตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ ต้องเปิดใจให้กว้าง มุมมองเศรษฐศาสตร์ไม่เหมือนกัน เรามองแบบก้าวกระโดด จะทำอย่างไรให้มีรายได้เข้าประเทศ ไม่ใช่เข้ากระเป๋า จึงกำหนดโครงการขึ้นมา เงินกู้ฉบับนี้ถ้าสำเร็จก็อยู่ที่อายุรัฐบาล ใครเป็นรัฐบาลก็ทำงานต่อไป”
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า หากฟังพรรคประชาธิปัตย์อภิปรายจะผิดหมดทุกมาตรา สาระร่างกฏหมายทั้ง 19 มาตรา หากไม่ใช้เงินก็เขียนไว้ชัดว่าต้องคืนคลังเท่านั้น และจะเอาไปทำอะไรมีในบัญชีแนบท้าย 3 ยุทธศาสตร์ และมีอีก 200 กว่าหน้า นี่แค่รับหลักการ วาระ 1 ในชั้นกรรมาธิการในวาระสองใครก็เข้าไปได้ พรรคประชาธิปัตย์มักจะมองว่าการดำเนินากรแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของเพื่อไทยเป็นประชานิยม แต่เรามองเป็นเรื่องเศรษฐกิจ และการลงทุน ที่เราต้องดำเนินการให้ได้เพราะ จะมีการสร้างงาน มีรายได้ มีเงินจับจ่ายใช้สอย รัฐเก็บภาษีได้ โครงการรถยนต์คันแรกเราต้องการยกระดับประชาชนในระดับรากหญ้าให้ลืมตาอ้าปาก ประกอบกับน้ำท่วม นายกฯ ยิ่งลักษณ์บอกโรงงานผลิตรถยนต์จะหนีไปหมด เลยเอานโยบายมาทำใหม่เพื่อช่วยเหลือ วันนี้โรงงานผลิตรถยนต์ไม่ย้ายเลย ถือว่าเป็นการเพิ่มชนชั้นกลาง
“เรามีความพร้อมจะเป็นผู้นำอาเซียนไม่ใช่แค่เข้าร่วมเออีซี ด้วยโครงการ 2 ล้านล้านบาท ให้จีนเข้ามาช่วย ใครใช้หนี้ไอเอ็มเอฟ ผมไม่รู้ แต่ไม่ได้เอาเงินเข้ากระเป๋า แต่โครงการที่สร้างสั่นสะเทือนคือมิยาซาวา บีไอบีเอฟ สร้างความหายนะ เป็นหนี้ ปรส.8 แสนล้าน เรามีนโยบายชัดเจนว่า แนวคิดการล้างหนี้คือการหาเงินไปตามเงิน กู้เพื่อขยายการลงทุนเพื่อเศรษฐกิจโต หนี้จะหายไปเอง กล้าพูดได้เต็มปากว่าเป็นกฎหมายกู้เงินฉบับแรกที่กล้าระบุการใช้ละเอียด โปร่งใส ไม่มีชุดไหนโปร่งกว่านี้อีกแล้ว”
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์วิจารณ์กฎหมายใช้อารมณ์ หลักการให้คลังมีอำนาจกู้เงินมาสร้างโครงการพื้นฐานเฉพาะที่ระบุใน พ.ร.บ.เท่านั้น และ ต้องดูเหตุผลของร่างด้วยคือเป็นไปตามนโยบายรัฐาลที่แถลงในสภา เขียนไว้ชัดเจนไม่มีการเอาเงินไปทำอย่างอื่น เช่น ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินภายใน 3 ธ.ค.เพื่อนำไปใช้ตามบัญชีแนบท้ายเท่านั้น เงินที่ได้จากการกู้รัฐบาลจะใช้เอง หรือให้หน่วยงานกู้ไป แต่ต้องใช้เงินตามบัญชีแนบท้าย โดยรัฐบาลจะเป็นผู้อนุมัติแต่ละโครงการ ส่วนที่ไปเริ่มโครงการที่ จ.เชียงใหม่ เพราะถือเมืองหลวงแห่งที่ 2 ของประเทศ และต้องการพัฒนาการท่องเที่ยว
“นี่เป็นการตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่ของนักการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ที่คิดและทำภายใต้หลักนิติรัฐ และนิติธรรม ทั่วโลกจับตามองอยู่ เราจะได้ศักยภาพในฐานะนักการเมืองมาจากการเลือกตั้ง” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว