ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ยกพลบุก ป.ป.ช.เชียงใหม่ ถาม “กล้านรงค์” ทำไมคดี ปรส.ไม่คืบหน้าแถมใกล้ขาดอายุความ ด้านกรรมการ ป.ป.ช.แจงไม่ได้รับผิดชอบโดยตรง แต่ยืนยันคดีหมดอายุความ พ.ย. 57 ป.ป.ช.ทำงานเต็มที่ ทยอยชี้มูลความผิดแล้ว สุดท้ายคนเสื้อแดงพอใจยอมสลายตัวกลับ
วันนี้ (18 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาชิกกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ประมาณ 15 คน เดินทางมายังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จังหวัดเขตพื้นที่ 5 (เชียงใหม่) เพื่อสอบถามความคืบหน้าคดีองค์การเพื่อการปฎิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส.) กับนายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งเดินทางมาติดตามการเตรียมความพร้อมในการสรรหากรรมการ ป.ป.จังหวัดเชียงใหม่
ทั้งนี้ กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ระบุว่าต้องการมาสอบถามความคืบหน้าของคดี ปรส. เนื่องจากเป็นคดีสำคัญ สร้างความเสียหายให้แก่ประเทศด้วยวงเงินกว่า 800,000 ล้านบาท และตลอดระยะเวลานับ 10 ปี คดีไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร ประกอบดับคดีกำลังจะหมดอายุความในวันที่ 21 มิถุนายนนี้ อีกทั้งกลุ่มคนเสื้อแดงไม่มั่นใจในการทำงานของ ป.ป.ช.ว่าจะดำเนินการเอาผิดกับผู้กระทำผิดได้จริง
ขณะที่นายกล้านรงค์ซึ่งออกมาพบกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่ด้านหน้าสำนักงาน ป.ป.ช.จังหวัดเขตพื้นที่ 5 (เชียงใหม่) ชี้แจงกับสมาชิกกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ว่า ไม่ทราบรายละเอียดของเรื่องดังกล่าว เนื่องจากคดี ปรส.อยู่ในความดูแลของนายใจเด็ด พรไชยา กรรมการ ป.ป.ช.อีกคนหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ยืนยันได้ว่าคดีดังกล่าวจะหมดอายุคความในเดือนพฤศจิกายน 2557 และจนถึงขณะนี้มีการชี้มูลความผิดไปแล้วบางส่วน
นอกจากนี้ นายกล้านรงค์ยังได้ชี้แจงกับกลุ่มผู้ชุมนุมซึ่งมีบางส่วนที่แสดงอาการไม่พอใจ พร้อมทั้งกล่าวโจมตีนายกล้านรงค์ว่าปัดความรับผิดชอบให้คนอื่นว่า ต้องทำความเข้าใจว่าแต่ละคดีมีความซับซ้อน และยากง่ายแตกต่างกัน บางคดีแม้จะมาทีหลัง แต่หากสืบพยานได้ครบถ้วนรวดเร็วก็สามารถพิจารณาตัดสินได้ก่อน แต่บางคดีหากต้องสืบสวนพยานหลายปากก็ต้องใช้เวลา อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่า ป.ป.ช.ทำงานเต็มที่ ไม่มีการเตะถ่วงหรือปล่อยเรื่องไว้แต่อย่างใด
ภายหลังรับฟังการชี้แจง กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ได้สลายตัวไป โดยระบุว่าพอใจที่ได้รับการชี้แจงจากนายกล้ารรงค์อย่างชัดเจน ขณะที่นายกล้าณรงค์และคณะก็ได้เดินทางออกจากสำนักงานป.ป.ช.จังหวัดเขตพื้นที่ 5 (เชียงใหม่) ด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ คดี ปรส.ซึ่งกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ได้มาติดตามความคืบหน้ากับทาง ป.ป.ช.นั้น เป็นคดีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ได้ทำการสืบสวนคดีการขายทรัพย์สินของ ปรส. และระบุว่า ปรส.ปฏิบัติหรือละเว้นหน้าที่โดยมิชอบ จากการนำทรัพย์สินของสถาบันการเงิน 56 แห่ง ซึ่งถูกสั่งปิดกิจการในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 ไปประมูลขายในวงเงินเพียง 190,000 ล้านบาท โดยไม่มีการแยกประเภทสินทรัพย์ ทั้งที่สินทรัพย์ทั้งหมดมีมูลค่าถึง 851,000 ล้านบาท ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจ และทำให้ประเทศชาติสูญเสียผลประโยชน์ โดยปัจจุบันเรื่องดังกล่าวอยู่ในระหว่างการพิจารณาของ ป.ป.ช. แต่มีข่าวว่าคดียังคงมีความล่าช้า และจะหมดอายุความในช่วงเดือนมิถุนายนนี้
