เกาะกระแส
00 ในตอนนี้ผ่านไปทางไหนล้วนได้ยินแต่เสียงบ่นเหมือนกันว่าร้อนกันแทบทนไม่ไหว ร้อนจนแทบจะระเบิดกันอยู่แล้ว หลายคนตาขวางจนไม่อยากเข่้าใกล้ เพราะเกรงจะไปเพิ่มอารมณ์หงุดหงิดได้ง่าย นี่ขนาดแค่เดือนมีนาคมยังไม่ถึงเดือนเมษายนที่รู้กันดีว่าจะร้อนตับแล่บแน่ยังอุณหภูมิขนาดนี้ เมื่อถึงเวลาจริงจะขนาดไหนคิดเอาเองก็แล้วกัน จะหลบไปทางไหนก็พ้นยากเสียด้วยซี ขณะเดียวกันแม้ว่านั่นคืออุณภูมิความร้อนของอากาศ แต่ถ้าพิจาราณาในเรื่องอุณหภูมิการเมืองก็ต้องบอกว่าร้อนไม่แพ้กัน และที่สำคัญมีความพยายามจงใจเพิ่มความรอนเข้ามาอย่างตั้งใจมันก็ช่วยไม่ได้ที่จะทำให้เกิดความ "เดือดดาล" จากสังคมอย่างช่วยไม่ได้
00 แน่นอนว่าการผลักดันเรื่องสำคัญพร้อมเข้ามาหลายเรื่องมันทำให้เกิดความเสี่ยง เพราะเพียงแค่เข้ามาทีละเรื่องมันก็หนักหนาพออยู่แล้ว แต่นี่ดันเข้ามาพร้อมๆกันมันก็ต้องมาวิเคราะห์กันว่าคนที่อยู่เบื้องหลังมันต้องการอะไกันแน่ ซึ่งรับรู้กันอยู่แล้วว่าการเสนอ พรบ.เงินกู้ 2.2 ล้านล้านบาทมันเป็นเรื่องใหญ่ผูกพันกับอนาคตคนไทยที่ต้องเป็นหนี้รวดเดียวถึง 50 ปี และไม่ใช้หนี้ก้อนเล็กๆแต่ไม่ต่ำกว่ารายละกว่าแสนบาทมันก็ต้องละเอียดอบคอบและได้รับความยินยอมกันให้เป็นเรื่องเป็นราว ไม่่ใช่ให้คนไม่กี่คน เช่น รมว.คลัง กิตติรัตน์ ณ ระนอง รมว.คมนาคม ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รวมไปถึง นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ใช่้น้ำลายมาการันตีเท่านั้น หรือต่อให้คนที่ชักใยอยู่ข้างหลังแท้จริงอย่างทักษิณ ชินวัตร มารับรองมันก็เชื่อไม่ได้ เพราะที่อ้างว่าคุมค่านั้นใครกันแน่ที่คุ้มค่าคนในครอบคนพวกนี่หรือเปล่าที่คุ้ม เพราะที่ผ่านมามักมีเขสียงนินทาเรื่อง "ร้อยชักสามสิบ" อยู่เรื่อย
00 หรือว่านี่คือโครงการหาเงินก่อนยุบสภาเพื่อกลับมาใหม่ หลังจากต้องลุ้นระทึกกับคำชี้ขาดของ ปปช.ในหลายเรื่องที่ฉ้อฉลและกำลังถูกจับได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงินกู้ให้ผัวนอกทะเบียนจำนวน 30ล้านบาท โครงการจำนำข้าวที่มีปัญหางบประมาณ เรื่องเหล่านี้กำลังงวดและใกล้ตัดสินแล้ว ถือว่านับถอยหลัง แต่ก็อย่างว่าแหละในเมื่อเวลาเริ่มมีจำกัดใกล้เข้ามาจวนตัวทำให้อีกด้านหนึ่งเราถึงได้เห็นความเสี่ยงทำการใหญ่ของคนพวกนี้เหมือนกัน เราถึงได้เห็นการเสนอแก้ไข รธน.เข้ามาอีกรอบ แม้ว่าทุกครั้งจะมีการปรับเปลีี่ยนวิธีการตบตาไปเรื่อย
00 คราวนี้เสนอแก้ไขรธน.แบบรายมาตราใช้วิธีฮั้วกับพวกสว.ร่วมกันสนับสนุนแบ่งเค้กแบ่งผลประโยชน์กันเองหน้าตาเฉย เช่น สส.เสนอให้มีแต่สว.เลือกตั้ง และให้ลงสนามได้โดยไม่ต้องเว้นวรรค ขณะเดียวกันก็ขอความสนับสนุนในเรื่องสำคัญอื่นๆในเรื่องแก้ไขให้ไม่ต้องยุบพรรค การเจรจากับต่างประเทศในเรื่องสำคัญต่อไปไม่ต้องให้รัฐสภารับรองก่อน ซึ่งความหมายอาจหมายรวมถึงการเจรจาเรื่องเขตแดนและการเกี่ยวพันถึงอธิปไตยของชาติด้วยก็ได้ และแอ่น แอ้น เรื่องสำคัญที่สุดที่มองข้ามไปไม่ได้เป็นอันขาดก็คือการแก้ไข ม.68 ที่ต้องการให้การยื่นเรื่องให้ตีความเรื่องรธน.ต้องยื่นผ่านอัยการสูงสุดเท่านั้น ห้ามยื่นโดยตรงต่อศาลรธน.เหมือนเมื่อก่อน นี่เท่ากับว่าตัดมือตัดเท้าชาวบ้านไม่ให้ทำหน้าที่ "พิทักษ์รธน."ของพวกเขาที่อุตส่าห์ร่วมกันลงประชามติกว่า 14.7 ล้านเสียงอย่างสิ้นเชิง เออแบบนี้มันไม่แฟร์วะแม้ว ว่ามั๊ย !!
00 ที่สำคัญเมื่อมองในทุกประเด็นที่พวกนักการเมืองเลวๆพวกนี้คิดชำเรารธน.กันอยู่นั้นไม่ได้เกี่ยวข้องหรือชาวบ้านได้ประโยชน์ใดๆเลยไม่ มีแต่ต้องการแก้ไขให้พวกตัวเองโกงกินะปู้ยี่ปู้ยำบ้านเมืองได้สะดวกมากขึ้นกว่าเดิมเท่านั้น เพราะไม่ว่ามองในมุมไหนมันมองเห็นแบบนี้จริงๆ และที่ผ่านมาสิ่งที่รธน.ฉบับนี้มีความผิดมีอยู่อย่างเดียวคือ ยังเข้มงวดกับพวกคนเลวเหล่านี้น้อยเกินไปเท่านั้นเอง
00 นับวันเสียงสนับสนุนให้ทำประชามติเรื่องการกู้เงิน 2.2 ล้านล้านบาทเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ เพราะมันเกี่ยวพันและผูกพันชะตากรรมของคนไทยทั้งประเทศไม่ว่าจะเป็นใคร จะเป็นเสื้อแดงหรือไม่ก็ต้องเป็นหนี้ พวกคนเสื้อแดงอาจจะหลับหูหลับตาเชื่อ ทักษิณ ก็ได้เพราะนับถือเป็นพ่อขนาดยอมตายแทนมาแล้ว แต่คนอื่นละจะมารับชะตากรรมทรามแบบจำยอมแบบนี้หรือ มันก็ต้องดินรนขัดขืนกันบ้างละ และยังดีที่ ร่างพรบ.นิรโทษฯล้างผิดให้ทักษิณ จะชลอไปก่อนชั่วคราว แต่แค่สองเรื่องดังกล่าวมันก็ร้อนทะลุองศาเดือดอยู่่แล้ว และคนที่เพิ่มอุณหภูมิเข้ามาก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็น ทักษิณ กับ ยิ่งลักษณ์ นั่นแหละ และก่อนจะถึงวันนั้นไม่รู้ว่าจะเผาจนละลายเสียก่อนหรือเปล่า มันน่าคิดเหมือนกัน
00 ขณะเดียวกันพูดก็พูดเถอะหากพิจารณาเฉพาะร่างแก้ไขรธน.ที่พลพรรคปชป.นำโดย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ดาหน้าออกมาตีฝีปากตำหนิคนอื่นก็อยากจะถามเหมือนกันว่าฝ่ายของตัวเองนั้นมีท่าทีอย่างไรกันแน่ เพราะเท่าที่ประเมินแล้วทำให้เข้าใจตัวเองก็อยากให้แก้ไขในบางมาตราเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะเรื่องไม่ต้องยุบพรรค หรือแม้แต่เรื่องให้สว.มาจากือกตั้งทั้งหมด นี่แหละที่ทำให้พรรคเพื่อไทยจับไต๋ออก และที่รองประธานเจริญ จรรย์โกมล บอกว่าปชป.ค้านไม่เต็มเสียงอย่างนี่แหละใช่เลย !!