สร้างกระแสวิจารณ์สถาบันกษัตริย์ เจตนาตอบโจทย์ใคร!!

ผ่าประเด็นร้อน

ในตอนแรกไม่คิดจะพูดถึงกรณีรายการตอบโจทย์ ที่ดำเนินรายการโดย ภิญโญ ไตรสุริยธรรมา ทางไทยพีบีเอส เพราะจะกลายเป็นว่าร่วมสร้างกระแสให้เกิดการวิจารณ์พูดถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ทำนองต่อปากต่อคำไม่สิ้นสุด หลังจากเมื่อวันก่อนมีการนำเอาบุคคลที่มีความคิดสนับสนุนในเรื่องแก้ไข มาตรา 112 ต้องการวิพากษ์วิจารณ์สถาบันฯ ได้อย่างเสรี อ้างว่าเพื่อทำให้สถาบันลดแรงกดันจากสังคม

อย่างไรก็ดี เมื่อหลังจากนั้นทุกอย่างเลยเถิดทุกอย่างเริ่มเป็นไปตามเป้าหมายของคนพวกนี้ ก็ตองถึงเวลาที่จะต้องด่ากราดกลับไปบ้าง เพราะถ้าจะว่าไปแล้วไม่ว่ามองมุมไหนก็ยังไม่เห็นประเด็นร้อนแรง นำมาถกเถียงกันออกอากาศทางทีวีสาธารณะ เหมือนกับว่าเป็นเจตนาแบบตั้งใจของผู้ดำเนินรายการที่จะนำเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์ขึ้นมาถกกันบนโต๊ะ ทำทีเหมือนหวังดีแต่หากมองอย่างรู้ทันก็เห็นทันทีว่านี่คือเจตนาร้ายที่ซ่อนอยู่ข้างหลังนั่นแหละ

หากพิจารณาจากแบ็กกราวนด์ของทั้งผู้ดำเนินรายการ และแขกรับเชิญที่มาร่วมรายการ ล้วนแล้วแต่ทำให้มองเห็นทันทีว่าคนพวกนี้มีเจตนาร้ายอย่างไร เริ่มจากตัว ภิญโญ ไตรสุริยธรรมา ที่เป็นผู้ดำเนินรายการ ไม่ว่าจะเป็นบุคลิกส่วนตัว หรือวิิธีการนำเสนอรายการ การเชิญแขกรับเชิญมาร่วมรายการ หรือการสัมภาษณ์บุคคลย้อนหลังกลับไป หลายครั้งมองแล้วเหมือนมีเจตนาที่ไม่ปกติ ทำให้ถูกตั้งคำถามจากสังคมว่าต้องการอะไรกันแน่

หลายครั้งเหมืแนกับต้องการเปิดพื้นที่ให้อีกฝ่าย โดยอ้างสื่อสาธารณะและเสรีภาพในการเสนอความเห็น ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไปสัมภาษณ์ นักโทษหลบหนีคดี อย่างทักษิณ ชินวัตรได้ใช้พื้นที่แก้ตัวโจมตีกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย จากข้างนอกทั้งที่ตัวเองไม่ยอมเขามาพิสูจน์ความจริงอ้างแต่เพียงว่าตัวเองไม่ได้รับความเป็นธรรม ยืนเป็นกระต่ายขาเดียวเรื่องนี้อยู่ร่ำไป

อย่างไรก็ดี ที่เห็นเจตนาที่ไม่ปกติก็คือ การเปิดพื้นที่ให้กับคนที่มีความคิด “ล้มเจ้า” อย่างสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล เกินความพอดี มีความจำเป็นและน่าสนใจจนกลายเป็นประเด็นร้อนแค่ไหนที่ถึงกับมีการเปิดพื้นที่ให้ถกเถียงเกี่ยวกับความคิดเรื่องการแก้ไขกฎหมายมาตรา 112 ที่เปิดช่องให้มีการวิพากษ์วิจารณ์สถาบันพระมหากษัตริย์ ต้องการวิจารณ์พระราชดำรัสหรือพระบรมราโชวาท โดยอ้างว่าไม่เป็นผลดีกับสังคมไทยในทัศนะอุบาทว์ของคนพวกนี้ จำเป็นแค่ไหนที่ต้องเปิดพื้นที่ให้ถกเถียงกันถึง3 วันติดต่อกัน

ประเด็นที่เกี่ยวกับการแก้ไขมาตรา 112 เป็นความต้องการของคนไทยสักกี่คน เป็นประเด็นร้อนที่สังคมไทย หรือคนไทยต้องการถกเถียงกันหรืออย่างไร ตรงกันข้ามมีการพิสูจน์ให้เห็นจนไม่ต้อง

พิสูจน์กันอีกแล้วว่าคนไทยไม่ปรารถนาที่จะมาพูดถึงหรือเปิดช่องให้ใครมาตีกินฉวยโอกาสกล่าวหาสถาบันพระมหากษตริย์ในทางลบและข้างเดียว

ทุกครั้งในวันมหามงคลสามารถสำรวจดัชนีความสุขของคนไทยพุ่งสูงพรวดมาตลอด อีกทั้งสถาบันพระมหากษัตริย์มีประวัติศาสตร์คู่กันมากับคนไทยมาช้านาน ร่วมทุกข์ร่วมสุข เป็นมิ่งขวัญของคนไทยมาช้านาน สถาบันพระมหากษัตริย์นำมาไทยให้รอดพ้นจากภัยคอมมิวนิสต์ในอดีต โครงการพระราชดำริ รวมทั้งปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่เป็นแนวทางใหม่ที่นานาชาติเห็นว่าจะพาให้คนทั้งโลกพ้นจากหายนะ

ด้วยคุณูปการของสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยดังกล่าว กลับสวนทางและตรงกันข้ามกับระบบทุนนิยมสามานย์ของประเทศมหาอำนาจตะว้นตก จึงกำลังตกเป็นเป้าหมายถูกคุกคามทำลายผ่านทางลิ่วล้อ “นายหน้า” ในเมืองไทยหลายรูปแบบ ทั้งพวกนักการเมือง อย่างทักษิณ ชินวัตร ก็อยู่ในข่ายน่าสงสัย หรือแม้แต่มาในแบบนักวิชาการ พยายามสร้างค่านิยมผิดๆให้กับบรรดานักศึกษาในทำนองว่าถ้าวิจารณ์เจ้า ไม่เอาเจ้าแล้วเป็นคน “หัวก้าวหน้า” มีความเท่ อะไรประมาณนั้น

ขณะที่ระบบคิดของคนดำเนินรายการอย่างภิญโญ เองแม้ว่าจะปฏิเสธคอเป็นเอ็นว่าไม่ได้เป็นพวกเดียวกับสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล หรือพวกล้มเจ้า ไม่ได้เป็นพวกที่ทำเป็นพวกหัวก้าวหน้า แต่หากพิจารณาจากภาวะแวดล้อมหรือแบ็กกราวด์ขณะดำเนินรายการตอบโจทย์ทำให้น่าสงสัย และที่สำคัญได้เห็นพิรุธจากการจัด “ดีเบตวิจารณ์เจ้า” ผ่านสื่อสาธารณะเมื่อวันก่อน ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อถูกสังคมด่ากันยับแบบนี้มันก็ต้องปฏิเสธชิ่งเอาไว้ก่อนอยู่แล้ว

ดังนั้น เมื่อพิจารณาจากความเคลื่อนไหวดังกล่าวมาทั้งหมดทำให้เข้าใจว่ารายการตอบโจทย์ที่ผ่านมาไม่ใช่เป็นการตอบโจทย์ให้กับสังคมไทยและคนไทย แต่เป็นการสร้างกระแสเพื่อตอบโจทย์ให้กับพวกล้มเจ้าได้ใช้เวทีสาธารณะวิพากษ์วิจารณ์สถาบันพระมหากษัตริย์ ทั้งที่เป็นการเหยียบย่ำหัวใจคนไทยทั้งชาติ เป็นเจตนาอุบาทว์อย่างแท้จริง!!