“ยะใส” ชี้ พ.ร.บ.กู้เงิน 2.2 ล้านล้าน ร้ายแรงเท่า กม.ปรองดอง

“สุริยะใส” ระบุร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2.2 ล้านล้าน ร้ายแรงเทียบเท่าร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ชี้ร่าง พ.ร.บ.ให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการรัฐ ที่รัฐบาลกำลังผลักดัน เป็นเครื่องมือผลาญงบฯ และเงินกู้ 2.2 ล้านล้านโดยไม่มีการตรวจสอบ งงเครือข่ายต้านคอร์รัปชันหลงประเด็น ทำแค่ “สัญญาคุณธรรม” ทั้งที่ไม่มีข้อผูกมัดทางกฎหมาย

นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน (Green Politics) กล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2.2 ล้านล้านบาท ที่ ครม.มีมติวันนี้และเตรียมเสนอเข้าที่ประชุมสภาฯ เร็วๆ นี้ ถือเป็นร่างกฎหมายที่เป็นอันตรายและสร้างปัญหาต่อสังคมไทย ร้ายแรงพอๆ กับร่าง พ.ร.บ.ปรองดองฟอกผิด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

นายสุริยะใสกล่าวว่า แม้ไม่มีใครปฏิเสธการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศก็ตาม แต่ พ.ร.บ.เงินกู้ 2.2 ล้านล้านบาททำลายระบบการจัดงบประมาณแผ่นดิน เปิดช่องให้มีการทุจริตคอร์รัปชันมโหฬารเอื้อประโยชน์พวกพ้อง เช่นเดียวกับร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ซึ่งไม่มีใครคัดค้านหลักการการปรองดอง แต่วิธีการไปเอื้อคนบางกลุ่มและทำลายหลักนิติรัฐ เป็นสิ่งที่อันตรายและสร้างปัญหาในระยะยาว

ผู้ประสานงานกลุ่มกรีนกล่าวว่า ถ้าไปดูร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ ที่ ส.ว.กำลังรวบรวมรายชื่อเพื่อยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย จะเห็นชัดเจนว่ารัฐบาลออกแบบให้ร่าง พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ ฉบับนี้เป็นเครื่องมือในการผลาญงบประมาณและเงินกู้ 2.2 ล้านล้านบาท โดยไม่มีการถ่วงดุลตรวจสอบหรือคำนึงถึงความโปร่งใสแต่อย่างใด

“ที่น่าแปลกใจคือ ภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชัน ที่เกิดจากการรวมตัวของหอการค้าและสภาหอการค้าฯ กลับหลงประเด็น โดยการจัดทำสัญญาคุณธรรมเพื่อให้กลุ่มทุนธุรกิจที่เข้าร่วมประมูลงาน ลงนามกับตัวแทนกระทรวงคมนาคมเพื่อต่อต้านการทุจริตและสินบนจากการลงทุนในงบประมาณดังกล่าว ทั้งๆ ที่สัญญาคุณธรรมไม่มีผลทางกฎหมาย ไม่มีข้อผูกมัดถึงความรับผิดชอบต่อสังคม ผมว่าสะท้อนถึงระดับความจริงจังและจริงใจต่อการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชันของบรรดากลุ่มทุนธุรกิจที่ฉาบฉวย และไปไม่ถึงการจัดการกับกฎหมายและอำนาจที่ทุจริตฉ้อฉล ฉะนั้น ร่างกฎหมายทั้ง 2 ฉบับนี้จะเป็นบทพิสูจน์และท้าทายภาคีเครือข่ายฯ ว่าจริงใจต่อการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันในสังคมไทยมากน้อยแค่ไหนด้วย”