xs
xsm
sm
md
lg

“ภิญโญ” ปัดลงชื่อแก้ ม.112 ยันไม่ใช่หัวก้าวหน้า หวังปมคลายได้จิบชา “จิตตนาถ”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ข้อความจากเว็บไซต์เฟซบุ๊กรายการตอบโจทย์ประเทศไทย
“ภิญโญ” ตอบโจทย์ “จิตตนาถ” เล่าอดีตสมัยตั้งนิตยสารโอเพ่น ชมให้เกียรติคบค้าสมาคมโดยไม่ถือยศ ป้องสุภาพอ่อนโยน ชู “สนธิ” สอนการใช้ชีวิตหลายแง่มุม บอกมรสุมทำให้มองถึงเรื่องเก่า ยันไม่ได้ลงชื่อแก้ ม.112 ปัดเป็นลูกศิษย์ “สมศักดิ์ เจียมฯ” รับคิดต่าง “ปราบดา-วรพจน์” เผยหัวก้าวหน้าไม่เอาด้วย แถมตราหน้าเป็นอนุรักษนิยม ลั่นภูมิใจในความเป็นนักข่าวผู้จัดการ ยอมไม่ตอบโต้เหตุเริ่มชีวิตสื่อที่นี่ หวังปมขัดแย้งคลายได้จิบชารำลึกความหลัง

วันนี้ (18 มี.ค.) เว็บไซต์เฟซบุ๊กรายการตอบโจทย์ประเทศไทย ได้ขึ้นบทความของนายภิญโญ ไตรสุริยธรรมา พิธีกรผู้ดำเนินรายการ ในหัวข้อ “จิตตนาถ ลิ้มทองกุล ที่ผมรู้จัก” โดยระบุว่า สืบเนื่องจากบทความของนายจิตตนาถ ลิ้มทองกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเครือเอเอสทีวีผู้จัดการ ที่ลงในเว็บไซต์เอเอสทีวีผู้จัดการในวันนี้ นายภิญโญ ซึ่งไม่มีโอกาสได้สนทนากับเพื่อนเก่า จึงขอใช้เทคโนโลยีโบราณ ส่งจดหมายน้อยมาให้อ่าน พอให้หายคิดถึง

จิตตนาถ ลิ้มทองกุล ที่ผมรู้จัก
----------------------------------
ผมรู้จักกับคุณจิตตนาถ ลิ้มทองกุล ถ้านับเนื่องถึงวันนี้ ก็น่าจะยาวนานเกินทศวรรษ พุทธภาษิตกล่าวว่า เดินร่วมกัน 7 ก้าวนับเป็นมิตร เดินร่วมกัน 12 ก้าวนับเป็นสหาย อยู่ร่วมกันสักเดือนกึ่งเดือนนับเป็นญาติ ช่วงที่ผมเริ่มต้นนิตยสาร OPEN นั้น เป็นช่วงเวลาใกล้เคียงกันกับที่คุณจิตตนาถ บุกเบิกบุรพัฒน์ คอมมิคส์ เราจึงมีโอกาสได้ใช้เวลายามค่ำคืน ตามประสาคนนอนดึก สนทนากันหลายเรื่องหลายราวในชีวิต อันเป็นความฝันของคนหนุ่ม

ในวันที่เรารู้จักกัน คุณจิตตนาถ เป็นทายาทของคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ไทคูนสิ่งพิมพ์ยักษ์ใหญ่ของประเทศ ส่วนผมเป็นเพียงคนหนุ่มที่เพิ่งเริ่มต้นทำนิตยสารทางเลือกเล่มเล็กๆ ที่ต้องหมุนเงินเดือนชนเดือน

การที่คุณจิตตนาถ ให้เกียรติมาคบหาสมาคมกับผมด้วยมิตรจิตมิตรใจโดยไม่เคยถือยศถือศักดิ์เช่นนั้น คิดไป ผมก็ยังซาบซึ้งไม่หายจนถึงทุกวันนี้ บางคืนคุณจิตตนาถถึงขนาดชวนผมขับรถข้ามสะพานพระปิ่นเกล้า ไปกินก๋วยเตี๋ยวที่บอกว่าอร่อยที่สุดเจ้าหนึ่งในกรุงเทพฯ

คนที่ไม่เคยรู้จักตัวจริงของคุณจิตตนาถ อาจจะคิดว่าคุณจิตตนาถ เป็นคนก้าวร้าวดุดัน ดังข้อเขียน หรือคำให้สัมภาษณ์ของคุณจิตตนาถ ที่มีคนถอดเทปมาลงตีพิมพ์ในเว็บไซต์ผู้จัดการเสมอๆ แต่ในฐานะเพื่อนเก่า ผมยืนยันว่า คุณจิตตนาถ ที่ผมรู้จักนั้นเป็นคนสุภาพ อ่อนโยน ให้เกียรติเพื่อนมนุษย์ อันเป็นคุณสมบัติที่ดีเยี่ยม ที่อาจมิได้พบในตัวบุตรธิดาของผู้มีชื่อเสียงทุกคน

ในแง่นี้ ผมต้องขอแสดงความนับถืออย่างจริงใจต่อคุณสนธิ ลิ้มทองกุล และภรรยา ที่ได้อบรมเลี้ยงดูคุณจิตตนาถ มาได้ดีขนาดนี้ ผมเขียนประโยคนี้แล้ว ก็เกรงว่าคนจะไปตีความเอาผิดๆ ว่าผมประชดประเชียด ผมยืนยันว่าผมเขียนประโยคนี้จากใจจริง ผมเคยไปฟังคุณสนธิ พูดที่สวนลุมไนท์บาซาร์ ในโรงละครโจ หลุยส์ ว่าตอนคุณจิตตนาถ ยังเล็กนั้น เคยเอาคุณจิตตนาถ นอนบนอกตนเอง คุณสนธิ สอนให้คนรุ่นหลังถ่ายทอดความอบอุ่นให้ลูก รวมถึงสอนเรื่องการใช้ชีวิตในหลายแง่มุม

ผมฟังแล้วก็ยังจำได้เรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้

นอกจากคุณจิตตนาถ แล้ว ผมเองก็รู้จักกับคุณปราบดา หยุ่น ทายาทคุณสุทธิชัย หยุ่น ในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน และถ้าจะกล่าวแล้ว เหตุที่ทำให้ทั้งสองท่านมาพบกัน ก็เนื่องจากต้องมาถ่ายรูปลงบทสัมภาษณ์ให้กับนิตยสาร open ร่วมกับคุณธรรมา มาลากุล ทายาทคุณ ปีย์ มาลากุล แห่งนิตยสารดิฉัน

คุณธรรมา นั้นเป็นเพื่อนรุ่นน้องที่บัญชีจุฬา

เมื่อพูดถึงคุณธรรมา ซึ่งได้ด่วนจากไปก่อนเวลาอันควรแล้ว ผมอยากบันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ว่า แม้จะเป็นทายาทคุณปีย์ ผู้ยิ่งใหญ่แห่งวงการสื่อสารมวลชน แต่คุณธรรมา นั้น นุ่มนวลสุภาพกับเพื่อนฝูงยิ่งนัก คุณปีย์ อาจจะไม่เคยรู้ว่า สมัยเรียนหนังสือนั้น พวกเราแอบไปนอนที่ห้องขนาดใหญ่ของปิ๊ป กันหลายครั้ง รายงานเรื่องหนึ่งที่เราทำส่งอาจารย์ คือเรื่องการผลิตรายการของแปซิฟิก ผมลงมือสัมภาษณ์ทีมงาน และเขียนรายงานเล่มนั้นเองในห้องสมุดที่บ้านคุณปีย์ โดยมีข้าวไข่เจียวจากครัวเป็นอาหารของทีมงาน เขียนเสร็จแล้ว ปิ๊ป ก็ขับนิสสันเซฟฟิโร่ที่โก้มากในสมัยนั้น พากลุ่มพวกเราไปส่งรายงานในตอนเย็น ดูเหมือนจะได้คะแนนดีกันทุกคน

ถ้าคุณปีย์ จะได้อ่านอยู่ผ่านตา ไม่ว่าในมิติอื่นปิ๊ป จะเป็นอย่างไร แต่ปิ๊ป เป็นคนที่มีน้ำใจกับเพื่อนฝูงยิ่งนัก

นอกจากทั้งสามท่านแล้ว ยังมีคุณระริน อุทกะพันธุ์ หรือคุณแพร ผู้นำหญิงแกร่งแห่งอมรินทร์ ทายาทคุณชูเกียรติ อุทกะพันธุ์ ที่คนในวงการหนังสือนับถือกันมาก ก็ได้ให้เกียรติสัมภาษณ์และถ่ายรูปร่วมกันในช่วงนั้นกับเพื่อนหนุ่มกลุ่มที่ได้กล่าวมา

คุณปราบดา เองหลังจากนั้น ได้มีโอกาสมาทำนิตยสาร OPEN ร่วมกันเป็นเวลาประมาณหนึ่งปี มีคุณวรพจน์ พันธุ์พงศ์ รวมอยู่ด้วยช่วยกันทำชวนกันเที่ยวกับทีมงาน นับเป็นปีที่สนุกสนานมากในชีวิตพวกเรา เมื่อ GM วางแผนจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ แต่ OPEN อยากเป็นอิสระ เราจึงแยกทางเดินออกมา แต่ก็ยังรักและนับถือคุณปกรณ์ พงศ์วราภามาจนถึงทุกวันนี้ ไม่มีเสื่อมคลาย

ที่เล่ามายาวขนาดนี้ เพราะในช่วงเวลาที่ลมแรง และมีมรสุมผ่านเข้ามาในชีวิต การได้หยุดคิด แล้วมองย้อนกลับไปข้างหลัง ได้เขียนเล่าเรื่องเก่าๆ ไว้บ้างระหว่างทาง ก็ช่วยให้เรามีความสุขจากความทรงจำเก่าๆ ที่เราอาจจะหลงลืมไป

ความรักความหลังเหล่านี้เอง ที่ทำให้เมื่อคณะนักเขียนแสงสำนึก ซึ่งมีคุณปราบดา และคุณวรพจน์ ไปลงนามเสนอให้แก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 กับเขาด้วย ปรากฏกายสู่สาธารณะ หลายคนจึงมักจะเหมารวมผมจากเรื่องเก่า ว่าผมก็เข้าไปลงชื่อกับเขาด้วย ซึ่งไม่ใช่เรื่องจริง รวมทั้งเรื่องที่ไปลงชื่อสนับสนุนคณะนิติราษฎร์ ไปเป็นลูกศิษย์อาจารย์สมศักดิ์ หรืออะไรจิปาถะอีกมากมายเกินกว่าจะมานั่งแจกแจงรายละเอียดไหว

คุณปราบดา ก็เช่นเดียวกับคุณจิตตนาถ เราเดินผ่านเข้ามาในชีวิตของกันและกัน เมื่อถึงเวลาเราก็ต่างแยกย้ายกันไปในทางของเรา คุณปราบดา แยกไปเปิดสำนักหนังสือไต้ฝุ่น ก่อนที่คุณวรพจน์ จะแยกไปทำไรเตอร์และสำนักพิมพ์บางลำพูในเวลาต่อมา ทั้งสองคนมิเคยมาออกรายการตอบโจทย์ ตลอดระยะเวลากว่า 3 ปีที่ผมทำรายการมาแต่อย่างใด

ถ้าบอกกันตรงๆ ในฐานะมิตรสหาย คุณปราบดา กับผมมีมุมมองทางการเมืองที่แตกต่างกันหลายเรื่อง เช่นเดียวกับคุณวรพจน์ แต่ผมก็เคารพในความคิดของเพื่อนเก่าเสมอ และยินดียิ่งที่เวลาเขียนข่าว เว็บไซต์ผู้จัดการจะให้เกียรติแห่งมิตรภาพผูกพ่วงชื่อผมเข้าไปร่วมด้วยเสมอ แม้จะมิใช่ข้อเท็จจริง แต่ผมก็ยินดี เพราะเมื่อมีกรณีเกี่ยวกับผม ผมก็คิดว่าเพื่อนเก่าเหล่านี้ ก็น่าจะยินดี ที่ได้มีชื่ออยู่ข้างๆ ผม แม้ว่ามันจะไม่ใช่ข้อเท็จจริงก็ตาม

ถ้าจะคุยกันอย่างเพื่อนฝูง ผมอยากบอกคุณจิตตนาถ ง่ายๆ ว่า ในหมู่ปัญญาชนหัวก้าวหน้า โดยเนื้อแท้แล้ว ไม่มีใครนับถือผมเป็นพวกเดียวกับเขาหรอกครับ เขาคิดว่าผมเป็นฝ่ายอนุรักษนิยม ผสมรอยัลลิสต์ด้วยซ้ำไป จะมาเป็นฝ่ายก้าวหน้าได้ เพราะผู้จัดการช่วยจัดให้บ่อยๆ ตามเนื้อข่าวก็เท่านั้น

ที่ผ่านมา คุณจิตตนาถ ก็คงจะเห็น ว่าผมไม่เคยตอบโต้ การลงข่าวของผู้จัดการเลย เพราะผมเริ่มต้นชีวิตการเป็นนักหนังสือพิมพ์ที่นี่ ในวัยหนุ่ม คำว่า นักข่าวผู้จัดการ ทำให้ผมภาคภูมิใจ และความภาคภูมิใจนั้น ต้องยกเครดิตทั้งหมด ให้คุณสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ที่มีคุณูปการอย่างยิ่งต่อวงการหนังสือพิมพ์ไทย อย่างน้อยก็ในยุคที่ผมเริ่มต้นทำงาน

ผมจึงเคยเอ่ยปากกับคนใกล้ตัวไว้ว่า ไม่ว่าผู้จัดการเขาจะดุด่าอย่างไร ผิดจากข้อเท็จจริงเพียงไหน จะให้หรือไม่ให้เราชี้แจงตามวิถีปฏิบัติ ผมยินดีที่จะไม่ติดใจเอาความ ไม่ฟ้องร้อง หรือกระทั่งตอบโต้กลับ และผมเชื่อว่า ผมยังยินดีที่จะน้อมรับคำวิจารณ์ของผู้จัดการ ในมาตรฐานนั้น จนถึงทุกวันนี้

เช่นเดียวที่ผมจะยังคงมีความทรงจำดีๆ กับคุณจิตตนาถ ลิ้มทองกุล และคุณสนธิ ลิ้มทองกุลตลอดไป

และหวังว่า เมื่อถึงเวลาฟ้าสว่าง เราต่างออกจากความขัดแย้ง ผมจะมีโอกาสได้นั่งจิบชากับคุณจิตตนาถ รำลึกความหลัง โดยไม่ต้องมีความเชื่อที่เรายึดถืออยู่เป็นหัวโขน

คุณจิตตนาถ เคยขอเบอร์โทรศัพท์มือถือผมครั้งหนึ่ง แต่มีอยู่สองปีที่ผมเก็บตัวเข้าถ้ำอ่านหนังสือ จึงไม่เคยได้มีเบอร์มือถือเพื่อที่จะติดต่อสนทนากัน ผมจึงขอถือโอกาสเขียนจดหมายน้อยนี้ ส่งไมตรีมาถึงเพื่อนเก่า ผู้ที่ผมจะยังนับเป็นเพื่อนเสมอ

คนที่อ่านความไม่แตก อาจจะคิดว่าคุณจิตตนาถเขียนถ้อยความรุนแรงกับผม
แต่ในฐานะที่ผมรู้จักกับคุณจิตตนาถมานาน ถ้อยคำที่เขียนถึงผมนั้น
จัดได้ว่านุ่มนวลมากแล้ว เมื่อเขียนถึงท่านผู้อื่นในระยะหลัง
ทั้งหมดนี้ ผมคาดเดาเอาเองว่า คุณจิตตนาถ คงจะหลงเหลือความทรงจำที่ดี ในวันเก่าๆ ของเราอยู่บ้างเวลาเขียน
ความเมตตาจึงยังคงปรากฏอยู่ แม้คนอื่นอาจจะไม่รู้
แต่ผมเข้าใจ และตอบรับไมตรีนั้น ด้วยจดหมายน้อยฉบับนี้ จดหมายที่จะช่วยให้คนอ่านฝั่งตรงข้ามคุณจิตตนาถ เข้าใจว่า คุณจิตตนาถ ที่แท้นั้นนุ่มนวล และอ่อนโยนกว่าข้อเขียนยิ่ง

ระลึกถึงเสมอ
ภิญโญ ไตรสุริยธรรมา
อดีตบรรณาธิการนิตยสาร OPEN

ทั้งนี้ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายจิตตนาถ ได้ขึ้นบทความทางเว็บไซต์เอเอสทีวีผู้จัดการ ในหัวข้อ “ตอบโจทย์ พ่อง(พ่อมึง)เหรอ!/จิตตนาถ ลิ้มทองกุล” โดยกล่าวตำหนิการทำหน้าที่ของนายภิญโญ ที่ต้องการให้มีการวิพากษ์สถาบันพระมหากษัตริย์อย่างเสรี ผ่านรายการของตัวเอง โดยไม่เคยจะตอบโจทย์ที่แท้จริงว่าสังคมไทยกำลังมีวิกฤตเรื่องอะไร เราควรจะแก้ปัญหาที่ถูกต้องกันอย่างไร


กำลังโหลดความคิดเห็น