ทีมงานรายการ “ตอบโจทย์” โต้ข้อหาเลือกข้าง-ล้มเจ้า ยันให้เวลาฝ่ายจงรักภักดีเท่ากับ “สมศักดิ์ เจียมฯ” ลั่นสถาบันกษัตริย์ไม่ได้หมายถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบันเท่านั้น แต่รวมถึงรัชกาลถัดไปอีกยาวไกล การทำให้สถาบันฯ เข้มแข็ง พระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์จะสามารถยืนหยัดอยู่ได้สืบไป
วันที่ 18 มี.ค. เมื่อเวลาประมาณ 01.00 น. ทีมงานรายการ “ตอบโจทย์ประเทศไทย” ได้เผยแพร่บทความผ่านทางหน้าเฟซบุ๊ก “ตอบโจทย์ประเทศไทย” เพื่อชี้แจงข้อกล่าวหาต่างๆ หลังถูกโจมตีอย่างหนัก มีรายละเอียดดังนี้ ...
ที่ท่านเห็นนั้นจริงหรือ ว่าเราคือใคร
(คำชี้แจงจากทีมงานตอบโจทย์ประเทศไทย)
----------------------------------------------------
“มีผู้ชมหลายท่าน ที่อาจไม่เคยมีโอกาสได้ชมรายการอย่างต่อเนื่อง โพสต์ว่า ตอบโจทย์และภิญโญ ไตรสุริยธรรมา ชอบเชิญเสื้อแดงมาออกรายการ ทางทีมงานยืนยันว่าจริง เพราะแขกรับเชิญเหล่านี้อาจมีบางวันที่เคยสวมเสื้อแดง ไม่ว่าจะเป็น อานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี - นพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี - ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิ ชัยพัฒนา - นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส
บางท่านกล่าวว่าแขกรับเชิญในรายการไม่มีราคา ทางทีมงานเองก็มิอาจประเมินราคาของท่านเหล่านี้ได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น บรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี - พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี - พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี - อภิสิทธิ์ เวชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี
บางท่านบอกว่ารายการเราเลือกข้าง ซึ่งก็น่าจะจริงอีกเช่นกัน เพียงแต่เราเลือกทั้งสองข้าง สลับกันไปมา จนคนที่ดุด่าเรา อีกทั้งบรรดามวลชนและสื่อในมือ ก็อาจจะลืมไปแล้วว่า เคยมารายการตอบโจทย์วิจารณ์ฝ่ายตรงข้ามอย่างเผ็ดร้อนทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น สนธิ ลิ้มทองกุล - จำลอง ศรีเมือง - พิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตร - ธิดา ถาวรเศรษฐ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ จตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. ซึ่งล้วนแต่เคยผ่านเวทีตอบโจทย์ ในช่วงที่อยู่ตรงกันข้ามกับอำนาจรัฐ และสื่อทั้งหมด แทบจะไม่กล้าให้เวลาและพื้นที่ออกอากาศ
บางท่านกล่าวหาว่าพิธีกรรายการ ภิญโญ ไตรสุริยธรรมา อยู่ฝ่ายล้มสถาบัน เพราะเชื่อมั่นว่าไปเอาอาจารย์สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล มาออกรายการ ต้องมีแผน แต่ลืมไปว่าหนึ่งวันก่อนหน้า เราเชิญ ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย มาออกในเวลา 45 นาที ก่อนจะถึงอาจารย์สมศักดิ์ และเพื่อไม่ให้หนักใจผู้ชม เราจึงเชิญ พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร มาออกต่อในเวลาเท่ากัน กลายเป็น 2 ต่อ 1 หรือ 90 นาที ต่อ 45 นาที
ส่วนสองวันสุดท้ายที่ถูกตั้งคำถาม เป็นการเผชิญหน้ากันตัวต่อตัว ระหว่างสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล กับ สุลักษณ์ ศิวรักษ์ ผู้ประกาศตนเองว่าเป็นรอยัลลิสต์ขนานแท้ ในเวลาที่เท่ากัน
ถ้าจะกล่าวหาว่าอาจารย์สมศักดิ์ เป็นฝ่ายไม่เอาเจ้า นี่ก็เท่ากับว่า เป็นสัปดาห์ 3 รุม 1 ดังที่คนบางกลุ่มวิจารณ์ มิใช่ให้สมศักดิ์ออกติดกันสามวัน อย่างที่บางท่านวิจารณ์ โดยลืมที่จะหันมองวันอื่นๆ ในรอบสัปดาห์ รอบเดือน หรือรอบปีเลย
สีแดงที่คุณเห็น อาจจะเป็นเพียงส่วนหนึ่งของธงธรรมศาสตร์ ที่ยังมีสีเหลืองประกาศนาม และกลายมาเป็นสีส้มของธงไทยพีบีเอส ที่ผสมความแตกต่างเข้าด้วยกัน อย่างที่ควรจะเป็น มิใช่อย่างที่ใครบางคนอยากให้เป็น ไปในทางใดทางหนึ่ง
ในอดีต ช่วงการชุมนุมขององค์การพิทักษ์สยาม พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ เองก็เคยออกรายการรวมถึง 4 วัน ทำลายสถิติอาจารย์สมศักดิ์เป็นที่เรียบร้อย อีกทั้งคุณภิญโญที่ไปรายงานข่าว ยังถูกกล่าวหาว่า เป็นกุนซือเสธอ้ายเสียอีก ภิญโญ จึงกลายเป็นกุนซือวางแผนเรียกแขกให้เสธอ้ายปกป้องสถาบันกษัตริย์ล้มทักษิณ ไปพร้อมๆ กับร่วมกับอาจารย์สมศักดิ์จัดวาระวิจารณ์สถาบัน
คนเดียวกันเป็นได้ทั้งรักเจ้าและล้มเจ้า ถูกกล่าวหาว่าขัดขวางฝ่ายก้าวหน้าไปพร้อมๆ กับโดนข้อกล่าวหาว่าล้มเจ้า
เรามีสี หรือเราทำหน้าที่
เราเปิดกว้าง หรือเราปิดกั้น
เราเป็นกลาง หรือเราเลือกข้าง
ในเมื่อเราถูกวิจารณ์รุนแรงจากทั้งสองฝ่าย เท่าที่สื่อประเทศนี้จะเคยประสบ
สื่อฝ่ายสนับสนุนม็อบเสธอ้ายรู้อยู่แก่ใจว่าเราไปทำหน้าที่ แต่พอถึงวันนี้ หลายคนแกล้งหลับตา เมื่อเราเชิญฝ่ายอื่นมาออกรายการบ้าง ก็รีบปลุกปั่นรุมประณาม เพื่อสร้างความเกลียดชัง เมื่อเราถูกขยุ้มก็ไม่รีรอที่จะรีบขย้ำ ด้วยรู้ว่าเราจะกลับมายิ้มให้กันใหม่ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เมื่อเราเชิญคนฝ่ายท่านมาออกรายการ ซึ่งเราต้องทำ เพื่อรักษามาตรฐานแห่งวิชาชีพ
ไม่มีหมู่บ้านไหน อยากอยู่ตรงกลางพรมแดนระหว่างสงครามสองฝ่าย ถ้าท่านอยากรู้เจตนาที่แท้จริงว่า เราสุ่มเสี่ยงต่อการถูกก่นด่า เข้าใจผิด ทำเรื่องยากยิ่งกว่าเข็นครกขึ้นเขาชันไปทำไมกัน
คำตอบอยู่ในรายการตอบโจทย์ 5 ชื่อที่ถูกเรียกขานจนเป็นกลายตำนานชั่วข้ามคืน ซึ่งถูกงดออกอากาศในวันศุกร์ 15 มีนาคมที่ผ่านมา
ถ้าท่านถามว่าเราทำประเด็นนี้ทำไม เฉพาะคำประกาศยุติรายการเพียงโพสต์เดียว ณ ค่ำวันอาทิตย์ ที่ยังไม่ครบสองวันเต็ม มีคนเข้ามาชมกว่า 600,000 คน และถ้าอัตราการเข้าชมยังเป็นเช่นนี้ ก็น่าจะครบ 1,000,000 คนในอีกสองวันข้างหน้า ซึ่งน่าจะเท่ากับยอดขายของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ที่ขายดีที่สุดของประเทศ ในวันที่ขายดี
เรามิได้ต้องการเรียกเรทติ้งหรือสร้างข่าวตามที่ถูกกล่าวหา หากแต่นี่เป็นเครื่องสะท้อนว่า ประเด็นแหลมคมนี้ ติดอยู่ในความสนใจใคร่รู้ของผู้คนจำนวนไม่น้อย
สถาบันพระมหากษัตริย์ มิได้หมายถึงองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบันที่คนไทยเคารพสักการะเท่านั้น
หากแต่หมายรวมถึงพระมหากษัตริย์ในรัชกาลถัดไปอีกยาวไกลในอนาคตจากการสืบสันตติวงศ์
การทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์เข้มแข็ง ย่อมหมายถึงการทำให้ไม้ใหญ่ที่หยั่งรากลึกยาวนานเข้มแข็ง แม้เผชิญลมแรงย่อมทานแรงลมได้ มิว่าอนาคตจะยาวไกลเพียงใด พระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ ก็จะอยู่ปกเกล้าปกกระหม่อมชาวไทย ใต้ร่มโพธิร่มไทรของสถาบันพระมหากษัตริย์สืบไป
และนี่น่าจะเป็นสิ่งที่อยู่ในใจชาวไทยมากที่สุด
ความจริงข้อนี้ แม้คนที่วิจารณ์เข้มข้นที่สุดอย่างอาจารย์สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ก็ยอมรับ และยินดีที่จะอยู่กับความจริงนี้ของสังคมไทย และนี่เป็นวิธีที่เราจะอยู่กับผู้เห็นต่างอย่างสันติ โดยมิต้องคิดไล่ใครไปให้พ้นแผ่นดินไทยของทุกคน
ถ้าท่านอดทนฟังอย่างมีสติ ช่วงท้ายของรายการ คือพุทธิปัญญาของอาจารย์ สุลักษณ์ ศิวรักษ์ ปัญญาชนสยาม ซึ่งแม้จะมีโวหารแกว่นกล้า หากทว่าเมื่อพิจารณาอย่างจริงจังแล้ว กลับเป็นผู้จงรักภักดีอย่างลึกซึ้ง
ดังภาษิตที่ว่า โอสถดีมักมีรสขม คำชมแม้หวาน หากนานไปกลับเป็นโทษ ฉันใด คำวิพากษ์วิจารณ์จากกัลยณมิตร คือแสงอรุณรุ่งอันอำไพ แม้ว่าจะรับฟังได้ยาก หากทว่าต้องอดทน อดกลั้น ข่มใจ
ทั้งหมดนี้ คือคำตอบที่ว่า เราคือใคร และเราทำหน้าที่ที่ยากยิ่งนี้เพื่ออะไร
ทีมงานรายการทุกคนและผู้ดำเนินรายการ ได้กราบพระบรมอัฐิของพระมหากษัตริย์ไทยในราชวงศ์จักรีที่วังวรดิศ รวมทั้งได้กราบพระสยามเทวาธิราชที่ประดิษฐานอยู่ที่นั่น เพื่อขอพระราชทานพรให้มีกำลังกายและกำลังใจที่เข้มแข็ง เพื่อที่จะทำหน้าที่สื่อสารมวลชนโดยสุจริต และขอให้พรนั้นช่วยให้ประเทศไทยฟันฝ่าอคติและความขัดแย้งแบ่งฝ่ายไปสู่สันติวิถีในเร็ววัน
ขอขอบพระคุณและน้อมรับทุกคำวิพากษ์วิจารณ์ที่มาจากห้วงลึกแห่งจิตสำนึกของทุกท่าน
แม้จะดุดันเกรี้ยวกราดบ้าง เราก็ยินดีรับฟัง เพราะการฟังอย่างลึกซึ้งเท่านั้น ที่จะทำให้เราเห็นมิตร และเข้าใจความคิดคู่ขัดแย้ง และเป็นหนทางแก้ปัญหาการเผชิญหน้าในสังคมที่แท้จริง
นี่คือเหตุผลที่เรารับฟังทุกท่านอย่างสงบ
ด้วยความเคารพ
กองบรรณาธิการตอบโจทย์ประเทศไทย”