xs
xsm
sm
md
lg

“ประสาร” ซัดจำนำข้าว รบ.โกหก-โกง-ก่อหายนะ - ส.ว.หนุนปลูกหญ้าเนเปียร์ปากช่อง 1

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ประสาร มฤคพิทักษ์ ส.ว.สรรหา(แฟ้มภาพ)
“ส.ว.ประสาร” สวด รบ.จำนำข้าวหวังแค่คะแนนเสียง ไม่สนประเทศหายนะ ปชช.รับเคราะห์แทน “ส.ว.สมยศ-ส.ว.วิบูลย์” จับมือแนะรัฐหนุนปลูกหญ้าเนเปียร์ปากช่อง 1 ผลิตไฟฟ้าปลอดมลพิษ ทดแทนแก๊สธรรมชาติในอ่าวไทย

วันนี้ (18 มี.ค.) ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา ที่มีนายนิคม ไวรัชพานิช ประธานวุฒิสภา เป็นประธานในการประชุม ก่อนเข้าสู่วาระการประชุม นายประสาร มฤคพิทักษ์ ส.ว.สรรหา หารือถึงโครงการรับจำนำข้าวว่า ขอสรุปโครงการนี้ว่าเป็นเรื่อง 3 ก. คือ 1. โกหก เพราะเป็นการผูกขาดทั้งซื้อและขายไม่ใช่การรับจำนำ อีกทั้งปกปิดตัวเลข ทั้งในฝ่ายการเมืองและข้าราชการประจำ นอกจากนี้ก็ยังส่งออกได้น้อย ทั้งที่ในข้อเท็จจริงเป็นการระบายข้าวในประเทศเสียเป็นส่วนใหญ่ 2. โกง คือ ประกาศรับจำนำในราคา 15,000 บาท แต่ข้อเท็จจริงชาวนาได้รับเพียง 11,000 บาท อีกทั้งมีแต่การลักลอบนำข้าวถูกมาขายและระบายในประเทศ ซึ่งถือเป็นการโกงกิน 3. ก่อหายนะ ไม่มีลูกค้าคนไหนซื้อขายเกินตันละ 15,000 บาท เพราะฉะนั้นรัฐบาลต้องขายขาดทุนเท่านั้น เท่ากับว่าพินาศไปแล้วปีละ 2.5 แสนล้านบาท 4 ปี คือ 1 ล้านล้านบาท

นายประสารกล่าวอีกว่า ขออ้างถึงนายทรง องค์ชัยวัฒนะ ผู้ก่อตั้งตลาดกลางค้าข้าวแห่งแรกในประเทศไทย ที่ระบุว่ารัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะซื้อข้าวเกวียนละ 2-3 หมื่นก็ได้ เพราะไม่ใช่เงินของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ แต่เป็นภาษีประชาชน แต่พอขายข้าวขาดทุนก็เป็นเรื่องของคน 60 ล้านคนที่ต้องรับผิดชอบ อย่างไรก็ตาม ทั้งสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) อดีตผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ เตือนแล้วว่าการกระทำของรัฐบาลเป็นหายนะ แต่รัฐบาลกลับไม่ฟัง ยังเดินหน้าดันทุรังต่อไปที่จะจำนำข้าวในราคา 15,000 บาทต่อตัน ตนขอตั้งคำถามว่าทำไมรัฐบาลยังเดินหน้าโครงการรับจำนำข้าวทั้งที่มีเหวอยู่ข้างหน้า ตนถือว่าเป็นประชานิยมบรรลัย เข้าทำนองที่ว่าประเทศชาติชิบฉายช่างมัน รัฐบาลเพียงต้องการคะแนนเสียงใช่หรือไม่

ด้าน พล.ต.ท.สมยศ ดีมาก ส.ว.สรรหา หารือว่า จากการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมหน่วยงานของกรมปศุสัตว์ และศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตนขอชื่นชมหน่วยงานนี้โดยเฉพาะผู้อำนวยการที่ได้ค้นคิดอาหารสัตว์ที่เลี้ยงโคนมและโคเนื้อซึ่งได้ผลผลิตทั้งน้ำนมและเนื้อวัว มีคุณภาพสูงเหมาะกับการบริโภค โดยได้คิดค้นหญ้าเนเปียร์ปากช่อง 1 ซึ่งลูกผสมระหว่างหญ้าเนเปียร์ยักษ์กับหญ้าไข่มุก ซึ่งปัจจุบันหญ้านี้ได้กลายเป็นหญ้าพลังงานไปแล้ว ซึ่งเราสามารถนำไปหมักกับเชื้อแบคทีเรียทีสังเคราะห์หรือมูลวัว หรือมูลสุกร ทำให้เกิดไบโอแก๊สมีเทน มีคุณสมบัติเหมือนแก๊สธรรมชาติในอ่าวไทย ที่เรานำมาผลิตไฟฟ้าในโรงไฟฟ้าคอนเจนเนอเรเตอร์ ที่ใช้แก๊สในการผลิตถึง 68 เปอร์เซ็นต์ ของการผลิตทั้งประเทศ ซึ่งปริมาณการใช้ตกวันละ 2.7 หมื่นเมกะวัตต์

ดังนั้น หากเราสามารถสร้างไฟฟ้าปลอดมลพิษได้ โดยโรงไฟฟ้าพลังงานหญ้าเนเปียร์ปากช่อง 1 ขนาด 1 เมกะวัตต์จะต้องใช้หญ้า ประมาณ 120 ตันต่อวัน และเพื่อให้มีไฟฟ้าตลอดจะต้องมีพื้นที่ปลูกหญ้าประมาณ 1 พันไร่ ค่าใช้จ่ายประมาณ 100 ล้านบาท ซึ่งเป็นพืชที่โตเร็วมาก จะตัดได้ทุก 45 วัน ปีหนึ่งตัดได้ 6 ครั้ง และกอหญ้าลงทุนครั้งแรกอยู่ได้ถึง 9 ปี หากเรามีโรงไฟฟ้าพลังงานหญ้านี้สามารถผลิตไฟฟ้าได้ 1 หมื่นเมกะวัตต์ จะต้องใช้พื้นที่ปลูกหญ้า 1 ล้านไร่ อนาคตก็จะลดการใช้แก๊สธรรมชาติในอ่าวไทย ทำให้มีแก๊สธรรมชาติในอ่าวไทยมีเหลือใช้ 30-40 ปี เพราะฉะนั้นหญ้านี้ไม่ใช่วัชพืชอย่างแน่นอน แต่น่าเสียดายที่ผู้ใหญ่ในประเทศนี้ไม่รู้เรื่องแล้วไปพูดว่าหญ้านี้จะเป็นวัชพืชในอนาคต ทำให้ประชาชนและ ครม.เข้าใจผิด

ส่วนนายวิบูลย์ คูหิรัญ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า จากกรณีที่กระทรวงพลังงานประกาศจะสนับสนุนการเงินให้ชุมชนปลูกหญ้าเนเปียร์มาหมักเพื่อนำแก๊สที่ได้ไปผลิตไฟฟ้าให้ได้ 1 หมื่นเมกกะวัตต์ในเวลา 10 ปี ส่วนหญ้าที่ใช้เพื่อประโยชน์เลี้ยงสัตว์หรือประโยชน์อย่างอื่นไม่ได้รับการสนับสนุนตามหลักเกณฑ์นี้ ทั้งที่ทางศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เห็นว่าควรสนับสนุนให้ปลูกหญ้าเนเปียร์เพื่อใช้เลี้ยงสัตว์ไปด้วย อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลที่ได้รับเห็นว่ารัฐบาลควรบูรณาการและสนับสนุนทางการเงินโดยหญ้าส่วนหนึ่งแบ่งไว้เลี้ยงสัตว์ และนำมูลวัวผสมกับหญ้าเนเปียร์ส่วนที่เหลือเพื่อให้ได้แก๊สปริมาณสูงสุด


กำลังโหลดความคิดเห็น