“ไทยพีบีเอส” แจงงดออกอากาศ “ตอบโจทย์” กลางคัน เนื่องจากประเมินสถานการณ์กลุ่มคนที่มาประท้วงที่สถานีอาจมีความขัดแย้งที่รุนแรงมากขึ้น จึงพิจารณาทบทวนการนำเสนอ ยันดำเนินการโดยอิสระไม่ได้ถูกบังคับจากหน่วยงานหรือสถาบันใด
เมื่อวันที่ (15 มี.ค.) จากกรณีที่องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย หรือ ไทยพีบีเอส ได้งดออกอากาศรายการ “ตอบโจทย์ประเทศไทย” ตอน “สถาบันพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ” ที่จะมีการแพร่ภาพเทปการดีเบตระหว่าง นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อาจารย์ประจำคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กับ นายสุลักษณ์ ศิวรักษ์ หรือ ส.ศิวรักษ์ โดยทางสถานีได้นำเทปเก่ารายการ “ตอบโจทย์ประเทศไทย” ช่วง “คนเก่าเล่าเรื่อง” ตอน “หะยีสุหลง” ที่ออกอากาศไปเมื่อวันศุกร์ที่ 8 มี.ค. 2556 มาออกอากาศแทน
กระทั่งเมื่อเวลา 00.50 น.ของวันนี้ (16 มี.ค.) องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย หรือไทยพีบีเอส ได้เผยแพร่คำชี้แจงกรณีรายการตอบโจทย์ประเทศไทย ตอน “สถาบันพระมหากษัตริย์ ภายใต้รัฐธรรมนูญ” ระบุว่า สืบเนื่องจากกรณีที่มีประชาชนส่วนหนึ่งเดินทางมาร้องเรียนและยื่นข้อเสนอต่อผู้บริหารองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย ให้ระงับการออกอากาศรายการตอบโจทย์ประเทศไทย ตอน “สถาบันพระมหากษัตริย์ ภายใต้รัฐธรรมนูญ” ตอนที่ 5 ซึ่งเป็นตอนสุดท้าย ที่มีกำหนดออกอากาศในวันศุกร์ที่ 15 มีนาคม 2556
ทั้งนี้ รายการตอบโจทย์ประเทศไทยที่ออกอากาศในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้นำเสนอมุมมองที่หลากหลายในเรื่องการปรองดอง การนิรโทษกรรม ซึ่งในหลายกรณีคาบเกี่ยวกับความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งกำลังเป็นประเด็นที่อยู่ในกระแสข่าว ทั้งในสื่อกระแสหลัก และในสื่อสังคมออนไลน์ โดยทางรายการได้เชิญแขกรับเชิญหลายฝ่าย นับจาก ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ผู้เคยถวายงานรับใช้ใกล้ชิดพระราชวงศ์ ในฐานะประธานจัดงานครองสิริราชสมบัติ 60 ปี ซึ่งเป็นแขกรับเชิญในวันจันทร์ที่ 11 มีนาคม 2556 ติดตามมาด้วย นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อาจารย์ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในวันอังคารที่ 12 มีนาคม 2556 ซึ่งได้ก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ในวันพุธที่ 13 มีนาคม 2556 ทางรายการได้เชิญ พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร อดีตหัวหน้านายตำรวจประจำราชสำนัก มานำเสนอมุมมองต่อข้อวิพากษ์ของนายสมศักดิ์ โดยเปิดโอกาสให้ผู้ชมเป็นคนตัดสิน
แต่ช่วงเวลาที่ก่อให้เกิดข้อวิพากษ์มากที่สุด เป็นเนื้อหารายการในวันพฤหัสบดีที่ 14 มีนาคม 2556 ที่มีการดีเบตระหว่างนายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล กับนายสุลักษณ์ ศิวรักษ์ ถึงแม้ทางฝ่ายหลังจะประกาศตัวเป็นคนรักเจ้า ที่ต้องการปกปักรักษาให้มีสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่ในประเทศไทยอย่างเปิดเผย แต่ก็ยังถูกตั้งคำถามจากผู้ชมบางส่วนถึงการวิจารณ์อย่างตรงไปตรงมาของนายสุลักษณ์ ศิวรักษ์ ซึ่งผู้ชมหลายฝ่ายอาจจะกังขาต่อท่าทีและวิธีการนำเสนอ ที่เชื่อมโยงไปถึงประเด็นการแก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งเป็นประเด็นอ่อนไหวและถูกถามถึงวัตถุประสงค์ของการนำเสนอรายการ
จากการแสดงความคิดเห็นของกลุ่มประชาชนที่เดินทางมาประท้วงการนำเสนอรายการดังกล่าว องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย มิได้เพิกเฉย โดยนำเรื่องเข้าหารือเป็นวาระเร่งด่วนในคณะกรรมการนโยบาย พร้อมทั้งเรียกประชุมกองบรรณาธิการข่าวเพื่อพิจารณาเนื้อหาของเทปรายการและตัดสินใจโดยการประชุมดังกล่าวดำเนินไปโดยอิสระตามจริยธรรมและวิชาชีพ โดยมิได้รับการร้องขอหรือถูกบังคับจากหน่วยงานหรือสถาบันใด
ทั้งนี้ การประชุมพิจารณาเทปรายการ พบว่ามีเนื้อหาที่สมดุลในการแสดงความคิดเห็น แต่ในการประเมินสถานการณ์ เวลาประมาณ 21.00 น. วันที่ 15 มีนาคม 2556 พบว่าอาจมีการขยายความขัดแย้งที่รุนแรงขึ้น คณะผู้บริหารพิจารณาภายใต้หลักการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม องค์การฯ จะต้องไม่สร้างปัจจัยความขัดแย้งเพิ่มเติมหรือเป็นคู่ขัดแย้งเอง นำมาสู่การตัดสินใจพิจารณาทบทวนการนำเสนอประเด็นอ่อนไหวอย่างรอบคอบอีกครั้ง นายสมชัย สุวรรณบรรณ ผู้อำนวยการองค์การฯ จึงได้มีข้อเสนอให้นำเรื่องร้องเรียนของกลุ่มประชาชนดังกล่าว เข้าสู่การพิจารณาของอนุกรรมการรับและพิจารณาเรื่องร้องเรียนจากประชาชน ตามมาตรา 46 พ.ร.บ.องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2551
มีรายงานว่า ก่อนหน้านี้เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. มีประชาชนจากหลากหลายกลุ่ม อาทิ กลุ่มผู้สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ในนาม กลุ่มคนไทยผู้รักชาติ ประมาณ 30 คน นำโดยนางซินเทีย เอี่ยมสะอาด ได้เดินทางมายังที่ทำการองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย ถนนวิภาวดีรังสิต เพื่อถามหาเจตนารมณ์ของรายการตอบโจทย์ วันที่ 12-14 มีนาคม 2556
ในหนังสือดังกล่าวระบุว่า ทางกลุ่มคนไทยผู้รักชาติได้ติดตามรายการตอบโจทย์ในวันที่ 12-14 มีนาคม 2556 แล้วรู้สึกได้ว่า ทางรายการโดยนายภิญโญ ไตรสุริยธรรมา ได้เจาะจงตั้งคำถามให้กับแขกรับเชิญ คือ นายสมศักดิ์ และนายสุลักษณ์ได้ตอบพูดพาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างมิบังควร อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้แขกรับเชิญทั้งสองได้วิพากษ์วิจารณ์ถึงสถาบันพระมหากษัตริย์และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างไม่เหมาะสมตลอดทั้งรายการ และยังจะคงมีตอนต่อไปในวันที่ 15 มีนาคม 2556 นี้อีกด้วย ทางกลุ่มฯ ได้ร่วมกันสังเกตตลอดทั้งรายการว่า ทั้งพิธีกรและแขกรับเชิญไม่ได้เอ่ยถึงคุณประโยชน์อันใหญ่หลวงที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงตรากตรำทำงานเพื่อประชาชนคนไทยและประเทศไทยเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งการพูดคุยในรายการมีแต่จะมุ่งไปที่จะแก้กฎหมายมาตรา 112 อย่างจงใจ
ด้วยหนังสือฉบับนี้ ทางกลุ่มคนไทยผู้รักชาติขอเรียกร้องให้ทางผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสและผู้ผลิตรายการตอบโจทย์ ได้หยุดทำการออกอากาศของเทปรายการตอบโจทย์ ในคืนวันที่ 15 มีนาคม 2556 และขอให้ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบได้ชี้แจงให้สังคมได้รับทราบว่า วัตถุประสงค์ของรายการฯ ในวันที่ 12-14 มีนาคม 2556 นั้นคืออะไร ต้องการสื่ออะไรให้คนที่ชมอยู่ทางบ้านได้รับทราบ จึงมีหนังสือฉบับนี้ขึ้นมาเพื่อถามถึงเจตนาของทางสถานีฯ และผู้ผลิตรายการดังกล่าวได้ชี้แจงให้ประชาชนที่รับชมอยู่ทางบ้านและกลุ่มเราได้รับทราบด้วย
มีรายงานว่า ผู้ชุมนุมกลุ่มดังกล่าวได้รวมตัวปักหลักอยู่ในสถานีเพื่อรอคำตอบ ภายหลังเมื่อทางสถานีได้งดออกอากาศเทปรายการตอบโจทย์ประเทศไทยดังกล่าว กลุ่มผู้ชุมนุมจึงได้สลายตัวกลับไป
ทางด้านนายชวรงค์ ลิมป์ปัทมปาณี อดีตนายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย กล่าวแสดงความคิดเห็นในทวิตเตอร์ @chavarong ระบุว่า การงดออกอากาศเทปรายการ “ตอบโจทย์” ตอนสุดท้ายคืนนี้ มีข้อน่าสังเกตหลายประเด็นด้วยกัน ข้อสังเกตแรก รายการนี้มีการบันทึกเทปไว้ล่วงหน้า ฝ่ายเซ็นเซอร์ควรจะประเมินผลกระทบทั้งทางกฎหมายและทางสังคมได้ว่าสมควรออกอากาศหรือไม่ หากไทยพีบีเอสเห็นว่าเนื้อหารายการมีความอ่อนไหวทั้งทางด้านกฎหมายและด้านสังคม ก็ไม่สมควรที่นำมาออกอากาศตั้งแต่แรก
เมื่อได้ตัดสินใจออกอากาศตั้งแต่เทปแรกไปแล้ว ก็ควรที่จะเดินหน้าออกอากาศให้จบ แล้วรอรับผลกระทบที่จะตามมาจากการตัดสินใจออกอากาศไปก่อนหน้านี้ ข้อสังเกตสุดท้ายเป็นเรื่องวิธีการสื่อสารซึ่งชัดเจนว่าข้อสงสัยต่างๆ จะเกิดขึ้นใน social media แต่กลับไม่มีการชี้แจงผ่านช่องทางไทยพีบีเอส ซึ่งทางออกของไทยพีบีเอส หลังประกาศว่าที่ไม่ออกอากาศเพราะต้องทบทวนคือ ต้องมีคำชี้แจงที่ชัดเจนว่างดออกอากาศเพราะเหตุใด
นายกิตติศักดิ์ ปรกติ อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อวามในเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า ไทยพีบีเอสประกาศยุติการเผยแพร่รายการตอบโจทย์ และการสนทนาระหว่างอาจารย์สุลักษณ์ กับอาจารย์สมศักดิ์ ด้วยเหตุผลว่าเพื่อป้องกันความขัดแย้งลุกลาม สะท้อนให้เห็นว่า ผู้บริหารกิจการมีวินิจฉัยอ่อน ไม่ว่าในแง่ของการดำเนินรายการและนำเสนอประเด็นนี้แต่ต้น
การมองว่าการระงับรายการที่กำลังดำเนินอยู่เป็นการระงับข้อขัดแย้งทางความคิดที่อยู่นอกรายการได้ หรือความคิดว่า การระงับรายการเป็นการแสดงความรับผิดชอบทางสังคม ด้วยความเคารพ ผมเห็นว่าทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นถึงความอ่อนแอทางสังคมในการเปิดใจให้กว้าง รับฟังความคิดเห็นซึ่งกันและกันอย่างมีวิจารณญาณ
“ถ้าสังคมไทยผ่านจุดนี้ไปโดยการใช้เหตุผลอย่างสันติ อย่างถ้อยทีถ้อยอาศัยไม่ได้ เราจะอาศัยการสื่อสารระหว่างกัน ร่วมมองปัญหา ถกเถียง โต้แย้ง หากข้อสรุป หรือเพื่อแสวงหาความร่วมมือร่วมใจ ปรับตัวเข้ากับความเปลี่ยนแปลงทางสังคมในเรื่องอื่นๆ ที่โถมเข้าหาเราได้ทันหรือ?” นายกิตติศักดิ์ กล่าว
สอดคล้องกับควมเห็นของนายวันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์ อดีตรองผู้อำนวยการไทยพีบีเอส โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า “เมื่อวานไทยพีบีเอสกล้าหาญมากด้วยการจุดดวงไฟเล็กๆ ขึ้นมาท่ามกลางความมืดมิด เพื่อเป็นการเปิดพื้นที่ให้แก่ทุกฝ่ายที่เห็นต่างกัน แต่วันนี้กลับเป่ามันดับด้วยมือตัวเอง เกิดอะไรขึ้นกับทีวีสาธารณะหรือ”