“สมศักดิ์ เจียมฯ” โผล่ไทยพีบีเอส เรียกร้องนิรโทษกรรมผู้ชุมนุมทางการเมืองโดยรวมคนผิดคดีหมิ่นเบื้องสูงเข้าไปด้วย เผยอยากให้ยกเลิกมาตรา 112 แล้วใช้บรรทัดฐานเดียวกับกฎหมายหมิ่นประมาททั่วไป ปากดีบอกพิสูจน์ไม่ได้ว่าคนไทยส่วนใหญ่รักสถาบันฯ เนื่องจากอยู่ภายใต้บรรยากาศที่ไม่สามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างเต็มที่
วานนี้ (12 มี.ค.) นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อาจารย์คณะศิลปศาสตร์ ภาควิชาประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ “ตอบโจทย์ประเทศไทย” ทางสถานีไทยพีบีเอส ดำเนินรายการโดยนายภิญโญ ไตรสุริยธรรมา
โดยนายสมศักดิ์กล่าวถึงเรื่องนิรโทษกรรมว่า ตนเสนอว่าควรแยกคนระดับแกนนำกับชาวบ้านธรรมดาออกจากกัน โดยพื้นฐานความขัดแย้งทางการเมืองใหญ่ๆ ที่ไหนก็ทำแบบนี้ ถ้าจะมีปัญหาทางกฎหมายควรจัดการเฉพาะคนที่มีบทบาทรับผิดชอบเป็นหลัก ผู้ชุมนุมนั้นไม่ว่าเป็นประเภทใด เช่น จลาจล ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ควรนิรโทษกรรมให้หมด ไม่ต้องทำเป็นหลายขั้นตอนแบบข้อเสนอของนิติราษฎร์ ส่วนพวกแกนนำก็ดำเนินคดีต่อไปถ้าคิดว่ามีความผิด ทั้งฝ่ายเสื้ออแดงและฝ่ายเสื้อเหลือง
เมื่อถามว่าการนิรโทษฯถูกผูกโยงกับจุดที่อ่อนไหวที่อาจเกี่ยวข้องกับมาตรา 112 มองเส้นที่อ่อนไหวนี้อย่างไร นายสมศักดิ์กล่าวว่า ควรนิรโทษกรรมประเด็นนี้ด้วย เพราะหลายปีที่ผ่านมาที่มีคดีนี้เยอะๆ เพราะส่วนหนึ่งมาจากความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้นแน่ๆ ฉะนั้นถ้าเราจะไม่ให้ความขัดแย้งรุนแรงมากเกินไป ขยายวงกว้างเกินไป ควรรวมคดีแบบนี้เข้าไปด้วย เพราะคนที่โดนมาตรา 112 ส่วนใหญ่เป็นคนระดับชาวบ้าน และจำกัดความขัดแย้งให้อยู่เฉพาะในระดับแกนนำ
เมื่อถามว่าในประเทศไทยมีคนรักสถาบันฯ อยู่สูงมาก พอผูกเข้าไปคนที่ไม่ยอมจะมีเกินครึ่งประเทศ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนไม่เคยยอมรับจุดเริ่มต้นของการตั้งประเด็นแบบนี้ เรื่องสถาบันกษัตริย์จริงๆ แล้วเราไม่รู้หรอกคนรักเท่าไหร่ คนไม่รักเท่าไหร่ เพราะเรามีกฎหมายมาตรา 112 นี้อยู่ การแสดงที่ดูเหมือนจะไม่รักก็โดนแล้ว ในทางปฏิบัติที่พูดว่าเกินครึ่งประเทศ ตนถามว่าพิสูจน์อย่างไรว่าเกินครึ่งประเทศ
ผู้ดำเนินรายการกล่าวว่า ถ้าทำโพลผู้ที่รักสถาบันฯ อาจสูงถึง 90 เปอร์เซ็นต์ นายสมศักดิ์กล่าวว่า เวลาเราทำโพลเราต้องทำภายใต้บรรยากาศที่ให้คนแสดงความคิดเห็นได้อย่างเต็มที่ เช่น ทำโพลชอบ - ไม่ยอม น.ส.ยิ่งลักษณ์ มันอยู่ในภายใต้บรรยากาศที่แสดงความคิดเห็นอย่างไรก็ได้ เช่นเดียวกับในประเทศอังกฤษ ที่สามารถพูดได้ว่าไม่เอาสถาบันฯ แต่ของไทยทำไม่ได้ ตราบเท่าที่มีมาตรา 112 อยู่ เราพูดเรื่องนี้ไม่ได้เลย
เมื่อถามว่าจากสามัญสำนึกคิดว่าคนรักสถาบันฯ เกินครึ่งหรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวตอบว่า ไม่ทราบ จริงๆ แล้วตนก็ไม่เชื่อว่าใครสามารถพูดได้จริงๆ เอาง่ายๆ คนเลือกพรรคของ พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งๆ ที่มีการโจมตีว่าเป็นพรรคล้มเจ้า เราจะบอกอะไรได้ แสดงว่าคนไม่แคร์เรื่องนี้หรืออย่างไร ถึงที่สุดแล้วตราบเท่าที่เราไม่มีเสรีภาพเต็มที่ มันไม่มีประโยชน์เลยที่จะพูดอย่างนี้
ต่อข้อถามที่ว่ามีข้อเสนอต่อมาตรา 112 อย่างไร นายสมศักดิ์กล่าวว่า ยกเลิกเลย แล้วใช้บรรทัดฐานเดียวกับกฎหมายหมิ่นประมาทธรรมดาทั่วไป
เมื่อถามว่าแล้วจะคุ้มครององค์ประมุขแห่งรัฐอย่างไร นายสมศักดิ์กล่าวว่า ไอเดียที่ว่าประมุขแห่งรัฐต้องมีกฎหมายพิเศษคุ้มครองในเรื่องการถูกวิพากษ์วิจารณ์เป็นเรื่องที่ขัดแย้งต่อประชาธิปไตยและโลกสมัยใหม่ เอาเข้าจริงๆ แล้ว เรื่องวิจารณ์คนในวงการปกครองต้องยืดหยุ่นยิ่งกว่าคนธรรมดาด้วยซ้ำ
เมื่อถามว่าที่วิพากษ์วิจารณ์สถาบันฯเป้าหมายคืออะไร ต้องการนำไปสู่การล้มล้างสถาบันฯหรือไม่ นายสมศักดิ์ ตอบว่า เนื่องจากทางกฎหมายตนพูดมากกว่านี้ไม่ได้ คำตอบคือเสนอให้ปฏิรูปสถาบันฯ ส่วนอนาคตหลังปฏิรูปเป็นได้แบบอังกฤษค่อยถามคนไทยเอา-ไม่เอา แต่การถามในปัจจุบันมันไม่มีความหมายอะไรเลย ซึ่งถ้าเป็นการถามภายใต้บรรยากาศที่มีเสรีภาพจริงๆ แล้วผลออกมาคนส่วนใหญ่เอา ตนก็สามารถอยู่ร่วมกับฝ่ายที่เอาได้ ไม่มีปัญหาอะไร
เมื่อถามว่าเชื่อหรือว่าจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงมาตรา 112 นายสมศักดิ์กล่าวว่า ถ้าตนตายภายในไม่กี่ปีคงไม่เห็น แต่เท่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ที่มีการพูดกันอย่างกว้างขวางมาก การเปลี่ยนแปลงในการรับรู้ของคน มากกว่าที่ตนประเมินไว้เสียอีก
