เลขาธิการนายกฯ เผย “ปู” สั่งตีกลับโครงการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี 3 พันคัน ชี้หากก๊าซธรรมชาติลดลงต้นทุนจะแพงขึ้น ให้จัดทำแผนรองรับให้ชัด แต่ไม่ค้านหลักการเพิ่มรถเมล์ ขณะเดียวกัน รมว.คมนาคมเตรียมเสนอแผนพัฒนารถเมล์ร้อนและปรับอากาศ
วันนี้ (8 มี.ค.) นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ทุกวันศุกร์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีจะเรียกประชุมรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาวาระที่จะเข้าสู่การประชุม โดยสัปดาห์นี้ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม ได้เสนอโครงการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวีจำนวน 3,000 คัน เข้าสู่วาระการประขุม ครม.วันอังคารที่ 12 มี.ค. ดังนั้น นายกรัฐมนตรีจึงเชิญนายชัชชาติ พร้อมด้วยนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เลขาธิการคณะรัฐมนตรี เลขาสภาพัฒน์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือ ซึ่งทั้งหมดในหลักการไม่มีปัญหา
ขณะเดียวกัน การที่จะจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวีมาจะมีเรื่องของแก๊สที่จะใช้ โดยสรุปคือจะเอาพลังงานอะไรมาเป็นตัวขับเคลื่อนรถเมล์เหล่านี้ จึงให้กระทรวงคมนาคมไปคุยกับกระทรวงพลังงาน และนายกิตติรัตน์ต้องนำไปเข้าหารือในที่ประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้มีแผนรองรับในเรื่องของพลังงานให้ชัดเจน เพราะเรื่องของพลังงานที่จะนำมาขับเคลื่อนเกี่ยวโยงกับเรื่องของต้นทุน หากแก๊สมีลดลงต้นทุนจะแพงขึ้น ผลกระทบจะไปตกอยู่ที่ผู้บริโภค ในที่สุดจะกระทบต่อราคาค่ารถเมล์
นายสุรนันทน์กล่าวอีกว่า นายกรัฐมนตรีจึงสั่งให้ทำแผนรองรับให้ชัด แต่ในหลักการที่จะเพิ่มจำนวนรถเมล์ไม่มีปัญหา เพราะทุกวันนี้ ขสมก.ประสบภาวะขาดทุนสะสม ขณะเดียวกัน นายชัชชาติต้องการที่จะเสนอแผนเกี่ยวกับเรื่อบการพัฒนารถเมล์ร้อนและรถเมล์ปรับอากาศ โดยทั้งหมดต้องมีการจัดระบบและเสนอให้อยู่ในแผนเดียวกัน ซึ่งนายกฯ สั่งให้นำกลับไปทำแผน โดยให้ระยะเวลา 2 สัปดาห์ ซึ่งนายกิตติรัตน์ก็รับไปดำเนินการ