พท.ปัดเอี่ยวแดงยื่นนิรโทษฯ - “มาร์ค” สับดันเข้าสภาเปิดช่องฟื้น กม.ปรองดอง

โฆษกเพื่อไทยอ้าง ส.ส.ก๊วนแดงยื่น พ.ร.บ.นิรโทษกรรมไม่เกี่ยวพรรค ยันยังไม่มีข้อสรุป จ่อเรียก “เจริญ” ถกที่ประชุมพร้อมโจก นปช. - “หมอตุลย์” ซัดพรรครัฐเดินหน้าแค่ช่วยพวกพ้อง ด้าน “มาร์ค” สับดันเข้าสภาเปิดช่องรื้อพิจารณา พ.ร.บ.ปรองดองอีก งงฟื้นความขัดแย้งทำไม ย้ำจุดยืนค้านปล่อยผีคดีอาญา แนะรัฐคิดเรื่องอื่นบ้าง



วันนี้ (7 มี.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีกลุ่ม ส.ส.21 คนของพรรคเพื่อไทย ที่นำโดยนายวรชัย เหมมะ ส.ส.สมุทรปราการ เข้ายื่นเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแก่ผู้กระทำความผิดจากการชุมนุมทางการเมือง ต่อนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ว่าการเข้ายื่นดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวกับที่ประชุมพรรคส่วนกลาง แต่เป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส.ที่รวมตัวเสนอกฎหมายตามมาตรา 152 ซึ่งสามารถทำได้ โดยในส่วนของพรรคยังไม่มีความเห็นหรือข้อสรุปในเรื่องนี้

นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ในวันจันทร์ที่ 11 มี.ค.จะมีการประชุมพรรค และจะเชิญนายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาเข้าหารือร่วมหารือเกี่ยวกับกฎหมายนิรโทษกรรมในส่วนที่นายเจริญเป็นตัวกลางอยู่ ซึ่งนอกจากนี้จะเชิญผู้เกี่ยวข้องในกลุ่มต่างๆ เพื่อรับฟังข้อคิดเห็นจากหลายฝ่าย โดยจะมีในส่วนของกลุ่มแนวร่ามประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) อาทิ นางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธาน นปช.นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช.และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์และแกนนำ นปช.เข้าร่วมด้วย ส่วนกลุ่มอื่นอย่างกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พรรคก็ต้องการให้เข้ามาร่วมหารือ แต่หากเชิญไม่ทราบว่าจะมาหรือไม่

ด้าน นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ แกนนำกลุ่มเสื้อหลากสี กล่าวถึงกรณีที่นายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร เตรียมหารือกฎหมายนิรโทษกรรมกับกลุ่มต่างๆ ว่า นายเจริญไม่ได้มีการเชิญตนไปหารือ ส่วนตัวไม่ได้สนใจ สำหรับการนิรโทษกรรมตนอยากเสนอว่าควรเร่งรัดกระบวนการยุติธรรม จากนั้นเมื่อมีคำพิพากษาของศาลแล้ว มีชื่อใครได้รับโทษบ้างค่อยมีพูดถึงการนิรโทษกรรมจะดีกว่า เพราะขณะนี้พรรคเพื่อไทยพยายามเดินหน้าก็มีเหมือนช่วยพวกพ้องตัวเองที่มาชุมนุมช่วงปี 2552-2553 ดังนั้นที่มีการย้อนถึงปี 2549 ก็แค่แก้เกี้ยวเท่านั้น

ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่ ส.ส.เสื้อแดงรวมตัวกันเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ว่า การเสนอร่างกฎหมายดังกล่าวเข้าไปเท่ากับเปิดโอกาสให้มีการนำร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง 4 ฉบับค้างอยู่ในสภากลับขึ้นมาพิจารณาใหม่และมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดความขัดแย้ง เนื่องจากจะมีการเสนอให้รวมร่างพิจารณาโดยอ้างว่าเป็นกฎหมายที่มีหลักการเดียวกัน ซึ่งการผลักดันเรื่องนี้ก็ไม่มีอะไรอยู่นอกเหนือความคาดหมาย เนื่องจากมีความชัดเจนมาตั้งแต่ต้นว่ารัฐบาลจะผลักดันเรื่องนิรโทษกรรมหลังการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. เพราะคนที่อยากได้ก็อยากได้เร็วที่สุด จึงต้องถามว่าทำไมต้องเอาความขัดแย้งใหม่มาสู่บ้านเมือง ทั้งนี้ ไม่ว่ารัฐบาลจะใช้กฎหมายฉบับไหน ไม่ว่าจะเป็นร่างของ คอ.นธ. หรือ พ.ร.ก.ของแกนนำเสื้อแดง ก็ล้วนแต่เป็นความพยายามเดียวกัน ซึ่งตนเตือนไปแล้วว่าถ้ายังเดินหน้าโดยคำนึงถึงเฉพาะผลประโยชน์บางกลุ่มก็จะถึงทางตันอยู่ดี แต่ถ้าจะเดินไปในทางที่ถูกต้องก็มีวิธีการอยู่ที่สร้างความปรองดองขึ้นมาได้ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์มีจุดยืนเหมือนเดิมคือคัดค้านการนิรโทษกรรมคดีอาญาและคนโกง ทั้งนี้ตนเชื่อว่าคนส่วนใหญ่เห็นแล้วว่าหากไม่มีการหยิบเรื่องนี้ขึ้นมาความขัดแย้งก็จะลดลงไปมาก มีแต่คนที่มีปัญหาที่ต้องการให้พิจารณาเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามคิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร คงไม่หยุดแต่จะพยายามหาทางเดินหน้าต่อ

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯ และรัฐบาลจะรับฟังแล้วยอมเปลี่ยนแปลงแนวคิดหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนไม่ทราบต้องถามนายกรัฐมนตรี แต่อยากให้รัฐบาลคิดถึงเรื่องอื่นมากกว่าเพราะมีหลายประเด็นที่รัฐบาลต้องแก้ไข แม้แต่เรื่องภาคใต้ที่กำลังทำอยู่ก็มีความห่วงใยกันมากที่ต้องช่วยกันประคับประคองให้ไปในทิศทางที่ไปได้