xs
xsm
sm
md
lg

“เต้น ไพร่เทียม” อ้าง “พงศพัศ” แพ้เพราะ ปชป.ได้คะแนนมากกว่า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ (ภาพจากแฟ้ม)
“ณัฐวุฒิ” รับความพ่ายแพ้ ไม่โทษชื่อ “ตู่” โผล่รองผู้ว่าฯ ทำเรตติ้งฉุด ชี้ทุกฝ่ายต้องยอมรับการตัดสินใจของประชาชน ระบุที่แพ้เพราะคะแนนพรรคประชาธิปัตย์ได้มากกว่าเท่านั้น ยันพอใจแล้วได้คะแนนกว่าล้านเสียง

วันนี้ (5 มี.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงกรณีที่มีชื่อนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เป็นรองผู้ว่ากรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) ทำให้พรรคเพื่อไทยเสียเครดิตในการเลือกตั้งว่า เมื่อผลการเลือกตั้งปรากฏออกก็เป็นหน้าที่ของพรรคเพื่อไทยและผู้ลงสมัครทุกคนต้องเคารพการตัดสินใจของประชาชน ตนเรียนว่าเมื่อคะแนนออกมาเป็นเช่นนี้เป็นหน้าที่ของพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อได้รับความไว้วางใจก็ต้องเร่งผลักดันนโยบายออกมาสู่การปฏิบัติให้สมกับที่ประชาชนตัดสินใจเลือก ส่วนพรรคเพื่อไทยจะทำหน้าที่ ทำงาน ผลักดันนโยบาย และมีกระบวนการต่างๆ เพื่อให้เกิดความเข้าใจและความไว้วางใจในหมู่ประชาชนชาวกรุงเทพให้มากขึ้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า คนในพื้นที่ กทม.ส่วนใหญ่จะไม่เอาพรรคเพื่อไทยเลย นายณัฐวุฒิกล่าวว่าจะไปสรุปอย่างนั้นไม่ได้เพราะได้รับคะแนนเสียง 1 ล้านคะแนน ถือว่าพรรคเพื่อไทยเองก็พอใจในระดับหนึ่ง เพียงแต่ว่าไม่ได้รับคะแนนมากพอที่จะได้เป็น ผู้ว่าฯ กทม.เท่านั้นเอง เมื่อผลการเลือกตั้งปรากฏก็เป็นหน้าที่ที่ทุกฝ่ายต้องเคารพคนที่ได้รับการเลือกตั้งก็ต้องทำงานให้ดี คนที่ไม่ได้รับการเลือกตั้งต้องทำงานให้เข้มข้นมากขึ้น เพื่อให้ประชาชนได้รับถึงความมุ่งมั่นความตั้งใจ

“ถ้าจะให้วิเคราะห์ประเมินสาเหตุที่ผลออกมาเป็นเช่นนี้ ผมคิดว่าน่าจะเป็นวาระที่พรรคเพื่อไทย ต้องจับเข่าคุยกันภายในพรรค วิเคราะห์สถานการณ์ประเมินเหตุปัจจัยต่างๆ ให้ครบถ้วนเพื่อที่จะเดินหน้าทำงานกันต่อไป ถ้าถามผมว่าเหตุที่พรรคเพื่อไทยมีคะแนนเป็นเช่นนี้ หรือทำไมพรรคเพื่อไทยถึงแพ้การเลือกตั้ง สำหรับผมก็มีเหตุหลักอยู่ประการเดียวคือพรรคประชาธิปัตย์ได้คะแนนมากกว่าก็ต้องได้รับชัยชนะ ส่วนใครที่ได้รับคะแนนน้อยกว่าต้องยิ้มรับความพ่ายแพ้และทำงานของเราต่อไปตามแนวที่เราเชื่อมั่น” นายณัฐวุฒิกล่าว

เมื่อถามว่าหลังจากนี้พรรคเพื่อไทยจะกำหนดยุทธศาสตร์ใหม่หรือไม่ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ต้องทำงานกันต่อ เราจะไปย่อท้อไม่ได้ เพราะการสร้างความเชื่อมั่น สร้างความยอมรับ สร้างความเชื่อถือในหมู่ประชาชนเป็นหน้าที่ของพรรคการเมืองทุกพรรค และพรรคเพื่อไทยเองวันนี้แม้ยังไม่ได้รับชัยชนะ ก็ต้องมีการพูดคุยกัน ต้องบูรณาการความคิด และข้อมูลในสนามเลือกตั้งที่ผ่านมาและเดินหน้ากันต่อไป

ถามต่อว่าภายหลังผลคะแนนเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ออกมา ได้มีการพูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แล้วหรือไม่ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ยังไม่ได้พูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งแกนนำคนอื่นๆ ก็ยอมรับการตัดสินใจของคนกรุงเทพฯ ถือว่าในสนามการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ของพรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ และผู้สมัครคนอื่นๆ ได้ข้อยุติแล้วในสมัยนี้โอกาสข้างหน้าค่อยมาว่ากันใหม่ สุดท้ายประชาชนตัดสินใจอย่างไรต้องยอมรับ

เมื่อถามว่า ในกระแสโลกออนไลน์ระบุเพราะนายณัฐวุฒิพูดบนเวทีถึงเหตุการณ์การชุมนุม แล้วมีการเผาบ้านเผาเมืองเมื่อปี 2553 ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้แพ้การเลือกตั้ง นายณัฐวุฒิกล่าวว่า เมื่อผลการเลือกตั้งออกมา สุดแท้แต่ว่าใครจะไปหยิบประเด็นไหนมาอธิบายหรือตั้งข้อสังเกต ตนได้พูดตอนต้นไปแล้วว่า เมื่อผลออกมาแล้วก็เป็นหน้าที่ที่ทุกฝ่ายต้องเคารพและยอมรับ ตนยืนยันสิ่งที่ได้ปราศรัยเป็นข้อเท็จจริง แล้วแต่ใครนำมาจะอธิบายเพื่อมาขยายผลของชัยชนะ แต่สำหรับผู้แพ้ก็มีหน้าที่น้อมรับ และพยายามทำงานให้ประชาชนเชื่อมั่นให้ได้

เมื่อถามว่า หลังจากนี้จะมีการประเมินโพลที่พรรคเพื่อไทยลงไปทำหรือไม่ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า เห็นโพลหลายสำนักประเมินตัวเองอยู่ ซึ่งต้องดูว่าเมื่อถึงเวลาหนึ่งกลายเป็นว่าโพลที่สำรวจ ผลการเลือกตั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ ค่อนข้างจะสะท้อนว่าแตกต่างจากข้อเท็จจริง ในขณะที่โพลที่ทำในพื้นที่ต่างจังหวัด ค่อนข้างจะมีน้ำหนักน่าเชื่อถือได้มากกว่า คงต้องเอาสาเหตุนี้มาวิเคราะห์กันด้วยว่ามีความแตกต่างกัน และเกิดขึ้นได้เพราะอะไร ทั้งนี้การประเมินผลการเลือกตั้งในส่วนของพรรคขึ้นอยู่กับคณะยุทธศาสตร์พรรคและผู้เกี่ยวข้องว่าจะประชุมเมื่อไร่ และหากเชิญตนไปร่วมประชุม ตนก็จะมีมุมมองไปแลกเปลี่ยนด้วย และเข้าใจว่าน่าจะรอนายกรัฐมนตรีกลับมาจากต่างประเทศก่อน แต่ก็แล้วแต่ว่าคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคจะตัดสินใจ


กำลังโหลดความคิดเห็น