xs
xsm
sm
md
lg

“ประยุทธ์” ขอเลิกติแผนแก้ไฟใต้ ชี้ต้องลองถึงรู้ โยน รบ.แจงเขตปกครองพิเศษ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก(แฟ้มภาพ)
ผบ.ทบ.รับทีมแก้ไฟใต้ 5 กลุ่มขัดคอกัน วอนยุติช่วยกันพัฒนา แจงทำอิสระไม่ได้ต้องช่วยกัน เดินตามยุทธศาสตร์รัฐ ชี้หาทางออกความขัดแย้งคือปัญหา ขอใจเย็นๆ อย่าเพิ่งติปล่อยให้ทำงาน ร้อง ปชช.เฝ้าระวังมากขึ้น ย้ำกองทัพไม่หนุนแยกดินแดน โยน รบ.เคลียร์เองตั้งเขตปกครองพิเศษ ยันไม่จัดการแบบขอไปที แจงข้อเรียกร้องโจรใต้ต้องคุยบนโต๊ะ ชูทั่วโลกทำกัน รับฟัง ปชป. แต่ต้องลองถึงจะรู้วิธีดับไฟแบบใหม่ ขออย่าโยง “แม้ว”


วันนี้ (5 มี.ค.) ที่สนามเสือป่า มูลนิธิอุทกพัฒน์ฯ เมื่อเวลา 11.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวถึงกรณีที่มีการเผายางรถยนต์สร้างสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้กว่า 50 จุดว่า สถานการณ์ยังคงต้องเกิดขึ้น ซึ่งการแก้ไขปัญหาภาคใต้มีหลายมิติ ความขัดแย้งต้องเกิดขึ้นแน่นอนในหลายส่วน ทั้งในส่วนของเจ้าหน้าที่ที่เดินกันหลายทาง งานในภาคใต้มี 5 กลุ่มงาน ซึ่งทั้ง 5 กลุ่มงานนี้เดินไม่ได้ 100% เพราะเกิดจากคนบางกลุ่ม ไม่พึงพอใจ ต้องการให้ใช้ความรุนแรงแก้ไขปัญหา และเรียกร้องในสิ่งที่ตนเองพึงพอใจ ทั้งนี้ คิดว่าวิธีการดีที่สุดคือเร่งดำเนินการในงานทั้ง 5 กลุ่ม ทั้งการพัฒนาคุณภาพชีวิต การศึกษา รวมถึงงานรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน กระบวนการยุติธรรม การเปิดเวทีพูดคุยเพื่อแสวงหาทางออก

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า ในฐานะที่ดูแลรับผิดชอบงานด้านความมั่นคง เราจะทำงานโดยอิสระไม่ได้ ต้องทำควบคู่กันไปว่าจะทำให้พื้นที่ไหนปลอดภัยก่อนจะไปเน้นงานพัฒนา และไปสร้างความเข้มแข็งให้ตำรวจและพลเรือนในการดูแลพื้นที่ได้ด้วยตนเอง ตอนนี้ทหารยังดูแลพื้นที่เป็นหลัก ตามนโยบายรัฐบาล ซึ่งการแก้ไขปัญหาทั้งหมดนั้นต้องดำเนินตามยุทธศาสตร์ของรัฐบาลที่กำหนดโดย สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ตอนนี้ที่เป็นปัญหาที่สุด คือ ยุทธศาสตร์ที่ 8 คือการแสวงหาทางออกท่ามกลางความขัดแย้ง

“ซึ่งผมขอว่าเราอย่าขัดแย้งกันเองได้หรือไม่ เพราะตอนนี้ความขัดแย้งมีมากอยู่แล้ว ซึ่งการแก้ไขปัญหาตรงนี้ สมช.ได้รับมอบหน้าที่จากรัฐบาลในการแก้ไขปัญหา เขาก็เดินในส่วนของเขาไป ส่วนจะสำเร็จหรือไม่ ก็ต้องรอดู แต่ถ้ามาพูดกันวันนี้ว่าใช่หรือไม่ ถูกหรือไม่ถูก ได้หรือไม่ได้ แล้วจะทำอะไรกันได้ เพราะตอนนี้ได้ทำไปแล้ว และก้าวเดินกันไปแล้ว อีกทั้งเป็นยุทธศาสตร์ที่กลั่นกรองโดยสภาฯ มาแล้วเช่นกัน ซึ่งจะใช่หรือไม่ใช่ก็ค่อยไปว่ากัน ซึ่งผมก็ไม่เคยบอกว่าถูกตัว หรือผิดตัว ไม่เคยตอบว่าใช่หรือไมใช่ เพราะผมเป็นเจ้าหน้าที่ต้องทำตามนโยบายและยุทธศาสตร์ ไม่ใช่จะทำหรือไม่ทำไม่ได้ เพราะเป็นยุทธศาสตร์ที่กำหนดโดยคณะทำงานรัฐบาล วันนี้ขอให้ใจเย็นๆ” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ผู้บัญชาการทหารบกกล่าวด้วยว่า อยากเรียกร้องให้ประชาชนได้เฝ้าระวังให้มากขึ้น ซึ่งได้สั่งการให้ทุกพื้นที่ว่าเพิ่มความเข้มงวดให้มากขึ้นดูแลพื้นที่ให้มากขึ้น ในพื้นที่มีหลายกลุ่ม ซึ่งต้องมีคนไม่พอใจ และคิดตรงกันบ้างไม่ตรงกันบ้าง แต่การแก้ไขปัญหาต้องใช้เวลาและความอดทนพอสมควร วันนี้อย่าเพิ่งติกันเลย ต้องช่วยกันทำไป อย่างน้อยก็เป็นวิธีหนึ่งที่ทำให้สถานการณ์ชายแดนภาคใต้เบาบางลง ซึ่งช่วงแรกๆ หลังริเริ่มการพูดคุยอาจจะเกิดความรุนแรงขึ้น แต่ในส่วนของเราก็ต้องเพิ่มมาตรการเพิ่มขึ้น

เมื่อถามว่า กองทัพรับได้หรือไม่ถ้ากลุ่มผู้ก่อความไม่สงบเรียกร้องให้พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นเขตปกครองพิเศษ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ทุกอย่างเป็นไปตามกติกา และกฎหมาย ซึ่งเราได้แจ้งไปแล้วว่าต้องไม่แบ่งแยกดินแดน ไม่สนับสนุนการใช้ความรุนแรง ส่วนการจะเขียนเป็นเขตปกครองพิเศษหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับรัฐบาล เมื่อเขาเสนอมาต้องดูเหตุผลและความจำเป็นว่าเป็นไปได้หรือไม่ และถ้าทำไปแล้วจะยุติแค่นั้นหรือไม่ หรือจะขยายไปสู่จุดสุดท้าย ตรงนี้เราไม่รู้เพราะเป็นเรื่องอนาคต อย่าไปพูดถึงสิ่งที่ยังมาไม่ถึง ถ้าเราหยิบตรงนี้มาพูดก็เดินไปไม่ได้ แต่อย่าลืมว่าสิ่งต่างๆ เหล่านี้เราคิดอยู่แล้ว ไม่ต้องห่วง ไม่ใช่ว่าอะไรก็ได้ ที่ทำให้สถานการณ์จบสิ้น หรือให้ยุติ ซึ่งไม่ใช่ เราต้องมองว่าไม่ใช่ยุติปัญหาวันนี้ เพื่อให้เกิดปัญหาวันหน้า เราไม่ทำอยู่แล้ว

เมื่อถามว่า จำเป็นต้องฟังเงื่อนไขจากกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เราไม่ได้ฟังจากเขา เราฟังจากรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลมอบหมายให้ใครไปพูดคุยเจรจาก็ไปพูดคุย แต่ไม่ใช่ว่าข้อเรียกร้องมาถึง แล้วรัฐบาลจะดำเนินการตามที่เขาขอมาทันที ต้องนำเข้าสู่กระบวนการกฎหมาย มาตรการต่างๆ รวมถึงเข้าสู่สภาฯ ด้วย ซึ่งไม่ง่ายนัก ถ้าฝ่ายหนึ่งต้องการสิ่งใดเขาก็ต้องเร่งดำเนินการให้เกิดความกดดันให้มากขึ้น เราก็อย่ามากดดันกันเอง และลดความกดดันลง เพื่อจะได้มีการไตร่ตรองใคร่ครวญอย่างดีที่สุด ไม่มีใครที่ทำได้โดยไม่ผ่านกระบวนการ

“อย่ามาบอกว่าทำอย่างนั้นอย่างนี้ ยกตรงนั้นตรงนี้ให้ใครมันไม่ได้ ทำไม่ได้ เพราะคนเป็นร้อยเป็นพันจะไปแอบทำก็ไม่ได้ ทุกอย่างต้องนำมาพูดคุยกันบนโต๊ะ ภายใต้กฎหมาย สภาฯ รัฐธรรมนูญ ส่วนข้อท้วงติงจากพรรคประชาธิปัตย์นั้น เราก็ฟังหมด แต่คิดว่าคงไม่ใช่เรื่องการเมืองเพราะทุกคนห่วงใยบ้านเมือง กลัวว่าถ้าทำอย่างนี้แล้วจะเกิดเหตุการณ์หรือไม่ ซึ่งผมก็อยากเรียนว่าถ้าไม่ลองทำหรือเริ่มทำ ก็ไม่มีหนทางแก้ไขปัญหาใหม่ๆ ซึ่งมียุทธศาสตร์อยู่ หากเราทำในเรื่องรักษาความปลอดภัยในชีวิต และ ทรัพย์สิน ในการป้องกัน ปิดล้อม ตรวจค้น ซึ่งเราทำกันมาตั้งแต่ปี 2547 ก็ได้ในระยะแรก คือยุติความขัดแย้งไปได้ในระดับหนึ่ง แต่ไม่ใช่ทั้งหมด ต้องนำส่วนอื่นมาช่วยด้วย ถามว่าเขาต้องการอะไร และใครเป็นคนทำ นั่นคือสิ่งที่ก้าวหน้า” พล.อ.ประยุทธ์ระบุ

เมื่อถามว่า เชื่อทฤษฎีว่าเหตุการณ์จะยุติลงบนโต๊ะเจรจาหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องเชื่อหรือไม่เชื่อ แต่เป็นเหตุเป็นผล ทั้งโลกก็ทำแบบนี้ แต่เหตุการณ์จะจบ 100% หรือไม่ ซึ่งตนคิดว่ามันไม่จบ แต่ยุติความรุนแรงได้ ซึ่งทั้งโลกก็มีความขัดแย้งกันหมด เมื่อมีปัญหาก็ต้องพูดคุยกันบนโต๊ะ พูดคุยกันเสร็จอาจไม่ยุติความขัดแย้ง 100% แต่ยุติการต่อสู้และความรุนแรง และ มาแก้ไขปัญหากันบนเวที วันนี้อย่าติติงกันมากนักเพราะจะมีปัญหาหลายด้าน โดยเฉพาะยุทธศาสตร์ ซึ่งคนทำก็ลำบากใจ และ ก็ไม่ได้เข้าข้างใคร และไม่มีใครเข้าข้างใครได้อยู่แล้ว ต้องทำอย่างไรให้ประเทศชาติปลอดภัย เดินไปข้างหน้า วันนี้ตนจะตอบอีกทางนึง แต่อีกทางนึงก็ไม่ได้ ซึ่งตนก็จะต้องยืนในหลักการและ ทฤษฎีของตนเอง รวมถึงคณะทำงานที่เราทำอยู่ ไม่ใช่ทำคนเดียว

เมื่อถามว่า ที่คนหวาดระแวงกัน เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้ามาเกี่ยวข้องกับการพูดคุยกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบด้วย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ต้องหยุดเรื่องพวกนี้เอาไว้ก่อน ตนจะไม่กล่าวถึงคนอื่น เราแก้ไขปัญหาของเราด้วยกลไกของรัฐ คนอื่นใครจะช่วยก็ว่าไป ซึ่งทุกอย่างต้องทำตามกฎหมาย


กำลังโหลดความคิดเห็น