“บิ๊กบัง” แนะให้ผู้นำศาสนาคุมคนสองสัญชาติ ชูศาสนา-ผู้หญิง-การศึกษา แก้ไฟใต้

ผบ.สำนักงบฯ ศอ.บต.ถก กมธ.ทหาร งบชายแดนใต้ เผยปี 56 กอ.รมน.ดู วางงบ 57 ประมาณ 13 ล้าน รับโจรใต้ลดช่องป่วนแคบลง มุ่งโจมตี จนท. มีช่องว่างทำผิด กม. อ้าง ปชช.หนุนสันติภาพ พร้อมจับมือ ขรก.พัฒนา แม้ไฟยังโหม “สนธิ” ย้ำแก้ไฟใต้ต้องคุมคนสองสัญชาติให้อยู่ ให้ผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่นช่วย ปลุกผู้ปกครองรับผิดชอบลูกเรื่องศาสนา ใช้ผู้หญิงแก้ปัญหา และหนุนการศึกษาฟรีเยาวชน ให้เปิดทัศนคติใหม่

วันนี้ (21 ก.พ.) ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร ที่มี พล.อ.สมชาย วิษณุวงศ์ ส.ส.กาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย เป็นประธาน ได้พิจารณาประเด็นงบประมาณในส่วนการแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน โดยนายลือชัย เจริญทรัพย์ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ประจำปีงบประมาณ 56 นั้น ให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรเป็นหน่วยงานหลักในการรับผิดชอบงานด้านความมั่นคง โดยการแก้ไขปัญหาระหว่างปี 55-57 มีวงเงินงบประมาณรวมทั้งสิ้น 13,186.8363 ล้านบาท

จำแนกใน 7 หน่วยงาน ได้แก่ 1. กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน จำนวน 7,260.1144 ล้านบาท 2. กองทัพบกจำนวน 820.7190 ล้านบาท 3. กองทัพเรือ จำนวน 759.5119 ล้านบาท 4. กองทัพอากาศ จำนวน 262.6400 ล้านบาท 5. กองบัญชาการกองทัพเรือจำนวน 83.2654 ล้านบาท 6. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1,798.8346 ล้านบาท 7. กระทรวงมหาดไทย (กรมการปกครอง) จำนวน 2,181.7510 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีงบประมาณด้านการพัฒนาจำนวน7,938.0823 ล้านบาท โดยมีส่วนราชการที่มีแผนงานโครงการภายใต้ยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจำนวน 42 หน่วยงาน โดยที่ ศอ.บต.เป็นหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบในการบูรณาการทั้งหมด

นายลือชัยกล่าวต่อว่า สถานการณ์ในพื้นที่ขณะนี้ยังมีความรุนแรงเป็นระยะ แต่พื้นที่การใช้ความรุนแรงมีขอบเขตที่แคบลง ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในตัวเมือง สถานที่สาธารณะ และเส้นทางคมนาคม ส่วนเป้าหมายการก่อการร้ายมุ่งไปที่เจ้าหน้าที่ของรัฐ และผู้ที่ทำงานให้แก่รัฐ ทั้งนี้ สถานการณ์ความไม่สงบยังส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน รวมทั้งเป็นช่องว่างในการสร้างผลประโยชน์ที่ผิดกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ประชาชนในพื้นที่และภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในทุกระดับต่างสนับสนุนและต้องการเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการพูดคุยเพื่อนำไปสู่สันติภาพที่ยั่งยืน ทั้งนี้ แม้ว่าความรุนแรงที่เกิดขึ้นในรอบปีที่ผ่านมาจะยังเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ทาง ศอ.บต.และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้ผลักดันงานพัฒนาให้เดินหน้าไปได้อย่างต่อเนื่อง

ด้าน พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะที่ปรึกษากรรมาธิการ กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาความรุนแรงในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ถ้าฉันใดก็ตามไม่สามารถคุมคนได้ ฉันนั้นไม่มีทางชนะซึ่งเป็นหลักสูตรที่เหมาเจ๋อตุงเขียนไว้ ดังนั้นจึงต้องคุมคนให้ได้ โดยวิธีการคือทำอย่างไรให้ตัวเลขของคนสองสัญชาติที่ไม่ทราบถึงการเคลื่อนไหวของบุคคลเหล่านี้เลยว่าเดินทางไปประเทศที่ 3 โดยผ่านประเทศมาเลเซียได้อย่างไรให้กลับมาอยู่ที่เจ้าหน้าที่ให้ได้

“สมัยหนึ่งผมเคยให้ผู้นำศาสนาเป็นผู้ตรวจสอบซึ่งสามารถตรวจสอบได้ว่าคนในพื้นที่ของเขาใครออกไปจากพื้นที่บ้าง ไปเรียนที่ไหน อย่างไร และให้โต๊ะอิหม่ามตามมัสยิดต่างๆ รวบรวม ซึ่งขณะนี้ ศอ.บต.เองก็พยายามที่จะเอาใจผู้นำศาสนาเหล่านี้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นผู้นำศาสนาต่างๆ อยู่ในมือศอ.บต.ทั้งหมดเพราะได้รับการดูแลอย่างมาก โดยวิธีการที่ ศอ.บต.มอบภาระกิจที่เป็นการควบคุมประชาชนให้และนำผลกลับมา โดยที่ต้องการมากๆ ก็คือ ถ้าไม่สามารถควบคุมคนได้ ยืนยันได้ว่าไม่มีทางแก้ปัญหาภาคใต้ได้ แต่ถ้าสามารถควบคุมคนได้เมื่อไร สถานการณ์ก็จะดีเอง” พล.อ.สนธิกล่าว

พล.อ.สนธิกล่าวว่า ศอ.บต.ต้องคุมคนให้อยู่ด้วยวิธีการด้านมาตรการทางการปกครองในทุกทาง โดยใช้โครงสร้างการปกครองที่มีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นนักการเมืองท้องที่ ท้องถิ่น อบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำศาสนา มาร่วมมือกันคิดถึงเรื่องการคุมคน เพราะถ้าสามารถคุมคนได้จะทำให้การเคลื่อนไหวของเยาวชนชะงักลง ซึ่งเป็นทฤษฎีทางการทหารที่เป็นการเมือง โดยใช้การเมืองให้มากแต่ขอให้มีเทคนิคและเทคติคคือสิ่งสำคัญจะทำให้สามารถ ชนะได้โดยไม่ต้องรบ

พล.อ.สนธิกล่าวต่อว่า เรื่องที่เป็นอุปสรรคใน 3 จังหวัดขณะนี้ ประการแรกจะเห็นว่าเยาวชนมุ่งไปที่ศาสนาเสียเป็นส่วนใหญ่ เพราะว่าเป็นความเชื่อ เนื่องจากศาสนาอิสลามความรับผิดชอบต่อการเรียนรู้ศาสนาเป็นภาระของพ่อแม่ ต้องรับผิดต่อการไม่ปฏิบัติตาม ดังนั้นทางพื้นที่ภาคใต้ควรจัดระบบความคิดให้กลับมาคุยกันในโลกนี้ คือ โลกของความเป็นจริง ประการที่ 2 ควรใช้โครงการของผู้หญิงในการนำเนื่องจากผู้หญิงจะเป็นคนจัดระเบียบภายใน ครอบครัวทั้งหมดมากกว่าผู้ชาย โดยใช้ผู้หญิงมาทำงานแก้ปัญหาให้มากขึ้น

“ประการที่ 3 ปัจจุบันค่านิยมเรื่องวุฒิปริญญาตรีมีมาก เพราะฉะนั้นจะต้องผลักดันให้การเรียนสายวิชาชีพให้ได้วุฒิการศึกษาปริญญาตรี เพื่อเพิ่มศักดิ์ศรี ดังนั้น ศอ.บต.ต้องเข้าไปผลักดันเรื่องนี้ผ่านกระทรวงศึกษาธิการ และประการสุดท้ายให้มหาวิทยาลัยมีทุนเรียนฟรี และหาเยาวชนจากในพื้นที่เข้าไปเรียนในระดับปริญญาตรี เพราะวันนี้ไม่ต้องการให้คนที่มีการศึกษาหลงเข้าไปอยู่ในพวกก่อความไม่สงบ โดยดึงออกไปจากนอกพื้นที่เพื่อไปแลกเปลี่ยนทัศนคติ ความเชื่อ และการมองเห็นภาพของสังคม เมื่อสามารถเปลี่ยนทัศนคติแล้วเมื่อกลับไปในพื้นที่จะมีทัศนคติอีกอย่างหนึ่ง ซี่งเป็นทัศนคติใหม่และจะเป็นคนทันสมัย และเป็นคนรุ่นใหม่ ทั้งนี้อยู่ที่การบริหารจัดการคนเป็นสิ่งสำคัญ” พล.อ.สนธิกล่าว