อดีต ผบ.ทบ.ยันไม่เสียหายทำบีอาร์เอ็นจับมือมาเลเซียสร้างสันติ ลุ้น 1 เดือนพิสูจน์ รบ.คุยถูกตัวหรือไม่ ด้าน “ถวิล” รับกังวล สมช.ผลีผลามอาจลงนามผิดตัว ไม่เชื่อเรื่องจะจบง่ายๆ ขณะที่แกนวาดะห์ชี้นิมิตหมายดีลงนาม “บีอาร์เอ็น” เชื่อ “ภราดร” รู้ข้อมูลดี เชื่อทำเพื่อชาติ ส่วน “เหลิม” เตรียมถกทีมที่ปรึกษวาดะห์ครั้งแรก 1 มี.ค.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 28 ก.พ. พล.อ.สนธิ บุญรัตกลิน ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคมาตุภูมิ อดีตผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึงการลงนามความร่วมมือเพื่อสันติภาพระหว่างเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติของไทยกับมาเลเซีย และนายฮาซัน ตอยิบ หัวหน้าฝ่ายประสานงานต่างประเทศขบวนการบีอาร์เอ็นว่า ถ้าพูดถึงสันติภาพการพูดคุยถือเป็นหลักการอยู่แล้ว เพียงแต่ที่ผ่านการพูดคุยถือเป็นความลับในการปฏิบัติภารกิจ ส่วนจะมีเงื่อนไขหรือการต่อรองอะไรเป็นเรื่องที่ต้องดูกันต่อไป ในชั้นนี้เป็นเพียงการพูดคุย และการให้มาเลเซียเป็นเจ้าภาพก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย ถ้าขีดความสามารถภายในไม่มี ต้องใช้บุคคลภายนอก และปัญหาก็เกิดขึ้นตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย จะขอความร่วมมือกับทางมาเลเซียก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร ส่วนจะเป็นการพูดคุยกับตัวจริงหรือไม่มันพิสูจน์กันได้อยู่แล้ว เป็นเรื่องที่ต้องรอดูกันต่อไปจากนี้อีก 1 เดือนสถานการณ์ภาคใต้ดีขึ้น แสดงว่ารัฐบาลเดินมาถูกทางแล้ว เมื่อถามว่า การทำข้อตกลงกับการยกระดับปัญหาในพื้นที่หรือไม่ พล.อ.สนธิกล่าวว่า หากทำแล้วเกิดสันติภาพ แม้รัฐบาลจะถูกมองว่ากำลังยกระดับปัญหาจังหวัดชายแดนใต้สู่สากลก็ต้องทำ เพราะเราเสียงบประมาณในการแก้ไขปัญหามาไม่รู้กี่แสนล้านบาทแล้ว
ในวันเดียวกันนี้ นายถวิล เปลี่ยนศรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะอดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เปิดเผยกรณี พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาฯ สมช.ลงนามความร่วมมือในกระบวนการพูดคุยสันติภาพกับนายฮาซัน ดอยิบ หัวหน้าฝ่ายประสานงานต่างประเทศขบวนการบีอาร์เอ็น ว่าการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ต้องมีการพูดคุย ทำความเข้าใจแต่ตนยังกังวลว่าสิ่งที่เลขาฯ สมช.กำลังดำเนินการอยู่นั้นทำอย่างถูกคนและเป็นตัวแทนของกลุ่มที่ก่อความไม่สงบจริงหรือไม่ ซึ่งเราทราบดีว่ากลุ่มก่อความไม่สงบในชายแดนภาคใต้นั้นมีหลายกลุ่ม และการพูดคุยกับกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งที่เราเห็นว่าเป็นตัวแทนนั้นตนคิดว่าอันตรายเกินไป ที่ถูกต้องควรให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการพูดคุยไปก่อน ซึ่งตนไม่เชื่อว่าการเจรจากับคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งแล้วเรื่องจะจบแน่นอน
นายถวิลกล่าวต่อว่า ตนเห็นว่ารัฐบาลดำเนินการแบบรวดเร็ว ยกระดับผลีผลามเกินไปหรือไม่ ทั้งนี้ที่ผ่านมามีการพูดคุยในระดับเจ้าหน้าที่ก่อนอยู่แล้ว ซึ่งการพูดคุยนั้นในเบื้องต้นต้องสร้างมาตรฐานการไว้เนื้อเชื่อใจกัน ซึ่งตนก็ไม่แน่ใจว่าทางมาเลเซียเองจะคิดเรื่องนี้อย่างไรด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ตนขอให้กำลังใจรัฐบาลในการแก้ปัญหา เพราะเรื่องนี้ในที่สุดแล้วจะแตกหักด้วยการรุกรานกันไม่ได้ต้องมีการพูดคุยซึ่งการพูดคุยนั้นก็ต้องดูอีกว่าถูก ตัวถูกจังหวะเวลาหรือไม่
ด้านนายอารีเพ็ญ อุดรสินธุ์ แกนนำกลุ่มวาดะห์ เปิดเผยว่า เรื่องนี้ตนยังไม่ทราบรายละเอียดมากนัก แต่หากการลงนามเป็นไปเพื่อสันติวิธีก็เป็นเรื่องที่ดี อีกทั้ง พล.ท.ภราดร มีตำแหน่งเป็นเลขาฯสมช. สิ่งใดที่ท่านตัดสินใจ ย่อมต้องผ่านการหารือจากฝ่ายความมั่นคงของสมช.ซึ่งต้องมองว่าอะไรเป็นผลประโยชน์ของชาติ ตนเชื่อว่าน่าจะเป็นสัญญาณที่ดีในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในชายแดนภาคใต้ที่มีมายาวนาน เพราะผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับความมั่นคงอย่างเลขาฯ สมช.ย่อมต้องรู้ตื้นลึกหนาบางดีกับสิ่งที่ตัดสินใจ
อย่างไรก็ตาม วันที่ 1 มี.ค.นี้ ตนจะเข้าร่วมประชุมแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้ ตามที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี แต่งตั้งให้ตนเป็นที่ปรึกษาและมีการประชุมนัดแรก ซึ่งคาดว่ากลุ่มวาดะห์คนอื่นๆจะเข้าร่วมประชุมด้วยครบทั้ง 9 คน เนื่องจากเป็นบัญชาของรองนายกฯ ทั้งนี้ ตนคงยังไม่มีแนวคิดใดนำไปเสนอในที่ประชุม ซึ่งคงต้องรอดูว่ากรอบการทำงานนั้น ร.ต.อ.เฉลิม จะมอบหมายให้ตนดูแลในเรื่องใด
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า วันที่ 1 มี.ค. เวลา 14.00 น. ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการขับเคลื่อนนโยบายยุทธศาสตร์และแก้ปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นประธานการประชุมปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ห้องประชุม 302 ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล โดยมีที่ปรึกษารองนายกฯ ทั้ง 9 คนกลุ่มวาดะห์เข้าร่วมประชุมด้วย ซึ่งถือเป็นการประชุมร่วมกับทีมที่ปรึกษาครั้งแรกหลัง ร.ต.อ.เฉลิมเซ็นคำสั่งแต่งตั้ง
ขณะที่นายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ ที่ปรึกษา ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวถึงกรณีเรียกประชุมนัดแรกว่า ทีมที่ปรึกษาจะเดินทางมาร่วมประชุมครบทั้ง 9 คน การประชุมนัดแรกคงยังไม่มีข้อเสนออะไร เพราะต้องรับฟังว่า ร.ต.อ.เฉลิมจะวางกรอบการทำงานอย่างไร จะให้เราอยู่จุดไหนหรือทำอะไร จึงขอฟังท่านก่อน ส่วนกรณีที่ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ลงนามกระบวนการข้อหารือเพื่อสันติภาพ กับกลุ่มบีอาร์เอ็น โคออร์ดิเนต นั้นยังไม่ทราบรายละเอียดข้อตกลงแต่เชื่อว่าคนระดับเลขาฯ สมช.ทำอะไรต้องมีการไตร่ตรองอย่างรอบคอบแล้ว ส่วนตัวเห็นว่าการลงนามดังกล่าวเป็นนิมิตหมายที่ดี
