รอง หน.ปชป.ฝาก 7 ข้อสังเกตให้นายกฯ ก่อนพบผู้นำมาเลย์ แนะระวังอย่าให้เรื่องไฟใต้ถึงประเทศที่ 3 จี้มาเลย์ส่งโจรใต้ที่กบดานกลับไทย นิ่งถือว่ารู้เห็น เลิกหนุนสร้างเหตุป่วน และแก้เรื่องคนสองสัญชาติ พร้อมแก้ไขการค้าชายแดน รวมทั้งให้เวิร์กเปอร์มิตคนไทยในมาเลย์ ชี้ “ภราดร” อย่าดื้อ ให้ฟังทหาร เตือน รบ.อย่าตกเป็นเครื่องการเมืองในมาเลย์ ยันคนไทยไม่ยอมถูกแบ่งประเทศ
วันนี้ (27 ก.พ.) นายถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ดูแลพื้นที่ภาคใต้ กล่าวถึงกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปเยือนประเทศมาเลเซียอย่างเป็นทางการในวันที่ 28 ก.พ.นี้ เพื่อหารือในเรื่องปัญหาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยกับผู้นำมาเลเซียว่า การเจรจาเกี่ยวกับปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ครั้งนี้ ตนขอตั้งข้อสังเกตและขอเสนอแนะรัฐบาลด้วยความจริงใจที่ตนดูแลงานด้านนี้มาก่อนและมีเจตนาในการแก้ปัญหาของประเทศชาติให้สงบลง ดังนี้ 1. หากในการเจรจามีการเสนอให้ลงนาม หรือแถลงการณ์ร่วม หรือทำบันทึกความเข้าใจ (MOU) โดยที่มีการอ้างถึงฝ่ายที่ 3 หรือชาติที่ 3 ที่เป็นกลาง ที่จะมาเป็นตัวแทนหรือตัวกลางในการประสานงานเจรจาระหว่างรัฐไทยกับกลุ่มผู้ก่อการ ขอให้ตัวแทนรัฐบาลไทยอย่ารับรองข้อเสนอหรือข้อตกลงนี้
ส่วนข้อ 2 ทราบดีอยู่แล้วว่าผู้ก่อความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้มักหลบหนีข้ามไปในเขตประเทศมาเลเซีย จึงขอให้รัฐบาลมาเลเซียส่งคนเหล่านี้กลับมาให้รัฐบาลไทยเพื่อสู้คดีตามกฎหมาย มาตรา 21 พ.ร.บ.ความมั่นคง เพราะที่ผ่านมาทั้งตำรวจสันติบาล และเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) มาเลเซียได้ให้คนเหล่านี้ไปหลบซ่อนในมาเลเซีย โดยที่ต้องมารายงานตัวต่อ 2 หน่วยงานนี้เป็นระยะ เท่ากับว่ารัฐบาลมาเลเซียรู้เห็นเป็นใจ และทราบดีว่ามีผู้ก่อการในไทยไปหลบซ่อนเป็นจำนวนมาก
นายถาวรกล่าวต่อว่า 3. กรณีที่ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาฯ สมช. ไปเจรจาเบื้องต้นกับตัวแทนมาเลเซียนั้น ขอให้ พล.ท.ภราดรระมัดระวังเพราะยังมีความอ่อนด้อยในงานด้านความมั่นคง ขอให้ท่านรับฟังข้อมูลและข้อเสนอแนะ และหลักปฏิบัติจากตัวแทนทหารหลักจาก 3 เหล่าทัพที่ทำงานด้านความมั่นคงมานาน 4. รัฐบาลมาเลเซียต้องยุติการสนับสนุนกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบทุกรูปแบบ 5. ขอให้รัฐบาลมาเลเซียเร่งแก้ไข ปัญหาบุคคลสองสัญชาติให้ชัดเจน 6. การค้าชายแดนต้องได้รับความร่วมมืออย่างจริงใจในการแก้ไขของทั้งสองชาติ และ 7. การขอใบอนุญาตทำงาน หรือเวิร์กเปอร์มิตของคนไทยในมาเลเซีย ต้องมีราคาถูกลงและขอได้ง่ายขึ้น
“ทั้ง 7 ข้อที่เสนอต่อให้รัฐบาลนั้น รัฐบาลควรนำไปประกอบการหารือกับทางมาเลเซียด้วย ส่วนกรณีที่มีสื่อไปสัมภาษณ์และเผยแพร่ภาพบุคคลที่อ้างว่าเป็นประธานกลุ่มพูโลนั้น ปัจจุบันกลุ่มพูโลไม่ได้เคลื่อนไหวก่อความไม่สงบในจังหวัดชายแดนใต้มานานแล้ว แต่กลุ่มหลักคือ กลุ่มบีอาร์เอ็น โคออร์ดิเนต และหากรัฐบาลมาเลเซียมีความตั้งใจจริงในการแก้ไขปัญหาครั้งนี้ก็ขอให้มอบตัวนายสะแปอิง บาซอ และนายมะแซ อุเซ็ง สองแกนนำตัวหลักผู้ก่อการที่หนีไปหลบอยู่ในมาเลเซียให้กลับมาดำเนินการทางกฎหมายในประเทศไทย ตรงนี้จะเป็นจุดพิสูจน์ความจริงใจ และขอให้ระมัดระวังว่าอย่าให้รัฐบาลถูกใช้เป็นประโยชน์เพื่อโยงการเมืองภายในของมาเลเซีย เนื่องจากใกล้ฤดูกาลเลือกตั้ง ทั้งนี้ หากไทยยอมรับให้มาเลเซียเป็นตัวกลางในการเจรจา ที่สุดแล้วก็ต้องมีการอ้างถึงตัวแทนชาติที่ 3 และหาคนกลางคนที่ 2 คนที่ 3 มาจากฝ่ายต่างๆ ที่สุดปัญหาชายแดนไทยซึ่งเป็นกิจการในประเทศของไทยก็จะถูกยกระดับขึ้นสู่เวทีนานาชาติ ตรงตามความต้องการของกลุ่มผู้ก่อการที่เรียกร้องขอตั้งรัฐเพื่อปกครองตัวเอง ซึ่งกรณีนี้คนไทยคงยอมไม่ได้” นายถาวรกล่าว