เกาะกระแส
00 นาทีนี้ถือว่าการหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.เข้มข้นจะเข้าเส้นชัยกันร่อมร่อแล้ว แต่ยังไม่อาจฟันธงได้เลยว่าใครจะเข้าวินระหว่าง “เสาไฟฟ้า” พงศพัศ พงษ์เจริญ ลูกน้องของ ทักษิณ ชินวัตร กับสาวกแมลงสาบอย่าง “ชายหมู” ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร รวมไปถึงผู้สมัครอิสระอย่าง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ก็อาจแซงเข้าป้ายได้เหมือนกัน เพราะตามข่าวบอกว่ามีคนที่ยังลังเลในนาทีสุดท้ายอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน ดังนั้นไม่อาจกระพริบตาโดยเด็ดขาด
00 แต่เชื่อว่าฝ่ายที่หายใจไม่ทั่วท้อง และต้องบดขยี้กันหนักหน่วงทุกกระบวนท่าก็จะเป็นสองพรรคใหญ่ทั้งเพื่อไทยกับประชาธิปัตย์ แต่ถ้าถามว่าฝ่ายที่เดิมพันสูงกว่านิดๆว่ากันตามจริงก็คงเป็นฝ่ายหลังมากกว่า มองกันแบบแฟร์ๆก็คือหากงานนี้พลพรรคแมลงสาบพ่ายแพ้ถูก “แม้วยึดเมืองหลวง” ได้แล้ว เท่ากับว่าถูกรุกเข้ามาติดมุมแล้ว ขณะเดียวกันหากฝ่ายประชาธิปัตย์ชนะฝ่ายเพื่อไทยก็ยังมีเกมระดับชาติมีรัฐบาลไว้ไล่บี้ได้ต่อไป นั่นคือมี “หุ่นเชิด” คนสวยอย่าง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เดินเกมได้ต่อไป ถือว่า “ยังไม่หมดหน้าตัก”
00 ดังนั้นอย่าได้แปลกใจที่ประชาธิปัตย์ต้องระดมพลเข้ามาช่วยกันอย่างเต็มที่ทั้งรุ่นใหญ่รุ่นเล็กแยกกันเดินสายไปถึงทุกซอกทุกมุม เล่นกันทุกทาง นอกเหนือจากคู่หู อภิสิทธิ์-สุเทพ แล้วยังมี นายหัวชวน หลีกภัย และล่าสุดแม้ว่าจะไม่ชอบขี้หน้ากันมาตั้งแต่แรกก็ต้องดันหลัง เฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคที่ก่อนหน้านี้หายหน้าไปนานเพราะไม่หนุนชายหมู แต่นาทีนี้ก็ต้องดันหลังกันออกมาช่วย แม้จะขัดเขินอยู่บ้าง อย่างไรก็ดีเมื่อเดินแล้วก็ต้องเดินให้สุด เพราะเดิมพันมันสูง
00 ต้องจับตาและเตรียมโวยวายกันให้ดีสำหรับการที่ รมว.กลาโหม พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต นำคณะขึ้นไปหารือและร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับ พล.อ.เตียบันห์ ของเขมร ถึงปราสาทพระวิหารตามคำเชิญของฝ่ายหลัง ท่ามกลางเสียงทักท้วงจากหลายฝ่ายโดยเฉพาะจากกองทัพ แต่ก็ไม่ฟังอ้างว่าต้องรักษาบรรยากาศฉันท์มิตร คำก็อ้างความสัมพันธ์ อ้างมิตรภาพ โดยไม่สนใจเรื่องดินแดน อธิปไตยก็ยกให้กับเขาไปอย่างงั้นหรือ ทุด !!
00 งานนี้สังเกตให้ดีว่าเรากำลังสมคบคิดสมยอมให้ฝ่ายกัมพูชานำรูปถ่ายไปอ้างอิงในคดีศาลโลกต่อไปหรือไม่ เพราะทั้งรูปแบบที่ฝ่ายกัมพูชานำมาใช้ไม่ว่าจะเป็น “ผู้เชิญ” แล้วฝ่ายไทยเป็น “ผู้รับเชิญ” ให้ขึ้นไปบนปราสาท แต่ห้ามไม่ให้ขึ้นไปทางประตูช่องทางจากฝั่งไทยโดยตรงต้องอ้อมไป เพราะว่าพื้นที่ที่ติดกับปราสาทที่เรียกว่า “อาณาบริเวณ” นั้นฝ่ายกัมพูชาก็อ้างสิทธิ์และนำไปร้องศาลโลกให้ศาลโลกตีความว่าครอบคลุมมาถึงหรือไม่นี่ไง ดังนั้นถ้าจะให้พิจารณาก็ต้องบอกว่าไทยมีแต่ “เสียเปรียบ” ไม่มีเสมอตัว
00 ขณะเดียวกันเมื่อหันมาพิจารณาเฉพาะตัวบุคคลแล้วยิ่งน่าหดหู่ เพราะคนอย่าง พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต แค่พูดจาให้สัมภาษณ์นักข่าวแต่ละครั้งฟังแทบไม่ค่อยรู้เรื่อง ไม่ได้บ่งบอกแววฉลาดเฉลียวเลยแม้แต่น้อย ไม่เหมาะจะเป็นผู้นำ ไม่อยากพูดว่า “โง่” แต่บอกว่า “ไม่ฉลาด” ก็แล้วกัน และยิ่งเมื่อพิจารณาถึงสายสัมพันธ์กับ ทักษิณ ชินวัตร ก็ยิ่งน่าระแวง เวรกรรมจริงๆ
00 การถูกปปช.สั่งอายัดบัญชีทรัพย์สินกว่า 65 ล้านบาทของ พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์อดีตปลัดกลาโหมถือว่าเป็นวิบากกรรมที่เกิดขึ้น และงานนี้มีแนวโน้มอาจถูกยึดและอายัดเพิ่มเติมเสียด้วย อย่างไรก็ดีต้องให้โอกาสชี้แจงเสียก่อน แต่นาทีนี้ถือว่าเกียรติยศศักดิ์ศรีป่นปี้หมดแล้ว ก็ได้แต่เตือนและเป็นบทเรียนไว้ภายหน้าว่า “เงินร้อน” เงินหลวงนี่มันศักดิ์สิทธิ์ อย่าทำเป็นเล่นเป็นอันขาด ขณะเดียวกันนี่ก็เป็นผลดีจากความขัดแย้งภายในกระทรวงกลาโหมจนมีการเปิดโปงออกมาให้เห็นก็เป็นได้ !!