ที่ประชุมวุฒิสภา “นพ.เจตน์” ชมเชยทหารนาวิกโยธินใช้ยุทธการซ้อนแผนผู้ก่อความไม่สงบสังหารแกนนำค่าหัว 2 ล้าน จวก “เฉลิม” ออกข่าวเยียวยาญาติโจรใต้ หัดนึกถึงตำรวจ ทหาร ครู และประชาชนบ้าง “พล.ร.อ.สุรศักดิ์” หวั่นไทยซ้ำรอยสงครามเวียดนาม เสนอทำคู่มือสงครามจิตวิทยาแจก ผบ.-หน.ความมั่นคง “ประสาร” ชี้ มาตรา 3 คอ.นธ. นิรโทษกรรมอำพรางให้คนสั่งการ วอนสังคมไทยรู้เท่าทัน
วันนี้ (18 ก.พ.) ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา ที่มีนายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม ก่อนเข้าสู่การพิจารณาระเบียบวาระ ได้เปิดโอกาสให้สมาชิกได้หารือ โดย นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ ส.ว.สรรหา หารือว่า ขอชมเชยกรณีทหารนาวิกโยธิน ใช้ยุทธการซ้อนรอยผู้ก่อความไม่สงบที่นำกำลังกว่า 50 คนบุกโจมตีฐานเฉพาะกิจนาวิกโยธินที่ 32 อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส โดยสังหารแกนนำที่มีค่าหัวถึง 2 ล้านบาท ซึ่งเป็นที่ต้องการของฝ่ายความมั่นคงมาโดยตลอด ถือว่าได้สร้างชื่อเสียงให้กับนาวิกโยธินที่ฝังตัวในพื้นที่ในด้านยุทธวิธีร่วมกับงานการข่าว
นพ.เจตน์กล่าวว่า ขอชมเชย น.อ.สมเกียรติ ผลประยูร ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน กองทัพเรือ (ผบ.ฉก.นย.ทร.) และ น.ท.ธรรมนูญ วรรณา ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจ (ผบ.ฉก.) นราธิวาส ที่ 32 รวมทั้งนโยบายพาคนหลงผิดกลับบ้านของกองทัพเรือ และโครงการเดินเท้าเข้าชุมชนของหน่วยเฉพาะกิจภาคใต้ โดยตนมีข้อเสนอแนะคือ 1. กรณีนี้พิสูจน์ให้เห็นว่าผู้ก่อความไม่สงบฯ ได้แต่งกายเลียนแบบทหารและพยายามโยนผิดให้ทหารในหลายๆ กรณี ฝ่ายความมั่นคงควรใช้กรณีนี้ทำความเข้าใจกับชาวบ้าน
2. การเปิดเผยว่าได้ข่าวจากชาวบ้าน รวมทั้งรายละเอียด และเบื้องหลังการวางแผนอาจสร้างอันตรายให้แก่ชาวบ้าน หรือสายข่าว ควรจะต้องระวังว่าเปิดเผยหลักการได้แต่ไม่ควรเปิดเผยรายละเอียด และ 3. การที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ออกข่าวว่าจะเยียวยาญาติโจรใต้ในทันทีทันควัน สร้างความไม่พอใจให้แก่ประชาชนอย่างมาก รองนายกฯ ควรจะนึกถึงความรู้สึกของตำรวจทหาร ครู ประชาชนที่เสียชีวิตไปแล้ว รวมถึงญาติของเขา รวมทั้งการนำเงินภาษีของเขามาเยียวยา แต่หากเป้าหมายของรัฐบาลเพียงต้องการทำเพื่อมนุษยธรรมและต้องการมวลชนก็ต้องทำเงียบๆ ทิ้งช่วงเวลาในภายหลัง
ด้าน พล.ร.อ.สุรศักดิ์ ศรีอรุณ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า กรณีนี้มีผู้ออกมาให้ข้อมูลในสื่อต่างๆ เป็นจำนวนมาก ตนอยากให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยเฉพาะหน่วยงานความมั่นคงตระหนักว่าสหรัฐอเมริกาต้องแพ้สงครามเวียดนามไม่ได้แพ้ในสนามรบ แต่แพ้ในหน้าสื่อต่างๆ ตนไม่อยากให้เกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอย นักวิชาการ นักการเมืองหลายท่านออกมาแสดงความคิดเห็นเรื่องดังกล่าว จนทำให้ผู้ก่อความไม่สงบกลายเป็นฮีโร่ หากปล่อยให้เป็นเช่นนี้จะทำให้เหตุการณ์ความไม่สงบรุนแรงขึ้น
ดังนั้น ตนขอเสนอ คือ 1. ให้รัฐมนตรีมีบัญชาให้กองบัญชาการทหารสูงสุดทำคู่มือเกี่ยวกับสงครามจิตวิทยาแจกให้แก่ผู้บังคับบัญชาและหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง 2. ขอให้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต. ขอความร่วมมือจากผู้นำทางศาสนาให้ชี้ทางสว่างแก่พี่น้องชาวมุสลิมว่าเป็นประชาชนชั้นหนึ่งของไทยดีอยู่แล้ว ไม่ต้องไปเป็นรัฐปัตตานี ประชาชนชั้นสอง หรือเป็นเมืองขึ้นขอประเทศไทย
ด้านนายประสาร มฤคพิทักษ์ ส.ว.สรรหา หารือว่า ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแก่ผู้ซึ่งกระทำความผิดเนื่องในการชุมนุมทางการเมืองของประชาชนระหว่างวันที่ 19 กันยายน 2549 ถึงวันที่ 10 พฤษภาคม 2554 พ.ศ. ... ของคณะกรรมการอิสระว่าด้วยการส่งเสริมหลักนิติธรรมแห่งชาติ (คอ.นธ.) โดยในมาตรา 3 ระบุว่า “ให้บรรดาผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ 19 กันยายน 2549 ถึงวันที่ 10 พฤษภาคม 2554 นั้นพ้นจากการกระทำความผิด และความรับผิดชอบโดยสิ้นเชิง แต่ไม่รวมถึงการกระทำของผู้มีอำนาจในการสั่งการในการเคลื่อนไหวในห้วงเวลาดังกล่าว และเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการใช้อำนาจตามกฎหมาย ในการรักษาความสงบ”
ทั้งนี้ ฟังดูเหมือนว่ามาตรา 3 ครอบคลุมเฉพาะผู้ที่ร่วมชุมนุมทางการเมืองโดยบริสุทธิ์ ไม่รวมถึงผู้ที่สั่งการ หรือผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจ แต่ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 84 ระบุว่า “ผู้ใดก่อให้ผู้อื่นกระทำความผิดไม่ว่าด้วยการใช้บังคับ ขู่เข็ญ จ้างวานหรือยุยงส่งเสริม หรือด้วยวิธีอื่นใด ผู้นั้นเป็นผู้ใช้ให้กระทำความผิด ถ้าผู้ถูกใช้ได้กระทำความผิดนั้น ผู้ใช้ต้องรับโทษเสมือนเป็นตัวการ ถ้าความผิดมิได้กระทำลง ไม่ว่าจะเป็นเพราะผู้ถูกใช้ไม่ยอมกระทำ ยังไม่ได้กระทำหรือเหตุอื่นใด ผู้ใช้ต้องระวางโทษเพียงหนึ่งในสาม ของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น” โดยนายเกียรติขจร วัจนะสวัสดิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายอาญา อธิบายไว้ว่า หากการกระทำของผู้ถูกใช้ไม่เป็นความผิด เพราะมีกฎหมายยกเว้นความผิด ไม่ถือเป็นการใช้แม้จะมีเจตนาก็ตาม ซึ่งตรงนี้ถือตนเห็นว่าเป็นนิรโทษกรรมอำพราง เปิดไฟเขียวให้รถเล็กผ่านตลอด แต่รถเล็กลากรถใหญ่ไปด้วย และรถใหญ่ตอนนี้ไม่มีใครยอมรับ แกนนำบอกไม่ใช่ผู้สั่งการ จึงพากันพ้นผิดไปทั้งกระบวน ก็ขอให้สังคมไทยรู้เท่าทันด้วย