xs
xsm
sm
md
lg

ปฏิบัติการ “เหลิม” ปูดข่าวลับ ปกป้องชาติหรือวาระแฝงการเมือง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง
สะเก็ดไฟ

เป็นข่าวฮือฮาเกรียวกราวขึ้นมาแบบปัจจุบันทันด่วน เมื่อปรากฏรายงานข่าวกลุ่มอัลกออิดะห์และกลุ่มซาลาฟิสต์ ซึ่งเป็นกลุ่มมุสลิมติดอาวุธที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในแอลจีเรียมีแผนถล่มสถานกงสุลสหรัฐอเมริกาประจำจังหวัดเชียงใหม่ ในเร็ววันนี้ ภายใต้รหัส “Billiard Ball” จนต้องมีการรักษาความปลอดภัยสถานกงสุลสหรัฐฯที่เชียงใหม่กันพัลวัน!!

ไม่รู้ที่มาที่ไปต้อตอข่าวแน่ชัด แต่ทางหนึ่งระบุว่าน่าจะหลุดออกมาจากวงประชุมของสหรัฐฯ ที่มีคนไทยเข้าไปร่วมรับฟังด้วย เปิดเผยถึงสถานการณ์ไม่น่าไว้วางใจดังกล่าว

เมื่อข่าวถูกกระพือออกมาโดยสื่อมวลชน ก็ออกมาสอดรับทันที เมื่อ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี บอกว่าเฝ้าระวังจับตาสถานการณ์อยู่ เช่นเดียวกับ “เฉลิม อยู่บำรุง” รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ออกมาปูดข่าวสำทับบอกเล่าเป็นฉากๆ ผูกโยงเป็นเรื่องเป็นราวจนดูน่าตื่นเต้นตกใจ

บอกว่าได้ติดตามตรวจสอบข่าวคราวมาเป็นเวลา 1 สัปดาห์แล้ว พร้อมสั่ง ผบช.ภ.5 ให้ดูแลใกล้ชิด เชื่อว่าไม่มีอะไรรุนแรง ควบคุมได้ พร้อมปูดข้อมูลแหลมๆ ตามสไตล์ว่า ผู้ก่อการบางส่วนไหวตัวออกนอกประเทศไปแล้ว ขณะที่บางส่วนที่ยังอยู่ก็น้อยเกินกว่าที่จะขยับเคลื่อนไหวก่อเหตุได้

พร้อมกันนี้ยังชี้ว่า น่าเรื่องดังกล่าวน่าจะเกี่ยวโยงกับการฝึกคอบร้าโกล 2013 ที่ จ.เชียงใหม่ จนต้องจับตาสถานการณ์จนกว่าการฝึกดังกล่าวจะจบสิ้นลง

อย่างไรก็ตาม อันหนึ่งที่ “รองเหลิม” พูดย้ำชัดคือเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับประเทศไทย เป็นเรื่องของต่างชาติ เป็นเรื่องของกลุ่มผู้ก่อการจ้องถล่มสหรัฐ จ้องถล่มสถานกงสุล หรือแม้แต่บุคลากรของสหรัฐฯ เพื่อหวังผลอย่างใดอย่างหนึ่ง อาจจะเป็นการสร้างเหตุการณ์เชิงสัญลักษณ์!!

แต่เรื่องนี้ที่ไทยต้องเกี่ยวข้อง เพราะจุดเพ่งเล็งก่อเหตุก็คือสถานที่ในประเทศไทย หากเกิดอะไรขึ้นย่อมมีผลกระทบไม่มากก็น้อย

ว่าไปเหตุการณ์มันก็คล้ายๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อปีกลาย ที่เกิดเหตุการณ์ระเบิดที่สุขุมวิท ช่วงวาเลนไทน์แบบเดียวกันนี้

แต่การออกมารับรองข่าวแบบนี้นัยหนึ่งมันก็กระทบไปแล้ว เรื่องการท่องเที่ยวในเชียงใหม่คงจะมีผลไปบ้างแล้ว ไม่รู้ว่าการออกมาสำทับข่าวแบบนี้จะเป็นผลดีหรือผลเสียกันแน่ เพราะมันก็มีความตกอกตกใจกันไปแล้วส่วนหนึ่ง ต้องเฝ้าระวังกันทั้งจังหวัด

ยังไม่รู้ว่าเป็นข่าวจริงหรือข่าวลวงกันแน่ แต่ก็เลือกที่เชื่อพร้อมเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะ ไม่เก็บเอาไว้สืบสวนในเชิงลึกทางลับ แน่นอนว่าที่สุดมันก็ต้องเป็นข่าวใหญ่โต!!

น่าสนใจว่ามีนัยอะไรหรือไม่ การข่าวของ “เฉลิม” จะเป็นของจริงหรือไม่ ทำเพราะหวังดี ไม่ประมาท กันไว้ดีกว่าแก้ หรือมีวาระแอบแฝงทางการเมือง!!

เพราะหากจะสังเกตปรากฏการณ์ที่ผ่านมาแล้ว “เฉลิม” มักเป็นผู้ที่ออกมาปูดข่าวอยู่บ่อยๆ จริงบ้าง แป้กบ้าง และหลายครั้งมักสวนทางกับการข่าวด้านความมั่นคงของประเทศ หรือการข่าวของสายทหาร อ้างว่าสายข่าวตัวเองมาจากตำรวจที่มีความช่ำชองในเชิงสืบเสาะไม่แพ้กัน

เหตุการณ์ระเบิดช่วงใกล้ปีใหม่ ที่ “เฉลิม” เคยปูด พร้อมพุ่งเป้าไปที่เรื่องการเมือง ระบุเป็นฝีมือของเครือข่าย คนเป็นโรค “พาร์กินสัน” แต่ก็เงียบหายไป

เหตุการณ์ที่เป็นที่ฮือฮาอีกครั้งก็คือ ข่าวการขนอาวุธสงครามลอบสังหารนักโทษหลบหนีคดี “ทักษิณ ชินวัตร” ที่ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า ก็เป็น “เฉลิม” ที่ออกมาสำทับข่าวเป็นคนแรกๆ หักหน้าสภาความมั่นคงแห่งชาติ ที่ออกมาปฏิเสธทันทีว่าเรื่องนี้ไม่มีมูล โดนเรียกเข้าห้องเย็นจนต้องรีบออกมาเปลี่ยนคำให้สัมภาษณ์ภายในวันเดียวกันว่า เป็นความจริง!!

เมื่อได้ “โอ๊ค” พานทองแท้ มาผสมโรงร่วมด้วย เลยเกิดเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมา เพราะทางซีกทหารโดย “สุกำพล สุวรรณทัต” รมว.กลาโหม ออกมายืนยันปฏิเสธว่าไม่มี จนโดน “โอ๊ค” ปีนเกลียวขึ้นธรรมาสไม่ล้างตีนสั่งสอนคนรุ่นคราวพ่อจนต้องปิดปากเงียบ

การข่าวของ “เฉลิม” ดูเหมือนจะสวนทางกับความมั่นคงเรื่อยมา อย่างสถานการณ์ในภาคใต้การข่าวก็ไม่ตรงกันสิ้นเชิง อย่างเหตุการณ์การเผากล้องซีซีทีวี หน่วยงานความมั่นคงระบุว่าเป็นยุทธวิธีใหม่ของผู้ก่อการที่เบนเป้าจากคนมาสู่อุปกรณ์ แต่ “เฉลิม” พูดเต็มปากว่าเป็นเรื่องของการขัดกันบนผลประโยชน์ของกลุ่มธุรกิจ ของคนแพ้ประมูล

หลายเรื่องหลายเหตุการณ์หากนำมาผูกโยงกัน ก็ไม่รู้ว่าเป็นการช่วงชิงการนำ ช่วงชิงการข่าว เพื่อควบคุมความมั่นคงหรือไม่ หากไล่เรียงผลงานด้านความมั่นคงของ “เฉลิม” ตั้งแต่รับหน้าที่รองนายกฯฝ่ายความมั่นคงยังไม่เห็นมีอะไรเป็นชิ้นอัน

เพราะได้แต่นั่งบัญชาการอยู่ในทำเนียบรัฐบาล เดินสายพร้อมกับตำรวจ โชว์ผลงานปราบปรามยาเสพติด แต่งานด้านความมั่นคงจริงๆ ยังอยู่ในมือทหาร ยังไม่ได้รับการยอมรับเท่าที่ควร

หรือจะต้องการสร้างบทบาทความรับผิดชอบด้านการข่าว แสดงบทเป็นพระเอกเป็นผู้นำด้านข่าวลึกเชิงลับ เพื่อยกระดับความสามารถตัวเอง

เลยกลับกลายเป็นภาพความขัดแย้งของรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคงกับฝ่ายทหารอยู่เนืองๆ งัดข้อกันหลายจังหวะ อย่างล่าสุดเรื่องของการประกาศเคอร์ฟิว ที่ซัดกันเองว่าความเห็นใครผิดใครถูกกันแน่ จนเกิดเหตุการณ์ล่าสุดยิงถล่มกันรุนแรงโจรใต้ตายไปหลายราย ต้องประกาศให้ประชาชนบางพื้นที่เข้าออกจากบ้านเป็นเวลา คล้ายเคอร์ฟิวกลายๆ ก็ไม่รู้ว่าเรื่องนี้มีตื้นลึกหนาบางอย่างไร ไม่กล้าพูด!!

วันนี้งานด้านความมั่นคงถูกหลายฝ่ายค่อนขอดว่าง่อนแง่น ไม่เป็นโล้เป็นพาย และมีเกมปล่อยข่าว ปล่อยของออกมาว่า “ชวลิต ยงใจยุทธ” ทหารแก่กิเลสหนา จะคัมแบ็กกลับมา แน่นอนว่าตำแหน่งเหมาะสมที่สุดก็รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคงนี่แหละ

นั่นก็หมายความว่าเป็นการเขย่าเก้าอี้ “รองเหลิม” โดยตรง

สถานภาพชักไม่สู้ดี ต้องออกแอ็กชัน โชว์บทบาทเด่นกันหนักหน่อย เพราะการปรับ ครม.แต่ละครั้ง เจ้าตัวยังรู้สึกโหวงๆ เหวงๆ ไม่รู้เก้าอี้จะหลุดตูดรึเปล่า
กำลังโหลดความคิดเห็น