นายกฯ เผยหลังประชุม คกก.นโยบายพลังงาน ขอตรึงราคาแอลพีจี ถึง มี.ค.นี้ สั่งกระทรวงพลังงาน ดูผลกระทบผู้มีรายได้น้อย ขณะเดียวกัน ปฏิเสธข่าว “ทักษิณ” ทาบ “พล.อ.ชวลิต” ช่วยงานด้านความมั่นคง ยันตอนนี้ยังไม่มีเปลี่ยนแปลง ส่วนปัญหาสร้างโรงพัก เชื่อไม่กระทบการให้บริการประชาชน มอบ ผบ.ตร.เร่งติดตามความคืบหน้าโครงการ ยันไม่มีการกลั่นแกล้ง
วันนี้ (8 ก.พ.) ที่กระทรวงพลังงาน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ โดยมีรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง อาทิ นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นต้น โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมเกี่ยวกับการตรึงราคาแก๊สหุงต้ม หรือ แอลพีจี ว่า ยังขอตรึงไปจนถึงเดือน มี.ค.และได้ให้กระทรวงพลังงานสำรวจ และดูแลผู้มีรายได้น้อยควบคู่กับการปรับลอยตัวแก๊สแอลพีจี
ขณะเดียวกัน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกระแสข่าวที่ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ทาบทาม พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี มาช่วยงานรัฐบาลด้านความมั่นคง ว่า ตนไม่ทราบเรื่องดังกล่าว ณ วันนี้ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร และหากมีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อไหร่นั้นก็จะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง แต่ตอนนี้ยังไม่มีแต่อย่างใด
เมื่อถามว่า มองอย่างไรหาก พล.อ.ชวลิต จะเข้ามาช่วยงานรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ก็ต้องดูตามจังหวะและความเหมาะสม และท่านก็เป็นผู้ที่มีประสบการณ์เป็นผู้ใหญ่ที่หลายท่านให้ความนับถือ อย่างไรก็ตามขณะนี้ คณะรัฐมนตรีก็ยังคงทำงานอยู่ ก็ต้องดูเรื่องโอกาสและความเหมาะสมอีกครั้ง
เมื่อถามว่า งานด้านความมั่นคงจะต้องมีการเสริมเข้ามาหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ไม่ต้อง เพราะขณะนี้ทุกหน่วยงานก็ทำงานอย่างเต็มที่ สิ่งที่พูดอยู่ขณะนี้ไม่ใช่การเสริม แต่เป็นการบูรณาการโดยเฉพาะการลงไปถึงพื้นที่ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องการในการบูรณาการให้เป็นเอกภาพ
นอกจากนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาการทุจริตการก่อสร้างสถานีตำรวจ และที่พักข้าราชการตำรวจที่เป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้ จะกระทบการให้บริการประชาชนหรือไม่ว่า เชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบกับการให้บริการประชาชน สิ่งที่ตนได้กำชับไป คือ ให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รีบเร่งติดตามความก้าวหน้าของโครงการให้มีความรวดเร็ว และก็ถือโอกาสนี้ในการสร้างขวัญกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย และทุกอย่างขอให้ทำไปตามกฎหมายและข้อเท็จจริง
ส่วนที่มีการตอบโต้กันไปมาในขณะนี้นั้น คงต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการนำข้อเท็จจริงมาสรุปก่อน ยังไม่อยากด่วนสรุปอะไรตอนนี้ ส่วนที่พรรคฝ่ายค้านมองว่าเป็นการกลั่นแกล้งนั้น ยืนยันว่า ไม่มีการกลั่นแกล้ง เพราะสื่อมวลชนก็ทราบว่าเรื่องทั้งหมดมาจากหัวข้อในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ และทุกหน่วยงานก็ทำตามขั้นตอนจากประเด็นที่เป็นข้อห่วงใยในรัฐสภาเราก็รับเรื่องนี้มาทั้งหมดและให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องไปติดตามสอบสวนข้อเท็จจริง
เมื่อถามว่า เรื่องนี้มีส่วนเกี่ยวข้อง กับ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ของพรรคเพื่อไทย ตามที่ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ออกมาให้ข้อมูลหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ไม่ทราบเรื่องนี้ให้เจ้าหน้าที่ทำการสอบสวนได้เลย ยืนยันว่าทำตามหน้าที่หากฝ่ายใดเกี่ยวข้องกับความผิดก็ต้องว่าไปตามขั้นตอน ต่อข้อถามว่า มองว่าเป็นการดิสเครดิตผู้สมัครหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เรื่องของการเมืองไม่ควรนำมาเกี่ยวข้อง อยากให้ทุกอย่างเป็นเรื่องของข้อเท็จจริงอยากเจ้าหน้าที่ทำงานดีกว่า
จากนั้นเวลา 17.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ พร้อมด้วย ด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร หรือ น้องไปป์ บุตรชาย ได้เดินทางไปยังสนามออล สตาร์ กอล์ฟ คอมเพล็กซ์ ซอยสหการประมูล ถนนประชาอุทิศ ย่านเหม่งจ๋าย เพื่อให้บุตรชายได้ซ้อมพัตต์กอล์ฟ ซึ่งถือเป็นการออกกำลังกายและฝึกสมาธิหลังเลิกเรียน
จากนั้นเวลาประมาณ 18.00 น.นายกฯ พร้อมบุตรชาย ได้เดินทางมายัง ห้างสรรพสินค้าเทสโก้ โลตัส สาขาเอกมัย-รามอินทรา ถนนประดิษฐ์มนูญธรรม เพื่อแวะรับประทานที่ร้านแมคโดนัลด์ ชึ่งเป็นร้านอาหารโปรดของน้องไปป์ โดยมี น.ส.มณฑาทิพย์ โกวิทย์เจริญกุล หลานสาว มาร่วมรับประทานอาหารด้วย ซึ่งเป็นที่สนใจของประชาชนโดยรอบที่มาขอถ่ายรูปและทักทาย
จากนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้พาบุตรชายมาซื้ออุปกรณ์เพื่อเข้าค่ายของโรงเรียนนานาชาติฮาร์โรว์ ที่ จ.ระยอง ในวันจันทร์ถึงวันศุกร์ที่จะถึงนี้ โดยระหว่างการจับจ่ายซื้อของได้มีประชาชนมาขอถ่ายรูปเป็นจำนวนมาก พร้อมกันนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ถือโอกาสซื้อของมงคลเพื่อไหว้เจ้าในเทศกาลตรุษจีนในวันพรุ่งนี้ด้วย อาทิ เป็ด ไก่ ส้ม ส้มโอ เป็นต้น