พท.แฉ บ.พีซีซีค้านรวมสัญญา กลับได้งานสร้างโรงพัก โวย “มาร์ค” หยุดโยนบาป

“เด็จพี่” ตอก หน.ปชป.โยนปัญหาโกงสร้างสถานี ตร. ให้ รบ.ปู ทั้งที่ รบ.ก่อนเป็นคนอนุมัติ เผย 5 วันก่อนเซ็นบริษัท พีซีซีฯ ค้านรวมสัญญา เหตุหวั่นเอื้อประโยชน์ แต่กลับได้งานไปทำ “สมคิด” แนะจับตาขบวนการโกง อ้างรัฐเข้ามาบริหารสัญญา ติง “มาร์ค” ต้องดูค่าแฟกเตอร์ เอฟช่วงประมูล ราคามาต่ำไม่ได้แปลว่าดี

วันนี้ (14 ก.พ.) ที่รัฐสภา นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ร่วมกันแถลงข่าวตอบโต้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ระบุว่าการก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจทดแทน เกิดปัญหาจากผู้บริหารสัญญา โดยนายพร้อมพงศ์กล่าวว่า นายอภิสิทธิ์กำลังโยนบาปมาให้รัฐบาลชุด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่มารับช่วงต่อ โดยพยายามเบี่ยงเบนความรับผิดชอบ ทั้งที่ในวันที่ 18 พ.ย. 2552 การเซ็นอนุมัติให้เสนอราคาการก่อสร้างจากรายภาค มาจัดจ้างก่อสร้างทุกอาคารรวมกันในครั้งเดียว คือ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาการแทนนายกรัฐมนตรีขณะนั้น โดยมี พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ จเรตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทน ผบ.ตร.เป็นผู้ทำหนังสือถึงนายกฯ

นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า นอกจากนี้ยังเป็นที่น่าสังเกตว่า 5 วันก่อนที่จะมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเสนอราคา คือ วันที่ 13 พ.ย. 2552 ทั้ง 8 บริษัทผู้ร่วมเสนอประกวดราคา ได้ยื่นหนังสือคัดค้านถึงนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพโดยตรง เพื่อคัดค้านการรวมสัญญาประมูล โดยหนึ่งในนั้นประกอบด้วย บริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด โดยหนังสือระบุได้ใจความว่า “ถ้านายกฯ เห็นชอบและอนุมัติจัดซื้อจัดจ้างแบบรวมสัญญา จะเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับผู้รับจ้างเพียงรายเดียว และยังได้ยกตัวอย่างความล้มเหลวของการจัดจ้างรวมสัญญา โครงการก่อสร้างอาคารที่พักอาศัย (แฟลต) กรมตำรวจ ปรากฏว่าการก่อสร้างดำเนินการไม่แล้วเสร็จทันตามสัญญา” ซึ่งจะเห็นได้ว่า การทำหนังสือคัดค้านดังกล่าวไม่เป็นผล แต่ในเวลาต่อมาที่มีการอนุมัติ บริษัท พีซีซีฯ กลับได้รับการประมูลจัดจ้างก่อสร้างโครงการดังกล่าวด้วย

นายสมคิดกล่าวว่า อยากให้สังเกตว่ามีการทำเป็นกระบวนการอย่างไร จากการเสนอราคาเป็นรายภาคมาเป็นรวมสัญญา และมีการทำหนังสือคัดค้าน แต่ต่อมาหนึ่งในบริษัทร่วมคัดค้านก็ได้งานโครงการดังกล่าว เราจึงอยากชี้ให้เห็นว่าอย่ามาโทษที่ผู้บริหารสัญญาต่อจากรัฐบาลชุดที่แล้ว เพราะรัฐบาลชุดนี้เพียงมาบริหารสัญญาต่อตามมติคณะรัฐมนตรี เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องโดยภาพรวมเท่านั้น ไม่ได้ช่วยเหลือใครเป็นพิเศษ อย่ามาโยนความผิดที่รัฐบาลชุดนี้ ส่วนกรณีที่นายอภิสิทธิ์อ้างว่ามีการประมูลในราคาที่ถูกก็เป็นเรื่องปกติ เพราะตามมติคณะกรรมการควบคุมราคากลาง ในค่าแฟกเตอร์ เอฟ (ราคาค่างานของโครงการ) คือ เมื่อได้รับงานที่มีมูลค่าราคากลางสูง ตัวคูณค่าแฟกเตอร์ เอฟ หรือราคาต่อหน่วยของต้นทุนก็จะลดลง ในทางกลับกันคือเมื่อได้รับงานที่มีมูลค่าราคากลางต่ำ ตัวคูณค่าแฟกเตอร์ เอฟก็จะมากขึ้นตาม ดังนั้น ราคาประมูลที่ลดลงไม่ได้แปลว่าทำถูกลง ต้องดูที่ราคากลางเป็นหลักด้วย แต่อย่างไรก็ดี เรากำลังพยายามตรวจสอบราคากลางที่แท้จริง โดยการถอดค่าบีโอคิว หรือบัญชีแสดงปริมาณวัสดุและราคาในเอกสารประกวดราคาแต่ละตัวอยู่ ซึ่งเชื่อว่าราคากลางที่ตั้งไว้ในโครงการนี้น่าจะสูงกว่าความเป็นจริงด้วย