ASTVผู้จัดการรายวัน-“ปทีป” หอบหลักฐานพบดีเอสไอ แจงคดีสร้างโรงพักฉาว ยันประมูลโปร่งใส “มาร์ค”ไล่บี้ “จูดี้” เปิดปากชี้แจงปมสัญญาก่อสร้าง เป็นงง! ทำไมเงียบฉี่ หลังมีชื่อโผล่มีส่วนเกี่ยวข้อง สอน “ธาริต” ให้เกียรติฝ่ายค้านเหมือนที่ให้เกียรติ ผบ.ตร. ด้วย
วานนี้ (13 ก.พ.) พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ อดีตรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หอบหลักฐานเข้าพบ นายธานินทร์ เปรมปรีดิ์ รองผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ 2 เพื่อชี้แจงกรณีการจัดทำสัญญาการก่อสร้างสถานีตำรวจทดแทน จำนวน 396 แห่งทั่วประเทศ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เนื่องจากสมัยที่ พล.ต.อ.ปทีป ดำรงตำแหน่งรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มีการเสนอให้เปลี่ยนแปลงคำสั่งการจัดประมูลสร้างโรงพักทดแทนแบบแยกรายภาค มาจัดประมูลแบบรวมเป็นสัญญาเดียว และต่อมา บริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด เป็นผู้ประมูลงานก่อสร้างได้ และมีการทำผิดสัญญา ไม่สามารถส่งมอบงานได้ตามกำหนด ทั้งที่มีการขยายสัญญาการก่อสร้างถึง 3 ครั้ง
ทันทีที่เดินทางมาถึง พล.ต.อ.ปทีป ได้เข้าชี้แจงแก่พนักงานสอบสวนในทันที โดยปฏิเสธที่จะตอบคำถามสื่อมวลชน ที่มาเฝ้ารอทำข่าว โดยระบุเพียงว่า ขอเข้าให้ข้อมูลก่อน
**ยันประมูลสร้างโรงพักโปร่งใส
พล.ต.อ.ปทีป กล่าวภายหลังการเข้าชี้แจงกรณีการก่อสร้างโรงพักทดแทนจำนวน 396 แห่ง วงเงิน 5,848 ล้านบาท และโครงการก่อสร้างที่พักอาศัยหรือแฟลตตำรวจจำนวน 163 หลัง วงเงินกว่า 3,700 ล้านบาทว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องการกระทำความผิดกรณีที่ดีเอสไอกำลังสวนสอบ เพราะทำหน้าที่เสนอเรื่องการก่อสร้างของ สตช. โดยอยู่ในขั้นตอนก่อนที่จะการจัดประกวดราคา ส่วนการเสนอโครงการรวมเป็นสัญญาเดียวนั้น เพราะ พ.ร.บ.งบประมาณได้กำหนดไว้โดยเป็นงบประมาณผูกพัน 3 ปี ตั้งแต่ปี 2552-2554 และได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นงบก้อนเดียว หากจะแยกงบประมาณออกมาเป็น 9 กอง แล้วแยกออกเป็นกองละ 3 ส่วนนั้น จะมีปัญหาเงื่อนไขติดขัดตามมามากมาย ที่สำคัญเงินงบประมาณดังกล่าวเป็นงบกู้ยืมจากโครงการงบประมาณไทยเข้มแข็ง หรือ SP2 ไม่อนุญาตให้ทำได้
อย่างไรก็ตาม การกำหนดร่างทีโออาร์ที่มีการรวมสัญญาเดียว จะทำให้ผู้สามารถเข้าร่วมประกวดโครงการต้องมีผลงานโครงการก่อสร้างมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1,200 ล้านบาทขึ้นไป และการที่มีผู้สนใจซื้อซองประกวดราคาถึง 10 บริษัท ย่อมมีแนวโน้มว่า โครงการก่อสร้างนี้ สามารถทำได้ รวมทั้งในขั้นตอนการประกวดราคา ยังคงเหลือมากถึง 5 ราย จึงมีความมั่นใจว่าโครงการก่อสร้างดังกล่าวสามารถทำให้สำเร็จได้
**ปชป. บอกโครงการเริ่มสมัย “สมัคร”
นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา และทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า โครงการก่อสร้างโรงพัก 396 แห่งทั่วประเทศที่ล่าช้านั้น มีความเป็นมาตั้งแต่สมัยรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช เพราะคนที่เปิดระบบรับงานก็เป็นนักการเมืองใน จ.เชียงใหม่ ส่วนที่รัฐบาลชุดนี้ อ้างว่า ไม่รู้เห็นกับโครงการดังกล่าว ก็ทำให้ประเทศเสียหายหลายล้านบาทต่อวัน จึงต้องมาดูว่ามีการสมยอมหรือฮั้วประมูลหรือไม่ เพราะดีเอสไอ ไม่ได้ลงรายละเอียดลึกในเรื่องนี้
**"มาร์ค"จี้"พงศพัศ"ออกมาพูดอย่านิ่ง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ออกมาตำหนิ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ ที่เตรียมเรียกไปให้ปากคำกรณีการก่อสร้างโรงพัก 396 แห่งทั่วประเทศไม่เสร็จว่า นายธาริตคงต้องยืนยันว่าทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน เพราะที่ปฏิบัติกับ ผบ.ตร. น้อยกว่าที่ปฏิบัติกับพวกตนเยอะ แต่พวกตนก็พยายามให้ความร่วมมือ ยังถูกต่อว่า ที่สำคัญ เนื้อหาสาระ ซึ่งตนก็ไม่เข้าใจว่าในเมื่อ พล.ต.อ.พงศพัศ ทราบอยู่แก่ใจว่าตัวเองเป็นคนเสนอให้มีการอนุมัติจ้างบริษัทนี้ และถ้าเห็นว่าสิ่งที่ตัวเองทำไปเป็นเรื่องสุจริต ทำไมพล.ต.อ.พงศพัศจึงไม่ออกมาพูดให้ชัดเจน คนอื่นจะได้หยุดเล่นการเมืองกับพวกตน เพราะเรื่องนี้เปิดประเด็นกันขึ้นมาเพื่อเล่นการเมืองกับพวกตน
"พอมี พล.ต.อ.พงศพัศเข้ามาเกี่ยวข้อง ก็ทำท่าเหมือนว่าจะหยุดๆ กันไป หรืออะไรทำนองนั้น แต่ความจริงต้องเป็นความจริง ผิดก็คือผิด ถูกก็คือถูก ไม่ใช่ว่าเข้าตัวเองแล้ว จะมีปฏิกริยาอีกทางหนึ่ง เพราะจะทำให้ดีเอสไอมีปัญหาในความน่าเชื่อถือ เนื่องจากยืนยันมาตลอดว่าเป็นความผิด หากผิดจริงคนที่เสนอเรื่องนี้ คือ พล.ต.อ.พงศพัศ ก็ต้องถูกปฏิบัติแบบเดียวกับพวกตน แต่ถ้าไม่ผิด เพราะพล.ต.อ.พงศพัศเข้าไปเกี่ยวข้อง ต่อไปดีเอสไอจะไม่มีความน่าเชื่อถือ"
**"ธาริต-อดุลย์"เคลียร์ใจ
นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดี ดีเอสไอ กล่าวขอโทษ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กรณีที่มีข่าวว่าพนักงานสอบสวนดีเอสไอ เตรียมเรียก พล.ต.อ.อดุลย์ มาให้ถ้อยคำเรื่องโครงการก่อสร้างสถานีตำรวจทดแทน 396 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งยืนยันว่า ดีเอสไอไม่มีเจตนาให้ร้าย หรือดูหมิ่นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และเคารพในตัวของ พล.ต.อ.อดุลย์ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ขณะที่พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวในเรื่องนี้ว่า อธิบดีดีเอสไอ ยอมออกมาขอโทษ ก็จบแล้ว ไม่มีอะไร ก็ขอขอบคุณด้วยที่ทางนายธาริตเข้าใจ เพราะจริงๆ เราเป็นหน่วยงานที่พูดคุยได้ ถ้านายธาริตจะขอเข้าพบก็ยินดี ไม่มีปัญหา ในฐานะที่ตนเองเป็นผู้บังคับหน่วยก็มีหน้าที่ดูแลหน่วย ถ้าท่านเข้าใจก็ขอบคุณ ไม่ได้เป็นความขัดแย้ง ตนเองพูดในหลักการ ถ้าท่านเข้าใจก็ไม่มีปัญหาอะไร ยืนยันไม่ได้พูดตามอารมณ์ พูดตามหลักการในฐานะผู้บังคับหน่วยที่ต้องออกมาชี้แจงถึงความไม่ถูกต้อง เมื่ออธิบดีดีเอสไอขอโทษมาแล้วก็จบไม่มีอะไรเรื่องเล็กน้อย
ส่วน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาลว่า ไม่เอา อย่าไปขยายความขัดแย้ง นายธาริต หรือพล.ต.อ.อดุลย์ ให้สัมภาษณ์ก็จบแล้ว
วานนี้ (13 ก.พ.) พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ อดีตรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หอบหลักฐานเข้าพบ นายธานินทร์ เปรมปรีดิ์ รองผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ 2 เพื่อชี้แจงกรณีการจัดทำสัญญาการก่อสร้างสถานีตำรวจทดแทน จำนวน 396 แห่งทั่วประเทศ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เนื่องจากสมัยที่ พล.ต.อ.ปทีป ดำรงตำแหน่งรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มีการเสนอให้เปลี่ยนแปลงคำสั่งการจัดประมูลสร้างโรงพักทดแทนแบบแยกรายภาค มาจัดประมูลแบบรวมเป็นสัญญาเดียว และต่อมา บริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด เป็นผู้ประมูลงานก่อสร้างได้ และมีการทำผิดสัญญา ไม่สามารถส่งมอบงานได้ตามกำหนด ทั้งที่มีการขยายสัญญาการก่อสร้างถึง 3 ครั้ง
ทันทีที่เดินทางมาถึง พล.ต.อ.ปทีป ได้เข้าชี้แจงแก่พนักงานสอบสวนในทันที โดยปฏิเสธที่จะตอบคำถามสื่อมวลชน ที่มาเฝ้ารอทำข่าว โดยระบุเพียงว่า ขอเข้าให้ข้อมูลก่อน
**ยันประมูลสร้างโรงพักโปร่งใส
พล.ต.อ.ปทีป กล่าวภายหลังการเข้าชี้แจงกรณีการก่อสร้างโรงพักทดแทนจำนวน 396 แห่ง วงเงิน 5,848 ล้านบาท และโครงการก่อสร้างที่พักอาศัยหรือแฟลตตำรวจจำนวน 163 หลัง วงเงินกว่า 3,700 ล้านบาทว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องการกระทำความผิดกรณีที่ดีเอสไอกำลังสวนสอบ เพราะทำหน้าที่เสนอเรื่องการก่อสร้างของ สตช. โดยอยู่ในขั้นตอนก่อนที่จะการจัดประกวดราคา ส่วนการเสนอโครงการรวมเป็นสัญญาเดียวนั้น เพราะ พ.ร.บ.งบประมาณได้กำหนดไว้โดยเป็นงบประมาณผูกพัน 3 ปี ตั้งแต่ปี 2552-2554 และได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นงบก้อนเดียว หากจะแยกงบประมาณออกมาเป็น 9 กอง แล้วแยกออกเป็นกองละ 3 ส่วนนั้น จะมีปัญหาเงื่อนไขติดขัดตามมามากมาย ที่สำคัญเงินงบประมาณดังกล่าวเป็นงบกู้ยืมจากโครงการงบประมาณไทยเข้มแข็ง หรือ SP2 ไม่อนุญาตให้ทำได้
อย่างไรก็ตาม การกำหนดร่างทีโออาร์ที่มีการรวมสัญญาเดียว จะทำให้ผู้สามารถเข้าร่วมประกวดโครงการต้องมีผลงานโครงการก่อสร้างมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1,200 ล้านบาทขึ้นไป และการที่มีผู้สนใจซื้อซองประกวดราคาถึง 10 บริษัท ย่อมมีแนวโน้มว่า โครงการก่อสร้างนี้ สามารถทำได้ รวมทั้งในขั้นตอนการประกวดราคา ยังคงเหลือมากถึง 5 ราย จึงมีความมั่นใจว่าโครงการก่อสร้างดังกล่าวสามารถทำให้สำเร็จได้
**ปชป. บอกโครงการเริ่มสมัย “สมัคร”
นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา และทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า โครงการก่อสร้างโรงพัก 396 แห่งทั่วประเทศที่ล่าช้านั้น มีความเป็นมาตั้งแต่สมัยรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช เพราะคนที่เปิดระบบรับงานก็เป็นนักการเมืองใน จ.เชียงใหม่ ส่วนที่รัฐบาลชุดนี้ อ้างว่า ไม่รู้เห็นกับโครงการดังกล่าว ก็ทำให้ประเทศเสียหายหลายล้านบาทต่อวัน จึงต้องมาดูว่ามีการสมยอมหรือฮั้วประมูลหรือไม่ เพราะดีเอสไอ ไม่ได้ลงรายละเอียดลึกในเรื่องนี้
**"มาร์ค"จี้"พงศพัศ"ออกมาพูดอย่านิ่ง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ออกมาตำหนิ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ ที่เตรียมเรียกไปให้ปากคำกรณีการก่อสร้างโรงพัก 396 แห่งทั่วประเทศไม่เสร็จว่า นายธาริตคงต้องยืนยันว่าทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน เพราะที่ปฏิบัติกับ ผบ.ตร. น้อยกว่าที่ปฏิบัติกับพวกตนเยอะ แต่พวกตนก็พยายามให้ความร่วมมือ ยังถูกต่อว่า ที่สำคัญ เนื้อหาสาระ ซึ่งตนก็ไม่เข้าใจว่าในเมื่อ พล.ต.อ.พงศพัศ ทราบอยู่แก่ใจว่าตัวเองเป็นคนเสนอให้มีการอนุมัติจ้างบริษัทนี้ และถ้าเห็นว่าสิ่งที่ตัวเองทำไปเป็นเรื่องสุจริต ทำไมพล.ต.อ.พงศพัศจึงไม่ออกมาพูดให้ชัดเจน คนอื่นจะได้หยุดเล่นการเมืองกับพวกตน เพราะเรื่องนี้เปิดประเด็นกันขึ้นมาเพื่อเล่นการเมืองกับพวกตน
"พอมี พล.ต.อ.พงศพัศเข้ามาเกี่ยวข้อง ก็ทำท่าเหมือนว่าจะหยุดๆ กันไป หรืออะไรทำนองนั้น แต่ความจริงต้องเป็นความจริง ผิดก็คือผิด ถูกก็คือถูก ไม่ใช่ว่าเข้าตัวเองแล้ว จะมีปฏิกริยาอีกทางหนึ่ง เพราะจะทำให้ดีเอสไอมีปัญหาในความน่าเชื่อถือ เนื่องจากยืนยันมาตลอดว่าเป็นความผิด หากผิดจริงคนที่เสนอเรื่องนี้ คือ พล.ต.อ.พงศพัศ ก็ต้องถูกปฏิบัติแบบเดียวกับพวกตน แต่ถ้าไม่ผิด เพราะพล.ต.อ.พงศพัศเข้าไปเกี่ยวข้อง ต่อไปดีเอสไอจะไม่มีความน่าเชื่อถือ"
**"ธาริต-อดุลย์"เคลียร์ใจ
นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดี ดีเอสไอ กล่าวขอโทษ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กรณีที่มีข่าวว่าพนักงานสอบสวนดีเอสไอ เตรียมเรียก พล.ต.อ.อดุลย์ มาให้ถ้อยคำเรื่องโครงการก่อสร้างสถานีตำรวจทดแทน 396 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งยืนยันว่า ดีเอสไอไม่มีเจตนาให้ร้าย หรือดูหมิ่นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และเคารพในตัวของ พล.ต.อ.อดุลย์ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ขณะที่พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวในเรื่องนี้ว่า อธิบดีดีเอสไอ ยอมออกมาขอโทษ ก็จบแล้ว ไม่มีอะไร ก็ขอขอบคุณด้วยที่ทางนายธาริตเข้าใจ เพราะจริงๆ เราเป็นหน่วยงานที่พูดคุยได้ ถ้านายธาริตจะขอเข้าพบก็ยินดี ไม่มีปัญหา ในฐานะที่ตนเองเป็นผู้บังคับหน่วยก็มีหน้าที่ดูแลหน่วย ถ้าท่านเข้าใจก็ขอบคุณ ไม่ได้เป็นความขัดแย้ง ตนเองพูดในหลักการ ถ้าท่านเข้าใจก็ไม่มีปัญหาอะไร ยืนยันไม่ได้พูดตามอารมณ์ พูดตามหลักการในฐานะผู้บังคับหน่วยที่ต้องออกมาชี้แจงถึงความไม่ถูกต้อง เมื่ออธิบดีดีเอสไอขอโทษมาแล้วก็จบไม่มีอะไรเรื่องเล็กน้อย
ส่วน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาลว่า ไม่เอา อย่าไปขยายความขัดแย้ง นายธาริต หรือพล.ต.อ.อดุลย์ ให้สัมภาษณ์ก็จบแล้ว