“ปลอดประสพ” ชี้พร้อมแจงหากข้องใจคุณสมบัติบริษัท ตปท.ร่วมประมูลโครงการจัดการน้ำ 3.5 แสนล้าน ยันคนไทยได้ทำแยะกว่า ขออย่ากีดกัน โวยเลิกด่า สวน “ปราโมทย์” ซี้ผู้นำท้องถิ่นแถบแก่งเสือเต้น เหตุใดไม่กล้าลง ถาม ปชช.จะเอาเขื่อนแก่งเสือเต้น หรือน้ำท่วม แจงโครงการใหญ่ทำประชามติหมด
วันนี้ (12 ก.พ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) กล่าวถึงกรณีที่มีนักวิชาการท้วงติงเกี่ยวกับคุณสมบัติของ 6 บริษัทที่ผ่านการคัดเลือกเข้าประมูลโครงการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท โดยไม่มีการเปิดเผยคุณสมบัติว่า ตนไม่เข้าใจว่าทำไมจึงอยากรู้กันมาก ยืนยันว่าบริษัทเหล่านี้ได้ส่งคุณสมบัติและประสบการณ์มาทั้งหมดโดยผ่านสถานทูตของแต่ละประเทศ ซึ่งได้รับการรับรองมาจากรัฐบาลของเขา ทั้งนี้ บริษัทใดจะเข้ามาได้ต้องมีเงื่อนไขทำงานมาอย่างไร ประวัติเป็นอย่างไร และมีการจดทะเบียนกระทรวงพาณิชย์ด้วย มีข้อมูลหมด ใครอยากได้ให้มาที่สำนักงานฯ ตนในเวลาราชการจะเผยเปิดให้ดู แต่จะให้ส่งไปให้นั้นไม่ใช่หน้าที่ และอย่ามากล่าวหาตนมากเกินไป ส่วนบริษัทที่ได้งานจะใหญ่หรือเล็กประเทศไทยก็ไม่ควรไปกีดกัน ไม่อย่างนั้นบริษัทคนไทยจะไปได้งานในต่างประเทศได้อย่างไร ถ้าคิดแต่อย่างนี้หากเขามีคุณสมบัติครบจะไปห้ามไม่ได้ และบริษัทต่างชาติมีเพียง 12 บริษัท อีก 19 บริษัทก็เป็นของคนไทย ดังนั้นโครงการน้ำครั้งนี้คนไทยทำมากกว่า ไม่ได้เอางบประมาณ 3.5 แสนล้านบาทไปให้ต่างชาติแน่นอน
“ผมไม่มีหน้าที่ไปรับรองแทนบริษัทต่างชาติตอนนี้ยังไม่ได้ มีเพียงมีสิทธิ์แข่งเท่านั้นเอง นักวิชาการหรือนักวิชาเกินจะพูดแนะนำอะไรก็ควรมาให้ที่สำนักงานผม หรือให้เป็นลายลักษณ์ก็ยิ่งเป็นพระคุณอย่างสูง อย่าด่าผมเพราะต้องการหาเสียงเลือกตั้ง ถ้าอยากมาดูประวัติของบริษัทมาได้เลยไม่มีอะไรปิดบัง ส่วนบริษัทเกาหลีเท่าที่ผมรู้ว่าบริษัทเควอเตอร์นี้เป็นรัฐวิสาหกิจของเกาหลี และเป็นผู้พัฒนาระบบป้องกันน้ำท่วมในเกาหลี ไม่ควรไปด่า เขาไม่ปิดบัง ใครอยากดูก็มาดู ซึ่งเขามีสิทธิ์ที่จะเข้าแข่งขัน” นายปลอดประสพกล่าว
รองนายกฯ ยังกล่าวถึงกรณีนายปราโมทย์ ไม้กลัด คณะกรรมการ กยน.ระบุว่า ตนไม่กล้าเข้าพื้นที่แก่งเสือเต้น และจะสร้างเขื่อนได้อย่างไรนั้น โดยรองนายกฯ ยืนยันว่าตนเข้าพื้นที่แก่งเสือเต้นมาตลอดเพราะตนเป็นอธิบดีกรมป่าไม้ และรู้จักสนิทสนมกันดีกับทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ต.แม่สะเอียบ อ.สอง จ.แพร่ ซึ่งเป็นที่สร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วตนยังเดินทางไป จ.แพร่ ซึ่งได้ถ่ายรูปกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้านและนำมาแล้วโพสต์ลงเฟซบุ๊กด้วยเพื่อยืนยันว่าตนกับแกนนำในพื้นที่รู้จักกันดี รวมทั้งภรรยาตนเป็นเหลนแท้ๆ ของเจ้าเมืองแพร่ ยังมีอนุสาวรีย์อยู่หน้าจวนผู้ว่าฯ จะเข้าพื้นที่ป่าไม่ได้หรือ และคนที่ห้ามไม่ให้ตัดต้นไม้สักทอง ให้ไปถามภรรยาตนดูก่อนดีไหมว่าจะให้ตัดหรือไม่ให้ตัด เป็นเรื่องที่พูดกันไม่จบ อย่างนั้นต้องถามคนไทยที่เสียภาษีทุกคนด้วยว่าจะเอาเขื่อนแก่งเสือเต้น หรือจะเอาปัญหาน้ำท่วมไว้กับประเทศไทย
นายปลอดประสพกล่าวต่อว่า ซึ่งหลังอนุมัติ ครม.โครงการเหล่านี้แล้วโดยเฉพาะโครงการสร้างเขื่อน 16 แห่ง แก้มลิงและฟลัดเวย์ ซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่ ตนจะลงพื้นที่ทำประชามติทุกโครงการเพื่อถามประชาชนที่ทุกข์กับน้ำท่วมทุกปี ทั้งลุ่มน้ำยม ตั้งแต่สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตรและประชาชนทั้งในลุ่มน้ำเจ้าพระยาที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยมาตลอด แต่คนที่คอยต่อต้านมีเพียงไม่กี่คน ฝากถามว่าชาวบ้านและคนที่ทุกข์และเป็นคนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมมานานแล้วเป็นคนส่วนใหญ่หรือไม่ และสุดท้ายตนยืนยันว่าเขื่อนขนาดใหญ่ในลุ่มน้ำยมต้องสร้างได้แน่นอน