“เฉลิม” ยังดันประกาศเคอร์ฟิวใต้ คาด 15 ก.พ.ชัดประกาศหรือไม่ อ้างหวังให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้ ผูก่อเหตุลงมือยาก ถ้าไม่ดียกเลิกได้ พร้อมท้า ปชป.มีข้อเสนอดีๆ บอกว่าจะรับพิจารณา อย่าเอาแต่ติติง ระบุ ปชป.บริหารงานมา 2 ปี 6 เดือน เหตุการณ์ไม่สงบ
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปก.กปต.) กล่าวถึงแนวคิดการประกาศเคอร์ฟิวในบางพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า วันที่ 15 ก.พ.นัดหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและฟังบรรยายสรุปจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เพื่อหารือและตัดสินใจเรื่องดังกล่าว ตนยืนยันไม่มีรัฐบาลชุดไหนที่จะคิดริเริ่มทำนโยบายอะไรที่กระทบกับสังคม โดยเฉพาะพี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ หากในวันที่ 15 ก.พ.นี้ยังไม่ได้ข้อสรุป อีก 2 สัปดาห์ต่อไปต้องได้ข้อสรุป จะปล่อยให้เป็นอย่างนี้ไม่ได้
“เราต้องมาดูว่ามีพี่น้องไทยพุทธและไทยมุสลิมเท่าไหร่ มีอาชีพอะไร ปกติได้ออกไปแล้วทำอะไร หากเรากำหนดเวลาในพื้นที่บางพื้นที่ เช่น เวลา 20.00-02.00 น. หรือ 21.00-03.00 น. แต่ขณะเดียวกันพี่น้องประชาชนที่มีความจำเป็นต้องเดินทางก็มาขออนุญาต เราก็ให้ ไม่ใช่ไปประกาศแล้วใครไปใครมาไม่ได้ ต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้เข้ากับสถานการณ์ แต่เมื่อทำแล้วได้ประโยชน์มากกว่าก็ต้องทำ ดีกว่าไม่ทำ”
รองนายกรัฐมนตีกล่าวว่า ส่วนการประกอบศาสนกิจ และกรีดยาง หากมาขออนุญาตเราก็อนุญาต และหากมีการประกาศเคอร์ฟิวอำนาจอยู่ในมือเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่ได้อยู่ที่ตน การประกาศเพื่อให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้และผู้ก่อความไม่สงบลงมือยาก และพรรคประชาธิปัตย์หากมีข้อเสนอดีเอามาตนจะรับ และหากคณะกรรมการ ศปก.กปต.เห็นด้วยจะประกาศเลยว่าเป็นนโยบายพรรคประชาธิปัตย์ บ้านเมืองสงบตนไม่อายหรอก
ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในภาคใต้ขณะนี้ ถือว่าเป็นการท้าทายการประกาศเคอร์ฟิวหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ไม่ใช่ท้าทายเพราะเขาทำมาตลอด แต่พรรคประชาธิปัตย์เป็นผู้แทนในพื้นที่ 2 ปี 6 เดือนทำอะไร ตนอยากจะเอาปี๊บไปคลุมหัวพรรคประชาธิปัตย์ ตอนนี้เก่งนัก ไหนบอกว่า 99 วันทำได้สำเร็จ และหากมีการประกาศใช้เคอร์ฟิวจริงทำแล้วไม่ดีก็เลิกได้ หากเจ้าหน้าที่ตกลงก็รวบรวมกฎหมายดำเนินการ ไม่ใช่เรื่องเสียหาย และไม่จำเป็นต้องประกาศทุกพื้นที่ อะไรที่ไม่เคยทำลองทำบ้างได้หรือไม่ หากที่ประชุมไม่เอาด้วยก็เลิก
ร.ต.อ.เฉลิมยังกล่าวถึงกรณีที่นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ระบุว่า พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.หมายเลข 9 พรรคเพื่อไทย ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องโครงการก่อสร้างสถานีตำรวจทดแทนทั่วประเทศ 396 แห่ง และโครงการก่อสร้างแฟลตตำรวจ 163 หลังว่า ตนการันตีเช่นเดียวกัน มันคนละส่วน เป็นเรื่องของงบประมาณโครงการไทยเข้มแข็ง คนที่เอาเรื่องนี้ไปพูดถือว่าเข้าข่ายใส่ร้ายผู้สมัคร และตนท้านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และพรรคประชาธิปัตย์ ใครมันแกล้ง ใครมันชั่ว ใครมันเลว ใครทุจริต วันที่ 14 ก.พ.นี้ ยื่นเป็นญัตติด่วน รวมถึงนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทยที่ยังข้องใจ ร่วมถามกระทู้กับพรรคประชาธิปัตย์ได้เลย แน่จริงต้องถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์บลูสกายชาแนล และเรื่องนี้ไม่ว่าจะเป็น พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ อดีต ผบ.ตร. และพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. รวมถึงรัฐบาลนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เป็นการทำตามสัญญาเดิมทั้งนั้น ส่วนที่ดูแล้วว่าจะสร้างไม่เสร็จแต่ไม่ได้ยกเลิก เพราะถ้าเลิกก็คุก สัญญาเขาทำไว้ และทำสัญญาหละหลวมถึงต้องเช็กบิล