ข่าวปนคน คนปนข่าว
ยังคงเป็นเรื่องทุ่มเถียงไม่จบภายในรัฐบาลพรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดง สำหรับการออกกฎหมายนิรโทษกรรมว่าจะออกเป็นพ.ร.บ.หรือพ.ร.ก.หรืออะไรกันแน่
แรกเริ่มเดิมทีข้อเสนอการออกกฎหมายนิรโทษกรรมดูเหมือนเป็นสิ่งต้องห้าม ที่รัฐบาลไม่กล้าแตะ เพราะเป็นของร้อน แตะเมื่อไหร่ลวกมือเมื่อนั้น
คราวก่อนๆ แค่ออกเสนอกฎหมายปรองดอง แก้รัฐธรรมนูญ ยังโดนสกัดกั้นขัดขวางจนไปไม่เป็น ล้มไม่เป็นท่า เรื่องซาๆ ลงไปจนเงียบหายไปหมดแล้ว ก็เลยมีข้อเสนอแหลมๆ ออกมาจากฝ่ายเสื้อแดง
คราวนี้ออกมาแบบสุดโต่งให้ออกเป็นพ.ร.ก.นิรโทษกรรมมันเสียเลย
หยั่งเชิงกระแสสังคม โยนหินถามทางออกมา ดูเหมือนว่าแรงเสียดทานจะน้อยกว่าครั้งเก่าก่อน ดูเหมือนว่าจังหวะเวลาพอจะได้อยู่ เมื่อเห็นดังนั้นคนเสื้อแดงจึงเดินเกมแฝงเล่ห์ สร้างภาพกดดันรัฐบาล กดดัน “ปูกรรเชียง” ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จนอ้ำๆ อึ้งๆ กรรเชียงหนีโยนให้ฝ่ายอื่นไปศึกษาตามถนัด
เรื่องนี้เหมือนคนเสื้อแดงจะลุยกันมาเป็นขบวนการ ฟากนปช.ยืนกรานจะเสนอเป็นร่างพ.ร.ก.นิรโทษกรรม ผลักดันกันสุดลิ่มทิ่มประตู พร้อมเอ่ยอ้างเหตุผลคนติดคุก คนถูกดำเนินคดี มามัดมือชกรัฐบาล เรียกกระแสมวลชนสนับสนุนได้มากโข
เท่านั้นไม่พอยังมีคนเสื้อแดงอีกกลุ่มเรียกตัวเองว่ากลุ่ม 29 มกราปล่อยนักโทษการเมือง ออกมาเดินขบวนไปยังทำเนียบฯกดดันรัฐบาลอีกกระทอก ร้อนถึง เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ต้องออกมาขึ้นเวทีคนกันเองชี้แจง เชิงห้ามปรามว่ารีบร้อนทำไม่ได้ จนต้องโดนตะโกนไล่หน้าม้านกลับไป ตรงนั้นยังไม่รู้ว่าเป็นของจริงหรือเกมปาหี่กันแน่!!
แต่ดูเหมือนว่าเกมนี้คนเสื้อแดงจะทำเข้าเป้า เพราะนอกจากรัฐบาลยังต้องรับเรื่องไว้พิจารณาแล้ว ก็ต้องหาทางออกกฎหมายตรงนี้ออกมาเช่นเดียวกัน หากนิ่งเฉยรับประกันซ่อมฟรีถูกด่าเปิดเปิง จึงต้องขยับออกเป็นร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซึ่งน่าสังเกตว่าเป็นข้อเสนอของคอ.นธ. ของ อุกฤษ มงคลนาวิน ออกมาแบบสอดคล้องต้องเวลา
การออกเป็นพ.ร.บ.น่าจะทำให้รัฐบาลหายใจหายคอคล่องกว่าการออกเป็นพ.ร.ก. ที่จะต้องโดนซัดเต็มๆ เพราะเป็นการออกกฎหมายมาใช้เลยแล้วค่อยไปขอความเห็นชอบจากรัฐสภา มันก็จะมีคำถามจากบางฝ่ายเป็นเรื่องจำเป็น เร่งด่วนจริงๆ จนถึงขั้นต้องออกเป็นพ.ร.ก.กระนั้นหรือ ขณะเดียวกันคนในรัฐบาลเองก็เชื่อมั่นว่าจะต้องมีดาบตามมาฟาดกบาลอย่างแน่นอน เมื่อออกเป็นพ.ร.ก.จะโดนเรื่องร้องเรียนตามมาเต็มไปหมด
เมื่อเรื่องขึ้นโรงขึ้นศาลเมื่อไหร่ก็ซวยเมื่อนั้น ฉะนั้นจึงต้องหาทางหลีกเลี่ยงให้มากที่สุด การออกเป็นพ.ร.บ.ต้องผ่านความเห็นชอบสภา ก็น่าจะปลอดภัยกว่า ไม่ต้องเอาเผือกร้อนมายัดใส่มือตัวเอง แต่วันนี้รัฐบาลก็ยังไม่ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันโยนเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาศึกษา เตะถ่วงไปอีกตามเคย
วันนี้ถ้าไปถามความเห็นแกนนำนปช. แกนนำคนเสื้อแดง ก็จะได้คำตอบตรงกันว่าควรต้องออกเป็นร่างพ.ร.ก. เพราะมันรอไม่ได้แล้ว แต่เมื่อรัฐบาลยังไม่กล้าทำตาม เล่นเกมเตะถ่วงอย่างนี้ เลยไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะทำอะไรมากก็ไม่ได้ “คนกันเอง”ทั้งนั้น
แกนนำเสื้อแดงก็เล่นเกมปาหี่ไปในทีเช่นเดียวกัน เล่นเกมตบตาเยียวยาจิตใจญาติมิตร ผู้เสียชีวิต และยังติดคุกหัวโตอยู่!!
ถือว่าได้ทำแล้ว ได้เรียกร้องแล้ว คนเสื่อแดงจะมาหาว่าแกนนำไม่ทำอะไรเลยไม่ได้ จากนี้ไปก็เป็นเรื่องของรัฐบาล เรื่องของผู้มีอำนาจที่จะตัดสินใจ ปัดสวะพ้นตัวไปแล้ว!!
ข้อเรียกร้องตรงนี้เป็นสิ่งที่วอนขอกันเรื่อยมาสำหรับมวลหมู่คนเสื้อแดง และยิ่งนับวันจะยิ่งรุนแรง และดังขึ้นเรื่อยๆ ทั้งคนในพรรคเพื่อไทย ในรัฐบาล และแกนนำนปช. ต่างรู้ดีถึงความต้องการในข้อเสนอนี้ แม้แต่ นักโทษหลบหนีคดี “ทักษิณ ชินวัตร” เองก็รับรู้ได้เช่นกัน
ต้องส่งสาร ส่งข้อความจากแดนไกลมาย้ำเตือนประโลมโลกคนเสื้อแดงกันบ่อยๆ บอกว่าจะต้องรีบช่วยคนเสื้อแดงที่เป็นเหยื่อทางการเมืองอย่างนั้นอย่างนี้ มาทีก็พูดที แล้วก็เงียบไปไม่มีสิ่งใดเป็นรูปธรรม
กระนั้นก็ดี สิ่งนี้ก็ต้องเป็นสิ่งที่ต้องแสดงให้เห็นถึงความพยายามต่อไปว่าไม่ได้ละเลยให้ความช่วยเหลือ ล่าสุด “ตี๋เล็ก” เจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนฯก็ได้รับใบสั่งงานมาอีกทางหนึ่งเรียกแกนนำคนเสื้อแดง พรรคการเมืองทั้งฝ่ายรัฐบาลฝ่ายค้าน รวมทั้ง “ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์” โฆษกกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ไปหารือนอกรอบถึงการออกกฎหมายนิรโทษกรรม
สร้างภาพให้ใกล้ความจริง เหลือง-แดง จับมือออกกฎหมายนิรโทษกรรม เบื้องต้นจะให้ส.ส.เสนอร่างพ.ร.บ.เข้าสู่สภา แยกเป็น 2 ส่วนหลักๆ อันหนึ่งก็คือการเสนอนิรโทษให้กับประชาชนผู้ชุมนุมทางการเมืองทั้งเหลืองแดง อีกอันหนึ่งจะตั้งกรรมการขึ้นมาพิจารณาเป็นรายคดี ฟังแล้วดูดี-มีความเป็นไปได้
แต่น่าสนใจว่า รายละเอียดที่แท้จริงจะเป็นอย่างไรกันแน่ ไอ้ที่ปากดีพ่นน้ำลายใส่กันอย่างที่ “โอ๊ค” พานทองแท้ ชินวัตร เด็กจอมปีนเกลียวออกมาท้าเหยงๆ ว่าอย่านิรโทษพ่อตัวเองนั้น เอาเข้าจริงจะเป็นอย่างไรกันแน่ หากมีข้อเสนอจากฝ่ายนิติบัญญัติออกมาให้นิรโทษกรรมทั้งหมด รวมไปถึงนักโทษหลบหนีคดีชื่อทักษิณ ไม่แน่ว่าวันนั้น “โอ๊ค” อาจนิ่งเงียบ ทำเฉไฉไม่รู้เรื่อง
รวมไปถึงแกนนำคนเสื้อแดงที่ปากกล้าขาสั่น บอกให้นิทรโทษแต่ประชาชนที่มาชุมนุม ไม่ต้องนิรโทษให้แกนนำ พูดโคตรเท่ว่าจะเดินหน้าฝ่าคดี จะติดคุกกี่ครั้งก็ยอม เอาเข้าจริงเมื่อมีการเขียนกฎหมายนิรโทษกรรมอานิสงส์พาดพิงมาถึง ขี้คร้านจะกบดานหายเงียบ แอบไปสนับสนุนอยู่เบื้องหลังให้รีบๆ ทำ เพราะชั่วโมงนี้คดีวีรเวรที่ก่อไว้มันมากมายจนสูงท่วมหัว
ต้องจับตาว่าวิธีการใหม่ๆ ที่รัฐบาลและเครือข่ายกำลังทำอยู่นี้ มันมีเจตนาอย่างไร ทำเพื่อประชาชนผู้ชุมนุมอย่างเดียวจริงหรือไม่ แต่อย่างว่านิสัยเดิมๆ รู้กันดีอยู่ชอบมีประโยชน์ทับซ้อน แฝงเล่ห์เพทุบายเป็นประจำ เมื่อถูกจับได้ไล่ทันก็ต้องเลิกราไป แต่ก็ไม่อายทำมาใหม่อีกเรื่อยๆ
หรือครั้งนี้จะเป็นปาหี่ต้มคนดู ซื้อเวลา หลอกคนเสื้อแดงไปวันๆ อีกครั้งหนึ่ง เพราะต้องอย่าลืมว่าตอนนี้รัฐบาลอยู่ในวาระมาเพียงปีกว่า เหลือเวลาอยู่อีกตั้งนาน การจะไปเสนอกฎหมายอะไรที่แหลมคม ก็เหมือนหักด้ามพร้าด้วยเข่า เสี่ยงเจ็บตัว เสียอำนาจ
ฝ่ายยุทศาสตร์ประเมินแล้วไม่ต้องรีบร้อน ฉะนั้นคนเสื้อแดงที่ติดคุก ติดตะราง คงต้องรอไปอีกนานหน่อย
ตอนใกล้ๆ จะหมดวาระของรัฐบาลนี้นั้นแหละ เราอาจจะเห็นการเดินหน้าทำเรื่องพวกนี้อย่างจริงจัง เดิมพันตอนนั้น ไม่เจ็บตัว ไม่เสียต้นทุนมากเท่าตอนนี้!!
