รายงานการเมือง
น่าจับตากับนัดหมายของ “กลุ่มคนเสื้อแดง” 2 กลุ่ม ที่เป็นฐานเสียงหลักของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตรและพรรคเพื่อไทยที่เกิดขึ้นพร้อมกันในวันอังคารที่ 29 มกราคมนี้
นัดหมายแรกคือ กลุ่มเสื้อแดงสาย ขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดรฯ จะนำแกนนำ นปช.อีสาน 20 จังหวัดไปยื่นหนังสือสนับสนุนการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมนักโทษคดีชุมนุมการเมืองต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยอ้างว่าเพื่อแสดงให้เห็นว่าเสื้อแดงหนุนการออกกฎหมายนิรโทษกรรมบนหลักคือให้อิงแนวทางเดียวกับของกลุ่มนิติราษฎร์ที่เสนอไปก่อนหน้านี้
เสนอให้นิรโทษกรรมกับประชาชนที่ร่วมชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ 19 ก.ย.49 - 9 พ.ค. 55 ไม่ว่าจะเป็นแกนนำหรือผู้ชุมนุม แต่ไม่รวมผู้สั่งการ-เจ้าหน้าที่รัฐและการนิรโทษกรรมให้ทำเฉพาะคดีที่มีความผิดลงโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี
ขวัญชัยบอกไว้ก่อนหน้านี้ว่า เมื่อเสนอข้อเรียกร้องไปแล้ว รัฐบาลจะว่าอย่างไรจะทำตามหรือไม่ทำตาม เสื้อแดงอีสานก็จะมาคุยกันอีกที แต่แนวทางคือต้องการให้ออกเป็น พ.ร.บ.ไม่ใช่พระราชกำหนดอย่างที่ฝ่ายแกนนำ นปช.ส่วนกลาง นำโดย ธิดา ถาวรเศรษฐ เสนอ
อย่างไรก็ตาม นัดหมายดังกล่าวของขวัญชัย ต้องดูว่าถึงเวลาจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรหรือไม่ จะไปที่ทำเนียบรัฐบาลหรือที่ไหน เพราะวันอังคารที่ 29 ม.ค.นี้ จะมีการประชุมร่วมรัฐสภา ก็อาจทำให้นายกรัฐมนตรีไม่ได้อยู่ที่ทำเนียบรัฐบาลเพราะย้ายไปประชุมครม.ที่รัฐสภา รวมถึงต้องดูอีกว่าข้อเรียกร้องดังกล่าวจะไปถึงมือนายกรัฐมนตรีหรือไม่
แต่ข่าวบอกมาว่าแกนนำ นปช.อีสานหลายจังหวัด ต่างนัดหมายกันไว้หมดแล้วว่าจะเข้ากรุงเทพฯมาพร้อมกับขวัญชัย เพื่อเร่งรัดให้มีการออกกฎหมายนิรโทษกรรมดังกล่าว
หลังก่อนหน้านี้แกนนำ นปช.ส่วนกลางพยายามเสนอให้รัฐบาลออกพระราชกำหนดนิรโทษกรรมที่ก็มีหลักการคล้ายคลึงกับของนิติราษฎร์เพียงแต่ของนิติราษฎร์จริงๆ แล้วเสนอให้ใช้วิธีแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อเพิ่มหมวดนิรโทษกรรมส่วนนี้เข้าไป การออกเป็น พ.ร.ก.อย่างที่พวกแกนนำ นปช.เรียกร้อง
แต่ปรากฏว่าข้อเสนอทั้งของนิติราษฎร์-แกนนำ นปช.ส่วนกลาง ต่างก็ไม่มีเสียงตอบรับจากฝ่ายนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย
จึงทำให้เสื้อแดงหลายจังหวัดโดยเฉพาะแดงอีสานซึ่งมีคนของพวกตัวเองติดคุกอยู่ในเรือนจำที่กรุงเทพฯมากที่สุด ชักทนไม่ได้ ต้องออกมาเคลื่อนไหว เลยเข้าทาง “ขวัญชัย” ที่มารับหน้าเสื่อแทนให้
อาจเพราะหวังเป็นตัวกลางในเรื่องนี้ระหว่างรัฐบาลกับเสื้อแดงอีสาน จะได้พอมีบทบาทการเมืองอะไรให้ทักษิณ ชินวัตร เรียกใช้งานได้บ้าง
ส่วนอีกนัดหมายหนึ่งในวันเดียวกันก็คือ การเคลื่อนไหวของ “กลุ่มนักกิจกรรม-นักวิชาการสายเสื้อแดง” ที่มักรวมตัวกันทุกวันอาทิตย์หน้าศาลอาญา รัชดาฯเพื่อจัดกิจกรรมพบปะคนเสื้อแดงและจัดงานเสวนาเสื้อแดงกันทุกวันอาทิตย์ โดยมีเป้าหมายสำคัญคือการเรียกร้องให้มีการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และการเรียกร้องให้มีการนิรโทษกรรมคนเสื้อแดงที่ถูกคุมขังในคดีการเมือง
ทั้งนี้ กลุ่มดังกล่าวเรียกตัวเองว่า “กลุ่มปฏิญญาหน้าศาล” ซึ่งล่าสุดชักอดรนทนไม่ไหวกับรัฐบาลยิ่งลักษณ์และพรรคเพื่อไทยแล้ว ที่ยังนิ่งเฉยไม่ยอมทำอะไรเสียทีกับการช่วยเหลือนักโทษคดีการเมืองที่เป็นคนเสื้อแดงซึ่งอยู่ในคุกร่วม 22 คน
เพราะข้อเสนอให้ออก พ.ร.ก.นิรโทษกรรมตามแนวทางของแกนนำ นปช.ก็ไม่ทำ ข้อเรียกร้องนิติราษฎร์ที่ให้แก้ไข รธน.เพื่อให้มีการนิรโทษกรรมคดีชุมนุมการเมืองก็ไม่ขยับ
แถมยังมีหนี้ค้างเก่าที่คนเสื้อแดงไม่พอใจรัฐบาลเพื่อไทย ที่ค้างคาอยู่ ทั้งเรื่องไม่ยอมเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญตามที่หาเสียงไว้รวมถึงไม่ยอมแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ตามที่พวกแดงสายนักวิชาการเรียกร้อง ยิ่งเมื่อศาลอาญามีคำพิพากษาลงโทษจำคุก 10 ปี “สมยศ พฤกษาเกษมสุข” กรณีทำผิดมาตรา 112
เสียงไม่พอใจของพวกแดงนักกิจกรรมเลยชักไม่ไหว ต้องมีการเคลื่อนไหวกันบ้าง เลยเป็นที่มาของเสื้อแดงกลุ่มนี้ ที่นัดหมายทำกิจกรรมกันในชื่อ “กลุ่มแนวร่วม 29 มกราฯ ปลดปล่อยนักโทษการเมือง”ซึ่งนัดรวมตัวกันในวันที่ 29 ม.ค.นี้ เวลา 08.00 น. ที่ลานพระบรมรูปรัชกาลที่ 5 จากนั้นก็จะร่วมเดินทางไปยังทำเนียบรัฐบาล เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาล ออกกฎหมายนิรโทษกรรมกับคนเสื้อแดงที่ถูกดำเนินคดีการเมือง
นัดหมายของขวัญชัยและกลุ่มปฏิญญาหน้าศาล สองนัดหมายนี้ ถูกคนเสื้อแดงจำนวนมากจับตามอง ว่าจะมีการเอาจริงเอาจังกันแค่ไหนกับการรุกให้รัฐบาลออกกฎหมายนิรโทษกรรมดังกล่าว
จะทำจริง เอาแน่ จะไล่บี้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ชนิดไม่มีถอย หรือจะทำเพื่อสร้างกระแสเอาใจมวลชนเสื้อแดง เสร็จแล้วก็เลิกรากันไปไม่ได้คิดจริงจัง
ในส่วนของกลุ่ม แนวร่วม 29 มกราฯ ปลดปล่อยนักโทษการเมืองที่มีแกนนำเช่น พวงทอง ภวัครพันธุ์ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ เสื้อแดงส่วนใหญ่เชื่อว่าคงเอาจริงแน่นอน เพราะเป็นกลุ่มเคลื่อนไหวที่ไม่ใช่พวกนักการเมือง จึงไม่ต้องเกรงใจพรรคเพื่อไทยและรัฐบาล ส่วนจะรุกหนักแค่ไหน ดูแล้วก็คงไม่ถึงกับไล่บี้หนักเพราะคนในกลุ่มนี้เกือบทั้งหมดเป็นพวกทำกิจกรรมไม่ใช่นักการเมืองแบบจตุพร พรหมพันธุ์-ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ จึงไม่มีมวลชนอะไรในมือจะไปเคลื่อนไหวกดดันรัฐบาลได้
แต่ในส่วนของพวกขวัญชัย ไพรพนานั้น หลายคนก็ยังมองว่าคงเคลื่อนไหวเชิงการเมืองเป็นหลักไม่ได้คิดจริงจังอะไร เพราะหากคิดอยากช่วยเสื้อแดงที่ติดคุกอยู่จริง คงทำไปตั้งนานแล้ว ไม่ใช่คิดมาทำเอาในช่วงนี้ ที่เรื่องการเรียกร้องให้ออกกฎหมายนิรโทษกรรมอยู่ในกระแสความสนใจของคนเสื้อแดงทั่วประเทศ
ยิ่ง “คณะกรรมการอิสระว่าด้วยการส่งเสริมหลักนิติธรรมแห่งชาติ” (คอ.นธ.) ซึ่งตั้งโดยมติ ครม.รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่มีอุกฤษ มงคลนาวินเป็นประธานก็ออกข้อเรียกร้องเสนอให้ฝ่ายนิติบัญญัติออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมกับประชาชนที่ร่วมชุมนุมทางการเมืองหรือการแสดงออกทางการเมืองในช่วง 19 ก.ย. 54 ถึง 10 พ.ค. 54 อันเป็นวิธีซึ่งเป็นไปได้มากกว่าข้อเสนอของนิติราษฎร์ที่ให้แก้ไขรธน.และของนปช.ที่ให้ออกเป็นพระราชกำหนด
กระแสการเสนอให้ออกกฎหมายนิรโทษกรรมตอนนี้ ก็เลยทำให้แกนนำนปช.หลายคน ก็ต้องพยายามโหนเอาไว้ด้วย เพื่อไม่ให้ตกขบวนมวลชนฝั่งตัวเอง
มันก็อยู่ที่ฝ่ายซึ่งมีอำนาจในการทำเรื่องนี้ ทั้งคณะรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย แล้วว่า จะเอาอย่างไร จะตีกรรเชียงหนีเสื้อแดงไปเรื่อยๆ ซื้อเวลาไปให้นานที่สุด มันก็ทำได้ แต่ก็ต้องระวัง เพราะเสื้อแดงคงไม่ทนร้องเพลง
รู้เขาหลอก แต่เต็มใจให้หลอก ไปตลอดชีวิต