เกาะกระแส
00 เป็นเรื่องเปิดโปงขึ้นมาจนได้สำหรับ “โพลรับจ้าง” หรือ รับจ้างโพล เพื่อสร้างกระแสชี้นำทางการเมือง ล่าสุด “สวนดุสิตโพล” ของมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิตก็กำลังอยู่ในช่วงสั่นสะเทือนอย่างหนัก หลังจาก มานิจ สุขสมจิตร ได้ลาออกจากนายกสภามหาวิทยาลัย เนื่องจากทนความอับอายไม่ไหว ทนเห็นการ “รับใช้การเมือง” แบบสุดลิ่มทิ่มประตู ทำโพลผิดหลักวิชาการ ความหมายก็คือ “รับจ้างโพล” นั่นแหละ ทำให้กลายเป็นเรื่องสั่นสะเทือนวงการ โดยเฉพาะพวก “แก๊งทำโพล” ทั้งหลายที่มีอยู่หลายสำนักในเวลานี้ “เสียเครดิต”จนป่นปี้แทบไม่เหลืออีกแล้ว ไม่เหลือจนอยากจะให้ทำโพลว่าสำนักไหนห่วยแตกที่สุด หรือว่าพอๆกัน
00 จะว่าไปบรรดาโพล โดยเฉพาะ “สวนดุสิตโพล” ที่มี “สุขุม เฉลยทรัพย์” เป็นหัวเรือใหญ่ระยะหลังแทบไม่มีความน่าเชื่อถือเหลืออยู่เลย เพราะทั้งตัวบุคคลที่แสดงบทบาทเอียงเข้าหาฝ่ายการเมือง หมดสภาพทางวิชาการมาตั้งนาน กลายเป็นว่าโพลของสวนดุสิตที่ดำเนินการมานานแทนที่จะสร้างชื่อเสียงกลับกลายเป็นตรงกันข้ามฉุดให้สถาบันมัวหมองจากการทำโพลมากกว่า และยิ่งมีการลาออกของ นายกสภาฯอย่าง มานิจ สุขสมจิตร ซึ่งเป็นสื่ออาวุโสยังได้รับความเชื่อถือในวงการออกมาตอกย้ำว่าเป็น “โพลการเมือง” ก็ยิ่งไม่มีอะไรเหลือ และทางที่ดีคนที่ชื่อ “สุขุม เฉลยทรัพย์” นั่นแหละสมควรลาออกด้วย เพราะอยู่ไปก็ไร้ประโยชน์
00 แน่นอนว่าเรื่องที่เกิดขึ้นสะเทือนไปถึงผลสำรวจคะแนนนิยมของผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.ที่ผลออกมาตรงกันว่า พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ จากพรรคเพื่อไทยมีคะแนนนำและต่อมานำห่าง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ซึ่งหลายคนเชื่อว่าเป็นผลมาจาก “โพลสร้างกระแสชี้นำ” ขึ้นมาก่อน จากนั้นก็โหมปูพรมทางสื่อตามมา “จนติดลม” หลังจากนั้นก็ไม่ต้องทำอะไรมาก เพราะทุกสัปดาห์จะมีผลโพลออกมาตอกย้ำว่า “ยังนำ” จนถึงเส้นชัย
00 งานนี้อาจจะเรียกว่าเป็นแทกติกเจ้าเล่ห์ของฝ่ายพรรคเพื่อไทยก็ว่าได้ เพราะหลังจากใช้โพลสร้างกระแส พงศพัศ ฉุดขึ้นมานำ สุขุมพันธุ์ ขณะเดียวกันก็ต้องยอมรับว่าฝ่ายหลัง “ไร้สีสัน” ไม่มีจุดขายใหม่ อีกทั้งของเดิมที่ทำมาชาวบ้านก็นึกไม่ออกว่า 4 ปีที่ผ่านมาในเก้าอี้ผู้ว่าฯกทม.ได้ทำอะไรให้จดจำบ้าง มิหนำซ้ำพรรคที่ตัวเองสังกัดก็ยังโดนฝ่ายตรงข้ามคือรัฐบาลเล่นงานหนักข้อจนไปไม่เป็นอยู่ในขณะนี้ เรียกว่ากระหน่ำ “มาเป็นชุด” เพราะยังไม่ทันหายมึนจากเรื่องอื้อฉาวโครงการทุจริตสร้างโรงพักตำรวจทั่วประเทศที่แน่นอนว่าต้องการพุ่งหอกมาทิ่มแทง สุเทพ เทือกสุบรรณ แล้ว หรือก่อนหน้านั้นก็มีเรื่องการปล่อยตัว ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ และลดโทษ วีระ สมความคิด ที่ตอกย้ำต้นตอทำให้ถูกขังคุกเขมรฟรีกว่า 2 ปี ล่าสุดเจอเข้าอีกดอกคือ “บ่อนเตาปูน” !!
00 มองดูเผินๆไม่น่าจะเกี่ยว แต่ถ้าถามว่าพูดถึง บ่อนเตาปูนแล้ว “นึกถึงใคร” รับรองว่าในวงการต้องร้องอ๋อ อยู่แล้ว และแน่นอนว่าเมื่อ ปปง.แถลงข่าวใหญ่โตว่ามีการอายัดทรัพย์ 10 ล้านบาท มันก็ย่อมสะเทือนไปถึงปชป.อีกจนได้ เพราะอย่าลืมลูกชายของเจ้าของบ่อนเป็น ส.ส.อยู่ในสังกัดพรรคเสียด้วย ทีนี้พอเห็นภาพหรือยัง อ้อ แม้ว่างานนี้เป็นเรื่อง “การเมือง” รับรู้ได้ไม่ยาก แต่ช่วยไม่ได้ในเมื่อลูกเข้าทาง รู้จักหาจังหวะเล่นงานมันก็เป็นแบบนี้แหละ แล้วเรื่องไล่บี้แบบนี้ เฉลิม อยู่บำรุง เขาถนัดอยู่แล้ว ก๊าบๆ !!